“เพลง กวิตา” ลูกสาวของ “อ้อย กาญจนา” เผยทั้งน้ำตา แม่เป็นโรคหัวใจ พบมະเร็งแทรกซ้อน

สำหรับการเสีຍชีวิตของนักแสดงสาวมากฝีมือ อ้อย กาญจนา จินดาวัฒน์ คุณแม่ของนักแสดงสาว เพลง กวิตา หรือ เพลง ภตภร สีบุญเรือง ยังคงสร้างความโศกเศร้าไม่หาย โดยทางครอบครัวได้จัดพิธีรดน้ำ ณ ศาลาลิ่วเฉลิมวงศ์ (ศาลา 2) วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร ซึ่งก่อนที่พิธีจะเริ่มขึ้น เพลง ภตภร ได้เล่าถึงอาการป่วຍของคุณแม่ก่อนเสีຍชีวิต

คุณแม่ป่วຍโรคหัวใจมา 10 ปี แต่ไม่ค่อยมีใครทราบ เพราะคุณแม่ใช้ชีวิตปกติ จนปีกว่า ๆ เกือบ 2 ปีมาพบมະเร็งแทรกซ้อน แม่เป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง มันรักษาไม่หายจนร่างกายพยายามฟื้นฟูตัวเอง จนพลังงานสำรองหมดไป

และมาเจอโรคแทรกซ้อนอีก ปอดก็มาเจอโรคกระดูกก็มาป่วຍ มະเร็งเจอที่เยื่อหุ้มปอดกับกระดูกในระยะลุกลาม ตอนที่เจอแม่สั่งห้ามเพลงบอกใคร ไม่อยากให้คนเป็นห่วง แม่อยากใช้ชีวิตแบบปกติ ไม่เป็นคนป่วຍ

แม่พยายามสู้ แม่เชื่อว่าจะหาย แต่เรื่องโรคหัวใจแม่ เพลงต้องบอก เพราะเวลาทำงานกองถ่ายจะได้รู้ จะได้ระวัง มະเร็งเจอเกือบ ๆ 2 ปี แต่คุณแม่ก็ยังทำงานปกติทุกอย่าง แม่โชคดีที่แม่มียาทาร์เก็ตไม่ต้องทำคีโม ซึ่งมีคนไข้มະเร็งแค่ 50% ที่ใช้ยานี้ได้ แต่ราคาสูง ก็ต่อสู้กันมาซึ่งดีมาตลอด ๆ แต่มาทรุดเมื่อ 3-4 เดือนที่ผ่านมา

แต่ที่ทรุดหนักจริง ๆ คือรอบสุดท้ายที่เข้าโรงพยาบาล และโรคหัวใจก็มาพร้อมกับน้ำท่วมปอด ครั้งสุดท้ายที่เข้าโรงพยาบาล เพลงก็ไม่คิดว่าแม่จะไม่ได้ออกมาอีก (เสียงสั่น)

ช่วงหลัง ๆ ที่อยู่บ้านก็อาการหนักมาก ๆ แล้ว คือปกติแม่ต้องนั่งรถเข็นเวลาไปโรงพยาบาล เพลงไม่เห็นแม่ไปเดินเที่ยวมานานแล้ว จนครั้งสุดท้ายวันที่ไปถ่ายรายการพี่แอน เสือ สิงห์ กระทิง แซ่บ เป็นครั้งที่เพลงได้เห็นคุณแม่เดินเองครั้งสุดท้าย (ร้องไห้) เพลงก็ตกใจว่าแม่ทรุดลงเยอะมาก แต่จิตใจแม่สู้นะ แต่ร่างกายไม่ไหว วันที่เข้าโรงพยาบาล หายใจหอบด้วย ก็เลยไป

แม่ใจสู้มาก อันนี้ต้องยอม ตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว ตั้งแต่รู้ว่าเป็นโรคหัวใจ หมอบอกว่าหัวใจทำงาน 20-30% จาก 1oo% แบบนี้ หมอบอกให้ทำใจ อาจอยู่ได้ 3 เดือน แต่แม่อยู่มา 10 ปี ถ้าไม่มีโรคแทรกซ้อนก็คงยังอยู่ ซึ่งการรักษๅโรคหัวใจที่แม่เป็น ถ้ารักษาต้องใช้หัวใจเทียมต้องเปลี่ยนหัวใจ ซึ่งเราปรึกษากันว่าทางเลือกนี้ไม่ใช้ และตอนสุดท้ายที่มีโรคแทรกซ้อนก็ไม่ทันแล้วที่จะตัดสินใจผ่าตัด

