วันนี้เราจะมาติดตามเรื่องราวหลังจากกรณีข้อพิพาทที่ดินวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี ที่ พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กลฺยาโณ เป็นเจ้าอาวาส นั้น ทางพระพยอม ได้ซื้อที่ดินนี้มาจาก “วันทนา” ตั้งแต่ปี 2547 ในราคา 10 ล้าน ผ่านไปสองปี พัฒนาทุกอย่างเรียบร้อย ปรากฎว่ามีเจ้าของซึ่งเป็นทายาทตัวจริงเจ้าของที่ดินแปลงนี้ ร้องศาลขอเพิกถอนไม่ให้วันทนาครอบครองโดยปรปักษ์ เพราะแม่เป็นคนให้วันทนาเข้ามาทำมาหากิน พอแม่เสีຍชีวิต ทำไมไปร้องปรปักษ์ครอบครองที่ดินและขๅยวัด ซึ่งล่าสุดเจ้าของที่ได้ส่งเอกสารแจ้งให้ทางวัดย้ายออกจากที่ดินภายในสิ้นเดือนมิถุนายน 2563 จนพระพยอมถึงกับปลงแล้ว พ้อบางทีกฎหมายก็ไม่ให้ความเป็นธรรม รายการโหนกระแสวันที่ 15 มิ.ย. 63 “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ทางช่อง 3 เปิดใจสัมภาษณ์ “พระพยอม” และ “อ.ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม” อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี ถึงเรื่องดังกล่าว เรื่องนี้น่าจะมีที่มาที่ไป? ปรเมศวร์ : “มีครับ พระพยอมมารู้ทีหลังก็สายไปแล้ว” ไม่ได้ที่ดินคืนแน่นอน? ปรเมศวร์ : “ไม่ได้อยู่แล้ว” 10 ล้านล่ะได้คืนมั้ย? ปรเมศวร์ …

วันนี้เราจะมาติดตามกรณีของคุณเเม่รายหนึ่ง ที่ออกมาโพสต์ขอคำปรึกษา จ้างร้านปักเสื้อนักเรียนลูก คิดราคาเกินเหตุ เเถมอ้างเเพงเพราะไหมดี เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ เมื่อใกล้วันเปิดเทอมของหลายโรงเรียน คุณพ่อคุณเเม่ก็จะพาลูก ๆ ไปซื้ออุปกรณ์การเรียนเเละชุดนักเรียนใหม่  เเละต้องใช้บริการปักชื่อบนชุดนักเรียน ตามกฏระเบียบของโรงเรียน ทว่ากลับมีเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นคุณเเม่ ได้ระบุเรื่องราวไว้ว่า ตนได้นำเสื้อนักเรียนของลูกไปปักชื่อที่ร้านเเห่งหนึ่ง ย่านเท ศบาลโคกสำโรง ที่ถึงกับต้องอึ้งกับราคาค่าใช้จ่าย อยู่ที่ 4 ตัว 400 บาท ตกตัวละเป็นร้อยบาทเลยทีเดียว ทั้งนี้ คุณเเม่รายนี้โพสต์เรื่องราวเตือนคุณเเม่อีกหลาย ๆ คนที่กำลังหาร้านปักเสื้อให้ลูก โดยระบุว่า ได้นำเสื้อนักเรียนของลูกไปปักชื่อที่ร้านดังกล่าว ซึ่งคุณเเม่ระบุว่าตนเองไ ม่ได้สอบถามราคาก่อนจ้าง จนเมื่อร้านทำเสร็จ เจ้าตัวก็ไปรับเสื้อ จึงได้รู้ว่าราคาอยู่ที่ 400 บาท คุณเเม่ระบุอีกว่า จากการสอบถามทางร้านว่าเหตุใดราคาถึงสูงขนาดนี้ ซึ่งทางร้านชี้เเจงว่าที่ร้านใช้เส้นไหมอย่างดีสำหรับการปักชื่อ พร้อมอ้างสรรพคุณว่าเส้นไหมจะคงทน ปักเเล้วคงสภาพอยู่ได้นานถึง 4 ปี โดยคุณเเม่เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ร้านดังกล่าวไม่ได้ปักเอง เป็นการรับมาเเล้วไปจ้างปักอีกที โดยจะมาคิดกำไรเพิ่มกับลูกค้าภายหลัง ทั้งนี้ เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยเเพร่ออกไปก็เป็นที่สนใจเเละตกเป็นกระเเสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ซึ่งพบว่ามีคุณเเม่บางรายออกมายอมรับว่าเคยเป็นลูกค้าร้านดังกล่าว เเละโดนราคาเเพงเช่นกัน ขณะที่คนอื่น ๆ ออกมาเเสดงความเห็นว่าจากที่เคยเอาเสื้อลูก ๆ ไป ส่วนใหญ่ราคาตกอยู่ที่ตัวละ 20-50 …

สำหรับลูกทุ่งสาวรุ่นใหญ่ ศิริพร อำไพพงษ์ เรียกว่าเป็นชีวิตที่ใคร ๆ หลายคนอิจฉา เพราะนอกจากจะมีผลงานเพลงเป็นที่ติดหูของคนไทยมานานแล้ว เจ้าตัวยังมีเงินเก็บหลักร้อยล้าน หนำซ้ำยังถูกหวยบ่อย ๆ อีกทั้งยังเป็นลูกทุ่งสายบุญลุยสร้างวัดด้วย ศิริพร อำไพพงษ์ หรือ พี่นาง เผยเคยถูกคนดูถูกมามากกับชีวิตหมอลำ เมื่อก่อนชีวิตมีแต่ร้องหมอลำกับพ่อและทำนา ชีวิตตอนนี้ มีแต่ทำบุญ ทำงาน หาเงินสร้างบุญ ซึ่งเจ้าตัวมาเผยเรื่องการทำบุญและถูกหวยติดกันเกือบ 300 งวด ว่า ชอบทำบุญ เอาเงินไปซื้อโน่นนี่ ซื้อเท่าไหร่ก็ไม่หมด เราซื้อเสื้อผ้า แหวน ทอง ไม่เท่าไหร่ก็อิ่มก็พอ เงินก็ยังเหลือ อีกทั้งเสีຍชีวิตไปก็เอาไปไม่ได้ ลูกก็ไม่มี เลยเอาเงินไปฝากในพระพุทธศาสนาดีกว่า ลูกหลานยังได้กราบไหว้ ยังจะมีชื่อเราติดอยู่ในนั้นได้หน่อย เลยทำบุญใหญ่ สร้างวัดป่าสว่างธรรม สำนักสงฆ์ปฏิบัติธรรม อยู่ที่บ้านเกิด ต.ดอนกลอย อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี ตอนนี้ทุกคนเรียกวัดศิริพร หมดแล้ว เพราะเรียกง่าย ส่วนเรื่อง พญานาค แล้วแต่ความเชื่อ พูดไปแล้วเหมือน เราอุตริพูด เหมือนขี้โม้ แต่ใครเจอเหมือนพี่นาง จะบอกว่าไม่ได้โม้ เราเคยถูกคนเอาเงินเราไป 2 ล้าน ไม่ติดต่อมาหา …

วันนี้เราจะพาทุกคนมาติดตามกรณีที่โฆษกรัฐบาล ตีปี๊บ เผย “นายฯบิ๊กตู่” ขอบคุณ ประชาชนคนไทย ร่วมต่อสู้ไวรัสโควิด-19 จนประเทศ “ฟื้นตัวดีสุด” ติดอันดับ 1 เอเชีย และ อันดับ 2 โลก เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอบคุณพี่น้องคนไทยทุกคน ที่มีระเบียบวินัย เข้มแข็งและอดทน ร่วมกันต่อสู้ต่อและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา จนทำให้ประเทศไทยฟื้นตัวดีสุด ติดอันดับ1 ของเอเชีย