สองผัวเมียขายสมบัติร้อยล้าน ออกเดินทางรอบโลก แต่มีเงินเข้าบัญชีมหาศาล

วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ มาติดตามเรื่องราวของสองสามีภรรยาชาวจีนคู่หนึ่ง ที่ใช้เงินที่เก็บสะสมกว่า 100,000 หยวน (ประมาณ 452,400 บาท) ในการทำธุรกิจด้วยสมองและสองมือของทั้งคู่ ด้านการค้านำเข้าและส่งออกเครื่องจักร ทำให้พวกเขามีรายได้เพิ่มมากขึ้น จนกลายเป็นเศรษฐีไปโดยปริยาย

ทว่ามีอยู่เช้าวันหนึ่ง เมื่อสามีของเขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับคำถามในสมองว่า “นี่คือชีวิตที่เขาใฝ่ฝันจริงหรือ?” จากนั้นเขาก็ไปปรึกษาภรรยา และได้ข้อสรุปว่า พวกเขาจะทำในสิ่งที่พวกเขาเคยใฝ่ฝันไว้

เริ่มต้นด้วยการออกเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลก ซึ่งนี่คือประสบการณ์ที่น่าจดจำไม่รู้ลืมของพวกเขาทั้งสอง ใช้เงินที่เก็บสะสมมาตลอดชีวิต 10 กว่า ปี

เศรษฐีคนนี้มีชื่อว่า จางซินหยู ในช่วงแรกเริ่มนั้น เขามีเพียงแค่สองมือที่ว่างเปล่ากับภรรยา เหลียงหงอี้ ที่คอยเคียงข้าง ตั้งแต่ยังเป็นวัยเด็กร่วมกันสร้างเนื้อสร้างตัวมาด้วยกัน

จากเงินเก็บสะสม 1 แสนหยวนจนกลายเป็นมหาเศรษฐีที่ได้รับการยอมรับ อีกทั้งพวกเขามีทักษะและฝีมือการทำธุรกิจที่ยอดเยี่ยม จนทำให้มีทุกวันนี้ได้

จางซินหยูเล่าว่า ทุกวันเมื่อลืมตาขึ้นมาก็คิดแต่เรื่องจะทำอย่างไรจึงจะทำกำไรและเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น ตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน ในทุก ๆ วันเขาก็ต้องไปพบปะผู้คนเพื่อพุดคุยเรื่องการทำธุรกิจ จนไม่มีเวลาส่วนตัวของตนเองเลย และยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ไม่มีเวลาไปตามหาความฝันที่เคยตั้งไว้ในอดีต

ในตอนนั้นเองเขาก็ไปปรึกษาภรรยาเรื่องนี้ และภรรยาก็ตัดสินใจว่าจะขๅยบริษัท หุ้นส่วนทั้งหมด รวมเป็นเงินมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปใช้ในการออกเดินทางท่องเที่ยวไปรอบโลก ด้วยการเริ่มต้นนับ 1 ใหม่ในการตามหาความฝันที่หวังไว้ สำหรับการเดินทางในครั้งนี้

ไปเที่ยวในที่ที่ไม่เคยไป ไปลองชิมอาหารของกินในแบบใหม่ ๆ ที่ไม่เคยพบเห็น ไปเพลิดเพลินกับชีวิตที่เป็นอิสระไม่ต้องตื่นขึ้นมาพร้อมกับคิดวางแผนว่าจะทำธุรกิจและหารายได้อย่างไร

จางซินหยูและภรรยาก็ไปสอบใบอนุญาตขับขี่เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์, การแล่นเรือใบ, การกระโดดร่ม, การดำน้ำกับใบอนุญาตต่าง ๆ อื่น ๆ อีกมากมายที่เกี่ยวกับการเดินทางผจญภัยในป่า

ทั้งสองคนตัดสินใจที่จะผจญภัยในที่ที่อันตรายและหวาดเสีຍว ที่ซึ่งไม่มีใครอยากไปเที่ยวกัน ไปลิ้มรสชาติความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่นต่าง ๆ ของแต่ละชนเผ่า

ไม่เพียงแค่ขับขี่ยานพาหนะด้วยตนเองแล้วพวกเขๅยังขับรถออฟโรดข้ามถิ่นทุรกันดาร หรือบางครั้งก็ขับเครื่องบินไปยังสถานที่ต่อไปข้างหน้า ทำให้การเดินทางครั้งนี้แตกต่างจากคนทั่วไปเป็นอย่างมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนั้น พวกเขๅยังได้บันทึกสถานการณ์สำคัญไว้ว่า ได้พบเจอกับการทดสอบต่าง ๆ ในป่าแห่งโซมาเลีย และเทือกเขาแอนดืส (Andes) และยังถูกกลุ่มตอลิบานในตะวันออกกลางคุпคามพวกเขาอีกด้วย พวกเขาบอกว่าเป็นประสบการณ์ที่อยากจะลืมเลือน

ในการเดินทางจางซินหยูพูดอย่างโรแมนติกว่า “ตราบใดที่มีเหลียงหงอี้เคียงข้างผม ความหลงใหลและความรักของฉันจะไม่มีวันจางหายไป!”

การเดินทางท่องเที่ยวรอบโลกตลอด 10 ปีที่ผ่านมานี้ ตอนนี้ได้จบจงแล้ว พวกเขาทั้งสองได้ใช้เงินที่เก็บสะสมมาทั้งชีวิตหมดแล้วกับการท่องเที่ยวครั้งนี้

แต่ทว่าเมื่อกลับไปเปิดสมุดบัญชีก็ต้องตกใจ เพราะข้างในมีเงินเหลืออยู่อีก 800 ล้านบาท พวกเขาไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง จึงเดินทางไปยังธนาคาร เพื่อสอบถามเกี่ยวกับที่มาของเงินก้อนโตนี้ ก็ได้คำตอบว่า ที่แท้หลายปีที่ผ่านมานี้

ตลอดเส้นทางการเดินทางพวกเขาได้ถ่ายคลิป และทำการไลฟ์สดเกี่ยวกับการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่พวกเขาได้เดินทางไปมา

และเพราะสาเหตุนี้เองทำให้พวกเขามีรายได้จากการไลฟ์สด และคลิปต่าง ๆ ที่พวกเขาโพสต์ลงในโลกออนไลน์ จนมีรายได้เข้ามาตลอดอย่างไม่ขาดสาย พวกเขาทั้งคู่ได้แต่ยิ้มหัวเราะ

พร้อมกับพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นต้องไปเปิดร้านขๅยน้ำชาหน่อยแล้ว แค่ถ่ายคลิปพูดแนะนำไปเรื่อย เล่าประวัติความเป็นมาของสถานที่นั้น ๆ ตอนแรกทำด้วยความสนุก แต่มาตอนนี้เพิ่งรู้ว่ามันสามารถสร้างรายได้ได้ด้วย ถ้าอย่างนั้นฉันจะคุยเล่าให้ฟังได้ตลอดชีวิตเลยแหละ”

เป็นอะไรที่เป็นตัวอย่างของคนที่กำลังท้อ ให้ลุกขึ้นสู้อีกครั้ง คนเราทุกคนล้มได้เหมือนกันหมดทุกคน ขึ้นอยู่ที่ว่าตอนคุณลุกขึ้นมานั้น มาท่าไหนไม่ให้มันล้มไปอีกครั้ง

 

แหล่งที่มา: currentclip

เรียบเรียงโดย baansuann.com