พระเลี้ยงลูกคน ผู้เป็นเสมือน เทวดา ของเด็ก ๆ อุปการะเลี้ยงดูเด็กมาแล้วกว่า 100 คนทั้งส่งเรียน และอบรมสั่งสอน หวังให้พวกเขาได้เติบโตเป็นคนดีของสังคม
ในสังคมไทยปัจจุบัน มีเด็กมากมายถูกนำไปทิ้งในสถานที่ต่างๆ สาเหตุหลักส่วนใหญ่มักเกิดจากพ่อแม่ที่ไม่พร้อม ครอบครัวมีฐานะยากจนเกินกว่าที่จะดูแลเด็กได้
และปัญหาเนื่องจากเด็กเกิดมาบกพร่องไม่เป็นที่ต้องการของครอบครัว
สุดท้ายเด็กก็ต้องไปอยู่ในความดูแลของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ๅต่างๆ
เป็นภาระที่หนักมากสำหรับการเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้เติบโตขึ้นมาท่ามกลางสภาพแวดล้อมเหล่านั้น ซึ่งอาจยิ่งก่อให้เกิดปัญหาสังคมอื่นๆ ตามมา
“พระครูสมุห์ทองมา อคคธมโม หรือหลวงพ่อทองมา” อายุ 50 ปี บวชมา 26 พรรษา เจ้าอาวาสวัดป่าดอนใหญ่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ต้องการแบกรับภาระไว้เอง
เนื่องจากสงสารเด็กตาดำๆ ที่ไม่เป็นที่ต้องการของผู้ที่ได้ชื่อว่าพ่อแม่ ท่านยอมเหนื่อยยื่นมือรับเด็กๆ
มาอุปการะเลี้ยงดูให้ข้าว ให้น้ำ ให้นม ให้การศึกษา ให้ธรรมะกับพวกเขา หวังไว้สิ่งเดียวคือให้เขาเติบโตขึ้นมาเป็นคนดีของสังคม
หลวงพ่อทองมา บอกว่า อาตมาศึกษาพระธรรมมาพอสมควร ทั้งงานทางโลก-ทางธรรมปฏิบัติอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด
เมื่อ 20 กว่าปีก่อนพบว่าประเทศไทยมีเด็กๆ ที่ประสบปัญหาครอบครัวยากจน, พ่อแม่เลิกราไปมีครอบครัวใหม่
หรือแม้กระทั่งพ่อแม่อยู่ในวัยที่ไม่พร้อมมีลูก ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ มากมาย กระทั่งปี 2540 ไปพบเด็กชายคนหนึ่งมีปัญหาพ่อแม่แยกทางกัน
ส่งผลให้เด็กขาดการดูแลเอาใจใส่เลี้ยงดูอย่างที่ควรจะเป็น จึงลองเอ่ยปากถามโยมพ่อแม่ของเด็กว่าอยากจะให้อาตมาช่วยเลี้ยงดูอุปการะหรือไม่
พ่อแม่เด็กยินยอมพร้อมยกให้อย่างดีอกดีใจ
ตั้งแต่นั้นมาเป็นจุดเริ่มต้นจนถึงทุกวันนี้ที่ส่งเสียเลี้ยงดูอุปการะเด็กที่มีปัญหาทางครอบครัว หรือทางสังคมมากว่า 30 รุ่น มากกว่า 100 คน
ส่งเสียให้เรียนจนจบจนสุดความสามารถของเด็กที่จะเรียน และพอใจ
พระนักบุญบอกต่อว่า อาตมาไม่ได้เป็นพระที่ร่ำรวยมีเพียงเงินจากรับกิจนิมนต์สวดมนต์ตามงานบุญเท่ๅนั้น
และก็มีปัจจัยจากชาวบ้านภายในหมู่บ้านบ้านดอนใหญ่ และชาวบ้านในตลาดด่านขุนทดที่ทุกๆ เช้า
อาตมาและพระเณรเดินบิณฑบาตข้าวน้ำมา เพื่อเลี้ยงดูอุปการะเด็กเหล่านี้ จนเติบใหญ่แข็งแรง
“เด็กคนนี้ก็เลี้ยงเหมือนเด็กคนอื่นๆ กินข้าวกินน้ำกินนมจากที่อาตมา และพระเณรออกไปบิณฑบาตจากชาวบ้าน วันไหนมีนมก็ได้กินนม
วันไหนมีน้ำเต้าหู้ก็กินน้ำเต้าหู้แทนนม จากปี 40 เลี้ยงดูอุปการะเด็กมาแล้วกว่า 100 คน ส่วนการส่งเสียเล่าเรียนจะถามเด็กว่าอยากบวชเณร-บวชพระไหม
ถ้าอยากบวชก็จับให้บวชศึกษาพระธรรมด้วยศึกษาทางโรงเรียนปริยัติธรรมวิชาทางโลกด้วย
ที่โรงเรียนสัทธรรมวิทยาหรือโรงเรียนสอนพระเณรตั้งอยู่ที่ วัดศาลาลอย ในตัว อ.ด่านขุนทด
ส่วนเด็กคนไหนไม่อยากบวชหรือยังไม่พร้อมบวชก็เดินเรื่องเอกสารฝากเรียนโรงเรียนในหมู่บ้านดอนใหญ่จนจบชั้น ป.6
เมื่อจบแล้วก็บังคับให้บวช เพราะจะได้ส่งเรียนทางโรงเรียนพระเณรต่อไป
เนื่องจากค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก และยังได้ศึกษาพระธรรมเพื่อขัดเกลาจิตใจไปด้วยทางหนึ่ง”
เจ้าอาวาสฯ บอกอีกว่า เด็กบางคนบวชเรียนจนจบปริญญาตรี จบออกไปทำงานเป็นทหาร เป็นครู เป็นพนักงานห้างร้านต่างๆ
มากมายหลายต่อหลายรุ่น ภูมิใจในตัวเขามากๆ อาตมาไม่ได้มุ่งหวังให้พวกเขากลับมาตอบแทนบุญคุณอะไร
เพียงแต่อยากพบเจอ อยากเห็นหน้าบ้างเท่ๅนั้น ที่สำคัญที่สุดอยากให้พวกเขานำความรู้
และหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าไปใช้เพื่อประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์ และเป็นคนดีของสังคมต่อไป
แหล่งที่มา : dailynews.co.th
เรียบเรียงโดย : baansuann.com