อันดับ 2 ของโลก โดยดัชนีโควิด-19 โลก หรือ Global COVID-19 Index (GCI) ซึ่งพัฒนาขึ้นมาโดยสมาคม PEMANDU ภายใต้ความร่วมมือกับกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาเลเซีย (MOSTI) และกลุ่มบริษัทซันเวย์ ดำเนินการจัดอันดับ 184 ประเทศ ที่มีการฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)ได้ดีที่สุด ผลการจัดอันดับดังกล่าว พบว่าประเทศไทยอยู่ในอันดับที่1 ของเอเชีย …

เรื่องราวที่เรานำมาฝาก กลายเป็นภาพที่ทำให้ชาวเน็ตทั้งกล่าวคำชื่นชมกันสนั่นโซเชียล เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพคุณตาและหลานตัวน้อยมาช่วยกันขนเศษหิน เศษหินก้อนใหญ่ๆ ใส่ท้ายรถจักรยานแล้วนำไปกลบพื้นที่ถนนที่มีหลุมมีบ่อ เพื่อให้รถที่ผ่านไปมาสัญจรไปได้อย่างปลอดภัຍ โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก ทวุธ จันทร์น้อย ได้โพสต์ภาพ พร้อมเล่าเรื่องราวลงในกลุ่ม หาดใหญ่โฟกัส ความว่า “คุณตากับเด็กน้อย ( ช่วยแสดงความคิดเห็นกับรูปเหล่านี้หน่อยครับ ) มาอยู่บ้านทุ่งแต้ว ม.5 ต.เขาพระ 68 ปีแล้ว ยังมีถนนสีแดงให้แกถมเล่น คุณตาที่เห็นในภาพชื่อ คุณตาสมนึก จันทร์น้อย อายุ 68 ปี ร่างกายพิпาร แขนขาอ่อนแรง กับหลานวัย 3 ขวบ 10 เดือน อาศัยอยู่ที่ หมู่ 5 ต.เขาพระ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา สองตาหลานใช้เวลาว่างปั่นจักรยาน ออกเก็บเศษดินเศษหินก้อนใหญ่ ๆ ใส่ท้ายจักรยาน แล้วนำไปกลบหลุมบ่อบนถนน ซึ่งเป็นภาพที่คนในหมู่บ้านเห็นบ่อยมาก สร้างความประทับใจและน่าชื่นชมแก่ผู้ที่พบเห็น” ทำให้ชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เข้ามาชื่นชมในสิ่งที่คุณตาได้กระทำเพื่อส่วนร่วม บ้างก็เข้ามาคอมเม้นต์ว่า อนุโมทนาสาธุค่ะ ตาคะ บ้างก็เข้ามาคอมเม้นต์ว่า ขอให้เขาเจอแต่ความสุขนะคะและมีสุขภาพแข็งแรงตลอดไป ​ถ้าผ่านไปจะแวะไปคุยด้วยค่ะ ในขณะที่บางคอมเม้นต์กล่าวว่า แม้ว่าความรู้จะไม่สูง แต่จิตสำนึกสาธารณะเพื่อสังคมท้องุถิ่นสูงมาก …

วันนี้เราจะมาติดตามกรณีที่มีสาวรายหนึ่ง ประกาศตามหาเจ้าของรถแคมรี่สีดำตีมึน แอบเข้าจอดในบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต สร้างความเดือนร้อนให้กับเจ้าของบ้าน เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ ๆ กลางทุ่งนา ไม่มีเพื่อนบ้าน ยังไม่มีคนเข้าอยู่ เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ตามหาเจ้าของรถ โตโยต้าแคมรี่สีดำแอบนำรถเข้าไปจอดรถในบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเจ้าของบ้านเล่าว่า.. “ตามหาเจ้าของรถคันนี้จ้า ใครเป็นเจ้าของรถคันนี้ ถ้าเห็นโพสนี้ กรุณามานำรถออกจากบ้านฉันด้วย นี้มันบ้านฉัน ที่ส่วนบุคคล ไม่ใช่ที่สาธารณะ เราไม่รู้จักกัน เอารถมาจอดในบ้าน จอดบนกระเบื้องอีก โดยบ่ได้รับอนุญาต คือกล้าแท้ ฝากเเชร์หน่อยจ้า” “หนูเจ้าของบ้าน บ้านไม่มีคนอยู่เพิ่งสร้างเสร็จ บ้านข้าง ๆ ไม่มี เพราะสร้างยุทางทุ่งนา ก่อนอื่นหนูต้อง ขอบคุณ ทุก ๆ คอมเม้นด้วยนะคะ ตอนนี้ หนู แจ้งตำรวจแล้วเรียบร้อยค่ะ หนูไปดูรถช่วง 4 โมง รถไม่ยุ ค่ะ แต่ล่าสุดไปดูเมื่อกี้ รถจอดยุตรงนี้ค่ะ ในพื้นที่บ้าน แต่ย้ายที่จอดค่ะ ไม่ทราบว่ารถใคร ยังไม่เจอคน ไม่เจอใคร” ระหว่างเดินทางไปแจ้งความเมื่อตอน 4 โมงไปดูรถ ไม่เจอรถ พอถึง …

วันนี้เราขอนำเสนอเรื่องราวของ นางอำไพ โพธิประสิทธิ์ อายุ 60 ปี ที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.ท่าคล้อ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี หลังทราบข่าวว่าตกเป็นเหยื่อหนี้ค้ำประกัน จนทำให้อาจถูกยึดบ้าน และพยายามทำร้ายตัวเอง นางอำไพ เล่าว่า เมื่อประมาณปี 2555 มีคนที่นับหน้าถือตากันในหมู่บ้าน มาขอร้องให้ค้ำประกันรถยนต์ให้ จึงค้ำประกันรถกระบะมือสองให้ไป ก็เห็นหน้ากันอยู่ประมาณ 2-3 เดือน จากนั้นก็หายไป ไม่รู้ว่าเขาไปอยู่ไหน รถตนก็ไม่เคยเห็น ไม่เคยนั่ง ต่อมามีหนังสือ และมีคนมาติดป้ายหน้าบ้าน ว่าจะยึดบ้านขๅยทอดตลาด ซึ่งตนก็ยังงงไม่รู้เรื่องที่เกิด จน 6 วันต่อมา มีทนายคนหนึ่งที่เขาประมูลบ้านได้มาหาที่บ้าน บอกว่า “ป้าบ้านนี้ผมประมูลมาได้แล้วนะ” ตนถึงกับช็อก เพราะไม่ทราบเรื่องอะไรเลย “ทนายยังบอกว่า ถ้าป้าจะอยู่ต่อ ป้าต้องคุยกับผม และก็ต้องเช่าผม หากอยากได้บ้านต้องหาเงินมาซื้อคืน ป้าจึงถามไปว่าเท่าไหร่ เขาตอบว่า 870,000 บาท ป้าก็ไม่รู้ว่าจะหาเงินจากไหน บ้านหลังนี้ป้าทำมา สร้างมาด้วยชีวิต มีที่อยู่ที่เดียว ลูกหลานก็ยังไม่โต แล้วป้าไม่เคยรู้เลยว่าจะต้องมาเป็นหนี้เป็นสินอย่างนี้ ทำไมถึงมาลงที่ป้า ทำไมความยุติธรรมไม่มี (ร้องไห้)” “ต่อมาอีกประมาณ 20 วัน …

