เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2565 ที่สภ.เมืองระยอง นางสุจิน พื้นผา อายุ 80 ปี เข้าเเจ้งความกับพ.ต.ท.ชัยกฤต เตารัตน์ สว.(สอบสวน) ให้ดำเนินคดีกับนายสุรชาติ วงษ์จันทร์ รปภ. ของบริษัทเเห่งหนึ่ง เเอบสลับบัตรเอทีเอ็มเเล้วไปถอนเงินจำนวน 610,000 บาท จนเกลี้ยงบัญชี
นางสุจิน ให้การทั้งน้ำตาว่า เงินในบัญชีของตนมีอยู่ 610,000 บาท ได้หายไปจนหมดบัญชี เหลือเพียงเงิน 1.24 บาท ซึ่งมั่นใจว่าถูกนายสุรชาติ กดเอาเงินไป
เพราะเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ตนได้ให้นายสุรชาติ นำบัตรเอทีเอ็ม ไปช่วยกดเงินจำนวน 20,000 บาท โดยนายสุรชาติ ก็ไปกดเงินมาให้ พร้อมนำบัตรเอทีเอ็มมาคืนให้ โดยไม่ทราบว่าถูกสลับบัตรไปเเล้ว
จนกระทั่งวันนี้ได้ให้เพื่อนบ้านไปส่งเพื่อจะกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ปรากฎว่าไม่สามารถกดได้ เพราะหน้าจอเเจ้งว่ารหัสผิด จึงกลับไปนำสมุดบัญชีมาที่ธนาคารไทยพานิชย์ สาขามาบตาพุด เมื่อเจ้าหน้าที่ธนาคารตรวจสอบเเละปรับสมุดบัญชีก็พบว่ายอดเงินในบัญชี เหลือเพียง 1.24 บาท
“ตนไม่เชื่อเจ้าหน้าที่จึงขอดูบัตรเอทีเอ็ม พบว่าเจ้าของบัตรไม่ใช่ชื่อตน เป็นชื่อของนายสุรชาติ วงษ์จันทร์ ซึ่งเป็นชื่อของรปภ. ข้างบ้าน ที่เคยให้ไปกดเงินให้เมื่อ 2 เดือนก่อน จึงมั่นใจว่าถูกนายสุรชาติ เเอบสลับบัตร เเล้วนำไปกดเงินออกไปจนเกลี้ยงบัญชี”
นางสุจิน กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ไว้ใจเพราะรู้จักกับนายสุรชาติ มาเป็นเวลานับสิบปี อาศัยอยู่บ้านเช่าติดกัน เเละยังเคยฝากหลานเข้าทำงานอีกด้วยจึงไว้ใจ ที่ผ่านมาเคยให้ไปกดเงินมาเเล้วหลายครั้ง
เเละที่ต้องให้นายสุรชาติ ไปช่วยกดเงินเพราะไม่ไว้ใจหลานตัวเองที่เป็นคนเกเร เเละถ้าวันนี้ไม่ต้องการใช้เงิน 200,000 บาท เพื่อมาสร้างบ้านก็คงจะยังไม่รู้
ส่วนนายสุรชาติ ได้ออกจากงานเเละก็ย้ายออกจากบ้านเช่าไปประมาณ 2 เดือนเเล้ว ก่อนไปตนยังให้ยืมเงินไปอีก 8,000 บาท อยากฝากถึงยายสุรชาติ ว่า “ทำไมทำกับยายได้ลงคอ ขอให้เห็นใจยายด้วย เอาเงินมาคืนให้ยายเถิด เพราะเป็นเงินก้อนสุดท้ายของชีวิตที่ได้จากขาຍที่ดิน เตรียมไว้สร้างบ้านอยู่อาศัยอยู่ก่อน ต า ຍ เเล้วยายจะเอาเงินที่ไหนใช้จ่าย”
หลังให้การยายสุจิน ได้ร้องไห้โฮออกมาด้วยความเสียใจจนลั่นโรงพัก เป็นที่เวทนาทำให้เจ้าหน้าที่ เเละ คนที่อยู่ในโรงพัก ต่างก็สงสารยายที่ต้องมาถูกหลอกจนหมดตัว ต่างก็ขอให้จับตัวคนร้ายมาดำเนินคดี พร้อมกับนำเงินมาคืนยายให้ได้โดยเร็ว
ด้าน พ.ต.ท.ชัยกฤต ได้กล่าวว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบของธนาคาร พบว่านายสุรชาติ ได้ไปกดเงินทั้งหมด ที่ตู้เอทีเอ็มภายในปั๊มน้ำปตท. ริมถนนสุขุมวิท ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง
ซึ่งเป็นพื้นที่ของสภ.มาบตาพุด จึงจะส่งเรื่องต่อไปยังพนักงานสอบสวนสภ.มาบตาพุด เพื่อดำเนินการติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ ล่าสุดคาดว่าคนร้ายหนีไปที่จ.นครสวรรค์ เเล้ว
แหล่งที่มา khaosod
เรียบเรียงโดย baansuann.com
