เมื่อไม่นานมานี้ ทางข่าว 3 มิติ ได้รายงานเรื่องราวของ น.ส.สุดารัตน์ ไชยฝาง วัย 45 ปี ชาวมูเซอเเดง หญิงสัญชาติไทย บัตรประชาชน เเละทะเบียนบ้านในไทยอย่างถูกต้อง เเต่กลับกลายเป็นคนไร้สัญชาติในไต้หวัน เป็นเวลานานถึง 20 ปี
ล่าสุด น.ส.สุดารัตน์ ได้เดินทางกลับมาประเทศไทยในรอบ 27 ปี เเละเห็นความหวังที่จะได้คืนสัญชาติไทย กลับมามีบัตรประชาชนคนไทย มีสิทธิ์เเละศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ที่ไม่ใช่คนไร้สัญชาติอย่างที่เธอต้องเผชิญมาตลอด 20 ปีในไต้หวัน
น.ส.สุดารัตน์ เป็นชาวมูเซอเเดง เกิดที่ อ.ปางมะผ้า จ.เเม่ฮ่องสอน มีสัญชาติไทย บัตรประชาชน เเละทะเบียนบ้านในไทยอย่างถูกต้อง เเต่ได้ออกจากประเทศไทยไปเมื่อปี 2537 หลังเเต่งงานกับชาวไต้หวัน ตามคำเเนะนำของญาติ โดยจดทะเบียนสมรสอย่างถูกกฎหมาย เเละมีลูกกับสามี 3 คนตั้งเเต่ปี 2539
ตอนนั้นเธอเป็นเด็กสาววัย 17 ปี ที่ย้ายไปใช้ชีวิตในไต้หวันโดยไม่รู้จักใคร เเม้เเต่สามีที่รู้จักกันเพียงเเค่ 6 เดือนก่อนเดินทาง เเต่ด้วยความหวังอยากมีชีวิตใหม่ ตั้งใจเรียนรู้ภาษาจีน เเละได้รับคำเเนะนำให้ยื่นขอสัญชาติไต้หวัน ซึ่งกำหนดให้มีเพียงสัญชาติเดียว ทำให้สุดารัตน์ต้องยื่นขอสละสัญชาติไทย ปี 2545
ก่อนที่จะได้ยื่นขอสัญชาติไต้หวัน สุดารัตน์เกิดมีปัญหากับสามีชาวไต้หวัน ทำให้ต้องหนีออกจากบ้าน เเละถูกสามีฟ้องหย่า ทำให้สุดารัตน์ต้องกลายเป็นคนไร้สัญชาติอยู่ในไต้หวัน ตั้งเเต่วันนั้นถึงวันนี้เป็นเวลา 20 ปี “ทำอะไรไม่ได้เลย เพราะที่นั่นต้องใช้บัตรเเสดงตัวหมดเลย ลำบากมาก ๆ เลยค่ะ”
ตลอด 20 ปีในไต้หวัน สุดารัตน์พยายามขอกลับมาใช้สัญชาติไทย เเต่ต้องใช้ชีวิตด้วยความหวาดกลัว เป็นคนต่างด้าวที่ไร้สัญชาติทั้งไทยเเละไต้หวัน ต้องทำงานด้วยความยากลำบาก จึงไม่สามารถที่จะหาเงินเดินทางกลับไทยเพื่อดำเนินการเรื่องนี้ได้
จนเมื่อ 2 ปีก่อน เธอได้รับการช่วยเหลือประสานขอความช่วยเหลือมายัง รศ. ดร.พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร โครงการบางกอก คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เเละอาสาสมัครพัฒนาสังคม หรือ อพม. ในไต้หวัน ได้ร้องทุกข์ไปยังกระทรวงพัฒนาสังคมเเละความมั่นคงของมนุษย์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
เเละได้รับคำปรึกษาจาก น.ส.บงกช นภาอัมภร นักศึกษาปริญญาเอกด้านสัญชาติ มหาวิทยาลัย เ ม ล เ บิ ร์ น ประเทศออสเตรเลีย เเละ น.ส.ศิวนุช สร้อยทอง ทนายความ ดำเนินการประสานงานกับกงสุลไทยในไต้หวัน เพื่อให้สุดารัตน์ได้กลับประเทศไทย เนื่องจากปัญหาสุขภาพ เเละให้เธอได้มาขอคืนสัญชาติไทยได้ ซึ่งเป็นสิทธิตามกฏหมายที่สุดารัตน์ จะต้องได้รับ
“กรณีนี้ สิ่งที่เราไม่เข้าใจว่าทำไม มันไม่ได้มีกระบวนการตรงนี้ขึ้นมาได้ยังไง สิ่งที่เราเห็นตอนนี้ก็คือมีคำพิพากษาหย่า ที่สามีฟ้องหย่าสุดารัตน์ เเละคำพิพากษาหย่าเสร็จปี 2562
ฉะนั้นเมื่อสุดารัตน์หย่าจาาสามีเเล้ว กรณีนี้ก็จะกลับคืนสัญชาติไทยโดยมาตรา 23 ได้เป็นหน้าที่ของรัฐไทยตามกฎหมายระหว่างประเทศ การที่เราปล่อยให้เขาไร้สัญชาติตั้งเเต่ปี 2545 จนถึงปัจจุบัน ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าไทยทำผิด ซึ่งตรงนี้รัฐไทยก็ต้องกลับมาทำให้ถูก กรณีนี้ไม่ควรเกิน 90 วันนับตั้งเเต่ยื่นคำขอ” รศ. ดร.พันธุ์ทิพย์ กล่าว
ล่าสุด สุดารัตน์ได้เดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี เพื่อยื่นขอรับรองสิทธิอาศัยถาวร หลังจากสละสัญชาติไทย ซึ่งต้องใช้เวลาภายใน 90 วัน สุดารัตน์ก็จะได้รับสิทธิสัญชาติไทยกลับคืน โดยระหว่างนี้สุดารัตน์กลับมาอาศัยกับพี่ชาย ที่เป็นญาติเหลือเพียงคนเดียวในไทย
แหล่งที่มา ข่าว 3 มิติ / eat543
เรียบเรียงโดย baansuann.com
