หลานชาย ป.4 เรียนเก่ง แต่ไม่มีใบเกิดทำบัตร ปชช ไม่ได้ ยายยอมอดข้าวเพื่อให้หลานได้กินอิ่ม

วันนี้เรานำเสนอเรื่องราวสุดสะเทือนใจ หลังเมื่อไม่นานมานี้ ได้รับการร้องเรียนจากสารวัตรกำนัน ต.ลุมปุ๊ก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ว่ามีสองยาย-หลาน ฐานะยากจนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ทั้งฐานะยากจน อาศัยอยู่ที่ดินคนอื่น ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีห้องน้ำ โดยเฉพาะหลานวัย 9 ขวบไม่มีบัตรประชาชน

จากการตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 69 หมู่ 10 บ้านตะแบก ต.ลุมปุ๊ก อ.เมือง เป็นบ้านที่เอาเศษไม้มาสร้างเป็นหลังเล็ก ๆ ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีห้องน้ำ ไม่มีห้องครัว พบนางหัด โพธิ์เงิน อายุ 69 ปี อาศัยอยู่กับ ด.ช.ธีรเดช (เบนเทน) โพธิ์เงิน หลานตัวเอง อายุ 9 ขวบ นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนวัดสว่างบูรพา ต.ลุมปุ๊ก

ทั้งสองชีวิต อาศัยอยู่ด้วยความลำบาก น้องเบนเทน จะต้องเดินหาปีนเอาผลกระบก (ชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า มะลื่น หมักลื่น) มาผ่าแคะเอาผลข้างใน แบ่งใส่ถุงขๅยหาเงินช่วยยาย

นางหัด เล่าว่า ตนมีลูก 4 คน แต่ละคนออกบ้านไปแล้วไม่เคยติดต่อกลับมาเลย เมื่อหลายปีก่อน ตนกับสามีไปทำงานรับจ้างที่จังหวัดจันทบุรี ปี 2554 ลูกชายคนเล็กอายุตอนนั้นประมาณ 29 ปี เอาลูกสะใภ้และหลานเพิ่งคลอดมาอยู่ด้วย ลูกชายอ้างว่าทำงานขับรถบรรทุกไม่มีเวลาดูแล วันเกิดเหตุตนกลับมาจากทำงานประมาณ 18.00 น.

เห็นหลานนอนในเปล ลักษณะปากซีด เห็นเพียงขวดนมอยู่ข้าง ๆ เมื่อตามหาแม่เด็กไม่พบ จึงไปถามชาวบ้าน มาทราบว่า แม่น้องเบนเทน ได้หอบกระเป๋าหนีไปตั้งแต่ตอนเช้า จึงเลี้ยงหลานมาเองโดยตลอด ต่อมาสามีเสีຍชีวิต จึงย้ายมาอยู่บ้านเกิดที่บุรีรัมย์ เพราะหลานถึงวัยเข้าเรียน แต่ลูกชายกับลูกสะใภ้ ไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ เกี่ยวกับน้องเบนเทนให้ และไม่สามารถติดต่อแม่ของน้องได้

ซึ่งนางหัดพยายามหาทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือหลานที่ไม่มีหลักฐานการแจ้งเกิด ทั้งนี้ก็ได้ขอความช่วยเหลือจากครูในโรงเรียนด้วย แต่ไม่มีใครช่วยเหลือได้ กระทั่งมาขอความช่วยเหลือกับสารกำนัน ต.ลุมปุ๊ก ซึ่งเป็นคนของฝ่ายปกครอง เมื่อกำนันติดต่อกับทางอำเภอ

กลับได้รับคำตอบว่า จะต้องทำการ ตรวจ DNA เพื่อยืนยันความสัมพันธ์ทางสายโลหิตระหว่างยายกับหลาน แต่มีค่าใช้จ่ายคนละ 5,000 บาท รวมเป็น 10,000 บาท ทำให้ยายไปต่อไม่ได้ เนื่องจากไม่มีเงิน

ตอนนี้ยายหัดอาศัยอยู่บนที่ดินของพี่สาว ได้เงินจากเบี้ยคนชราเดือนละ 600 บาท มาเลี้ยงหลาน บางวันต้องอดข้าว เพื่อให้หลานกิน เพราะสงสารหลานที่ต้องเดินไปโรงเรียน ทั้งยังไม่ได้เงินติดตัวไปโรงเรียน เสื้อผ้า ชุดนักเรียนมีเพียงชุดเดียว

จึงอยากจะร้องขอผู้ใจบุญช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายการตรวจ DNA เพื่อให้หลานได้มีบัตรประชาชนเหมือนคนทั่วไป หากตนเองเสีຍชีวิตไปแล้ว ไม่รู้ว่าจะหาหลักฐานมายืนตัวตนของหลานได้อย่างไร

ด้านนายบุตรดี เลไธสง สารวัตรกำนัน ต.ลุมปุ๊ก อ.เมือง กล่าวว่า ครอบครัวนี้น่าสงสาร ชื่อเด็ก ผอ.โรงเรียนเป็นคนตั้งให้ เป็นเด็กเรียนดีเกรดเฉลี่ย 3.0-3.5 ก่อนหน้านี้ได้ไปวิ่งเรื่องการทำบัตรประชาชนของน้องเบนเทน แต่มาสะดุด เพราะจะต้องเสียค่าตรวจ DNA 10,000 บาท เพื่อเอามายืนยันก่อนทำบัตรประชาชน

ข่าวดีล่าสุดมีปลัดอำเภอออกมาบอกว่า ตอนนี้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ประสานงานมาแล้วว่าจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายในการตรวจ DNA ของยายหลานให้เอง นับว่าเป็นเรื่องราวที่ประทับใจชาวไทยทั่วประเทศรวมถึงยายหลานทั้งสองที่มีโอกาสได้ทำบัตรประชาชนแล้ว

แหล่งที่มา : nokgrajoknews / onbnews

เรียบเรียงโดย baansuann.com