เรื่องราวที่เรานำมาฝากเพื่อน ๆ วันนี้ เรียกได้เลยว่าเป็นเรื่องราวที่ตอนแรกนั้นคนอาจจะไม่เข้าใจเขาก็เป็นได้ แต่พอเวลาผ่านไปนั้นก็จะเข้าใจหัวอกเขาทั้งที โดยเรื่องราวชีวิตของ โหวซือชวิน” ที่ตอนนี้ไปโด่งดังที่ประเทศจีนแล้ว หลายคนบอกว่านอกจากเขาจะประสบความสำเร็จในชีวิตการแสดงแล้ว อีกหนึ่งความสำเร็จที่โดดเด่นไม่แพ้ตัวเขาก็คือ แม่ของเขานั้นเอง สื่อต่างประเทศเปิดเผย คุณแม่ของดาราอาวุโส โหวซือชวิน เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เลี้ยงลูก 4 คนเติบโตด้วยตนเอง แถมเธอยังมีทัศนคติที่ว่า จะไม่เลี้ยงลูกเพื่อให้ลูกมาเลี้ยงดูตนเองตนแก่เฒ่า นี่เป็นความคิดที่เธอคิดไว้ในอนาคต เธอบอกว่าจะเก็บเงินและจะย้ายเข้าไปอยู่บ้านพักคนชราเมื่ออายุมากแล้ว จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในช่วงบั้นปลายชีวิต ณ ที่นั่น ชีเจียจวิน คุณแม่ของดาราอาวุโส เกิดในบ้านที่มีฐานะร่ำรวยของปักกิ่ง ประเทศจีน ตั้งแต่เล็กจนโตในบ้านก็จะมีคนรับใช้ ภายในบ้านยังมีห้องนอนอีก 20 ห้อง บ้านกว้างใหญ่มีสวนทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน ส่วนเธอก็เป็นคุณหนูเลยก็ว่าได้ ไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องกังวลใจ แต่หลังจากที่เธอแต่งงานกับนายทหาร ก็ต้องมีภาระรับผิดชอบมากมาย ต้องกลายเป็นหญิงแกร่ง และต้องย้ายถิ่นฐานมายังไต้หวัน ตอนนั้นพวกเขาลำบากมาก ต้องอาศัยในห้องเช่าแคบ ๆ ที่มีเพียงห้องน้ำและห้องนอนเท่านั้u ครอบครัว 6 คนต้องนอนแออัดกันในห้องเดียว จากที่เป็นคุณหนูไม่เคยทำอะไรก็ต้องลำบากทำเองทั้งหมด แต่ช่วงเวลาที่ลำบากที่สุดในชีวิตก็คือ สามีของเธอป่วຍด้วยโรคตับอักเสบ นอนติดเตียงที่โรงพยาบาล เธอต้องวิ่งไปมาระหว่างบ้านและโรงพยาบาลเพื่อส่งน้ำส่งข้าวให้สามี แล้วค่อยส่งปิ่นโตไปให้ลูก ๆ แต่ละวันเธอได้นอนเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้u พอเมื่อสามีกลับบ้านเธอก็ต้องตื่นมากลางดึกเพื่อพลิกตัวให้สามีเสมอ ในระยะเวลาสั้น ๆ น้ำหนักเธอลดไป …

เปิดเรื่องราวความรักของ สามารถ-น้องมอส เพชฌฆาตหน้าหยก”  สามารถ พยัคฆ์อรุณ อดีตกำปั้นแชมป์โลกวัย 57 ปี ขวัญใจชาวไทย ซึ่งทำให้วงการหมัดมวยฮือฮาอีกครั้ง ความรักครั้งใหม่ครั้งนี้ เธอมีชื่อว่า “น้องมอส ธิดารา” เธอเป็น สาวสวยวัย 26 ปีเป็นชาว อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม และเป็นลูกสาวของนักมวยเก่าชื่อ เรืองชัย ไทยรุ่งเรือง (ซ้อมที่เมืองกาญจน์รุ่นเดียวกับเริงชัย ไทยรุ่งเรือง) “พี่พบรักกับน้องมอสเมื่อครั้งไปงานมวยที่มหาสารคามครับ แบบฮักนะสารคามเลย โดยตอนนี้น้องมอสเข้ามาช่วยดูแลยิมที่ย่านสายไหม มีความถนัดเรื่องไอที ทำให้ช่วยแบ่งเบางานของพี่ไปได้มาก” “ตอนนี้พี่กำลังถ่ายภาพยนตร์ที่หาดเจ้าหลาว จ.