ช่วงเวลาสุดท้ายเมื่อวาน เพลงไปเฝ้าแม่ที่ห้องไอซียู ซึ่งมีเวลาเยี่ยม แต่เราก็ขอเขา เจ้าหน้าที่ก็อนุญาต เราได้อยู่ด้วยกันตลอด ทั้งคุณพ่อ เพลง และน้องชาย แม่สู้มาก ๆ

เพลงโดนโทรตามกลางดึกตลอดว่าแม่หนักแล้ว จนเพลงกลัวเสียงโทรศัพท์ไปเลย แต่พอไปถึงแม่ก็ฮึบขึ้นมาทุกครั้ง แต่จนสุดท้ายที่ร่างกายแม่อ่อนแอมากจนยากจะฝืนตัว เขาก็ยังสู้ จนเราคิดว่าเขาฝืนเพื่อเราหรือเปล่า (ร้องไห้)

ช่วงที่เขาพูดคุยได้ปกติ คุณแม่ก็สั่งเสียเพลงหลายครั้งจนเราใจเสีย แต่คุณแม่คงอยากจะบอกในวันที่เขายังไหว แม่จะบอกว่าแม่เป็นห่วง รักลูก รักพ่อ รักน้อง ดูแลกันดี ๆ นะอย่าทิ้งน้อง แม่จะห่วงน้องชายมากหน่อย เพลงมีครอบครัวแล้ว งานการเพลงอยู่ตัว น้องอายุน้อย เขายังไม่ได้เป็นฝั่งเป็นฝา แม่เป็นห่วงน้อง และห่วงพ่อด้วย เพราะตัวเขาติดกัน

เพลงพยายามบอกแม่ว่าให้บอกทุกคนว่าเราเป็นอะไร ทุกคนจะได้มาให้กำลังใจ เผื่อมีแนวทางการรักษาใหม่ ๆ หรือแม่จะได้เจอคนที่ไม่ได้เจอกันมานาน แต่แม่ไม่ยอม แม่อยากทำงาน ไม่อยากเป็นคนป่วຍ กลัวคนไม่กล้าเรียกแม่ไปทำงาน แม่เชื่อว่าจะดูแลตัวเองให้หายให้ได้

ตัวเพลงเองได้ทุกอย่างที่เป็นสิ่งดี ๆ ในตัวเพลงก็มาจากคุณแม่แหละ เขาเป็นแบบอย่างของเราในทุก ๆ เรื่อง เพลงเข้มแข็งผ่านอะไรยาก ๆ มาได้ อดทนต่อสู้มาได้ เพราะเรามีแม่เป็นกำลังใจ แม่เป็นแบบอย่างให้เรา ว่าเขาทำทุกอย่างได้ดี เขาเก่ง เขาอดทน เขาอยากให้เราดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ เราเห็นตรงนี้ของแม่เราก็เก็บตรงนั้นมา

เพลงบอกคุณแม่ตอนสุดท้ายว่าไม่ต้องห่วงเพลง ทุกอย่างแม่ให้เพลงมาหมดแล้ว ขอให้แม่เชื่อว่าเพลงจะอยู่ต่อไปได้อย่างดีที่สุด ช่วง 3-4 วันสุดท้าย แม่หลับไม่ได้สติ แต่เขาได้ยินนะ เราก็บอกเขาทุกอย่าง

ขอบคุณเขาทุกอย่างที่เราอยากจะบอกแม่ (ร้องไห้) ส่วนกำหนดการรอเช็กกับทางหลวงพ่อ คุณพ่ออยากเก็บไว้ 100 วัน แต่ยังติดเรื่องที่เก็บและกำหนดการต่าง ๆ ว่าจะเป็นไปได้มั้ย เดี๋ยวเพลงจะแจ้งอีกทีนึง ตอนนี้สวด 7 วันแน่ ๆ แหละ ถ้าไม่เก็บก็จะเผาเลย ถ้าเก็บก็เก็บ 100 วันเลย

อย่างไรก็ตาม ขอแสดงความเสียใจและเป็นกำลังใจให้กับ อ้อย กาญจนา จินดาวัฒน์ ด้วยนะคะ หวังว่าครอบครัวจะกลับมามีรอยยิ้มได้อีกครั้ง หลังผ่านเรื่องราวโศกเศร้านี้ไป

แหล่งที่มา: siamstreet

เรียบเรียงโดย baansuann.com