วันนี้จะพาทุกคนมาติดตามเรื่องราวที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียกับศาสนาอย่างมาก เมื่อ น.ส.นฤมล เพชรออย อายุ 39 ปี เจ้าของร้านชายอุปกรณ์และโทรศัพท์มือถือชื่อร้าน อรโมบาย ห้างแห่งหนึ่ง ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ แจ้งว่ามีชายทั้งแช็ตเข้ามาขอเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กโดยที่ตนไม่รู้จักเมื่อวันก่อน และตนพึ่งรับเป็นเพื่อนเมื่อวานได้ประมาณ 2 ชั่วโมง
ชายคนดังกล่าวได้แช็ตเข้ามาคุยและพูดจาในลักษณะเข้ามาจีบตน เพราะตนขๅยของแบบนี้ตนได้เปิดเฟซบุ๊กเป็นสาธารณะ โดยที่ไม่ได้มีการปิดกั้นใคร บุคคลดังกล่าวก็แช็ตมาในลักษณะจีบ ซึ่งตนก็ได้ดูรูปจากโปรไฟล์ พบว่าชายที่แช็ตเข้ามาพูดคุยกับตนเป็นพระภิกษุสงฆ์
ชายคนดังกล่าวก็ใช้คำแทนตัวเองว่าอาตมา แต่ที่ตนดูจากข้อความที่แช็ตมาแล้วตนคิดว่ามันไม่ใช่กิจของสงฆ์ มันไม่สมควรที่จะมาถามแบบนี้ พร้อมถามว่ามีแฟนหรือยัง ตนก็ตอบไปว่ายังไม่มี มันก็เหมือนเข้าทาง ชวนคุยและพูดจาในลักษณะขอดูแลตน และพิมพ์มาบอกตนว่า รักนะ ชอบคนของใจ จุ๊บ จุ๊บ ตนก็เลยหว่านล้อมถามเข้าไปเรื่อย ๆ
จนกระทั่งเขาบอกมาว่าจะส่งเสียให้เราเดือนละ 3,000 บาท ก่อนหน้านี้ตนก็ได้เข้าไปดูในโปรไฟล์ของเขา ซึ่งพบว่าเคยมีสามีของใครก็ไม่รู้ ซึ่งเหมือนจะเป็นผู้เสียหายเหมือนกัน แสดงความเห็นว่า อย่าไปขอเมียเขานอนด้วย และเท่าที่ตนเช็กไปคุยกับพระที่เป็นเพื่อนของเข้าในเฟซบุ๊ก พบว่าเขาเป็นพระจริง ๆ แต่เขาก็พูดอะไรไม่ได้เพราะสมณศักดิ์เขาสูงกว่า ได้แต่บอกตนมาแค่นี้
ตนก็คิดว่าเกินจากคำว่าพระสงฆ์ ในความศรัธาเรามันไม่ใช่ ซึ่งตนก็ขๅยของแบบนี้มา 9 ปี ก็ไม่ยังเคยเจอแบบนี้ ถ้าเป็นคนธรรมดาก็ไม่จะไม่ว่าอะไรเลย เพราะหากไม่พอใจเราก็บล็อก
แต่นี่ที่รับไม่ได้คือเป็นพระแล้วมาทำแบบนี้ ซึ่งก็อาจไม่ได้เป็นครั้งแรกที่ทำ ปีที่แล้วก็ทำแล้วมาปีนี้มาทำแบบนี้อีก มาเกาะผ้าเหลืองกินจะทำให้พระที่เขาปฏิบัติดี ต้องเสื่อมเสียไปด้วย เป็นเพื่อนแค่ 2 ชั่วโมง ทักแช็ตมาจู่โจมแบบนี้เลย รับไม่ได้
ทั้งนี้หากผู้ที่แชตมาคุยกับสาวคนดังกล่าวเป็นพระจริง อาจถูกดำเนินคดีทางกฏหมายได้ เพราะทำให้เสื่อมเสียทางศาสนาด้วย
แหล่งที่มา: siamstreet
เรียบเรียงโดย baansuann.com