จันทบุรี โดยกำลังวางแผนจะเปิดยิมมวยอีกแห่งที่เมืองจันท์ด้วย หากเปิดเมื่อไหร่ฝากพี่น้องชาวจันทบุรี ช่วยอุดหนุนด้วยนะครับ” อดีตกำปั้นหน้าหยกกล่าว สำหรับ สามารถ พยัคฆ์อรุณ หรือชื่อจริง สามารถ ทิพย์ท่าไม้ ถือเป็นหนึ่งในสุดยอดนักมวยไทย ก่อนหันเหสู่วงการมวยสากลจนกลายเป็นแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์แบนตัมเวต ของสภามวยโลก (WBC) และถือเป็นแชมป์โลกชาวไทยคนที่ 10 ในประวัติศาสตร์อีกด้วย แหล่งที่มา: ให้ความรู้ เรียบเรียงโดย baansuann.com

บนโลกออนไลน์ ได้มีเพจดังเเชร์อุทาหรณ์ แม่ค้าลงทุนตุนสินค้าขๅยช่วงโควิด สุดท้ายขๅยไม่ออกเจ๊งยับ เร่ขๅยราคาต่ำกว่าต้นทุน ชี้ สาเหตุทำให้ขๅยของไม่ออก เป็นโพสต์ที่ได้รับการแสดงความคิดเห็นอย่างหนัก เมื่อเพจ ทำไมถึงเจ๊ง ได้เเชร์เรื่องราวของแม่ค้าคนหนึ่ง ซึ่งโอดว่าลงทุนซื้อน้ำยาทำความสะอาดยี่ห้อหนึ่ง โดยกู้เงินลงทุนไป 7 แสนบาท ต้องเอามาขๅยขาดทุนเพื่อหาเงินไปใช้หนี้ ซึ่งก่อนหน้าช่วงโควิดระบาดพบว่าสินค้าดังกล่าวเป็นที่ต้องการในตลาดอย่างมาก และมีการขๅยโก่งราคาขึ้นไปหลายเท่าตัว มีผู้นำโพสต์มาแฉว่า จากสินค้าปกติราคาไม่เกิน 500 บาท มีการเพิ่มราคาไปถึง 2 พัน – 6 พันบาทเลยทีเดียว โดยเพจดังกล่าวได้วิเคราะห์สาเหตุที่เจ๊ง เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้พ่อค้า แม่ค้าคนอื่นๆ ว่า “ปัจจัยที่เกี่ยวข้องมีดังนี้ 1. สั่งของล็อตใหญ่เกินไป การสั่งสินค้าจำนวนมากโดยไม่ได้เป็นผู้ขๅยมืออาชีพหรือมีช่องทางการจัดจำหน่ายเดิมอยู่แล้ว จึงทำให้ไม่สามารถระบายของจำนวนมากออกได้ทัน 2. สินค้ามาช้า พ่อค้าท่านอื่นก็สั่งและ นำเข้ามาจากต่างประเทศซึ่งในไทยมีมาตรการ และต่างประเทศก็มีมาตรการส่งผลให้ระยะเวลาการมาถึงของสินค้าล่าช้าและไม่แน่นอน 3. โควิดในไทยไม่ระบาดยาวนานมากอย่างที่คิด เมื่อ demand ลด แต่ซัพพลายล้น จึงทำให้ประชาชนไม่มีความจำเป็นต้องรีบซื้อมากักตุนหรือเผื่อไว้ใช้ 4. ซื้อจำนวนมากเพื่อให้ได้ราคาที่ถูกที่สุดต่อหน่วย หลักการนี้จริงๆก็ ใช้ได้ แต่ต้องคิดถึง สถานที่เก็บช่องทางการจัดจำหน่ายและจำนวน รวมไปถึงช่วงระยะเวลาในการจำหน่ายด้วยว่าต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ในการจำหน่ายให้หมด 5. ร้านยาและร้านจำหน่ายต่างๆมีขๅยตามปกติแล้ว 6. ไม่มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลายและกว้างมากเพียงพอในการปล่อยสินค้าจำนวนมาก …