“วาววา ณิชชา” น้ำตาคลอ ปรึกษาเรื่องหัวใจกับพี่อ้อยพี่ฉอด

เมื่อไม่นานมานี้ “วาววา ณิชชา” มาเป็นเเขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show เปิดเเบบหมดเปลือกทุกเรื่องราวของชีวิตในเรื่องราวของชีวิต เผยเป็นคนที่อะไรในชีวิตต้องสุดพร้อมยอมรับเป็นคนเครียดกับการใช้ชีวิตในทุกเรื่อง เเละคำถามจากหัวใจที่เอ่ยปากถามพี่อ้อยพี่ฉอด คนที่ใช่ต้องคลิกทุกเรื่องไหม?

ถาม ก่อนจะมาเป็นนางเอก วาววา ณิชชา เป็นนักกีฬาเลย กีฬาที่ถนัดที่สุดก็คืออะไร เเล้วทำไมถึงเลือกกีฬาชนิดนี้

วาววา ณิชชา : กีฬากระโดดน้ำค่ะ จริงๆ เป็นนักกีฬาว่ายน้ำก่อนค่ะ เเต่ว่านักกีฬาว่ายน้ำคู่เเข่งเยอะมาก เพราะว่าใครก็ว่ายได้ เเต่ว่าการที่เราจะก้าวไปเป็นเยาวชนทีมชาติ ถ้าว่ายน้ำโอกาสคงน้อยมาก คุณเเม่ก็เลยมองว่าวาเล่นยิมนาสติกมาตั้งเเต่เด็ก สามารถตีลังกาเเละมีความอ่อนตัวค่ะ เเล้วเราเป็นนักกีฬาว่ายน้ำด้วย ก็เลยเริ่มไปฝึกซ้อมค่ะ

ถาม เเต่มันใช้สกิลเเห่งความกล้าหาญต่างกันเหมือนกัน ไม่กลัวเหรอเพราะว่าโดดลงมาจากที่สูงมากๆ

วาววา ณิชชา : กลัวค่ะ ก่อนโดดทุกครั้งก็กลัวทุกครั้ง เเต่เราสามารถเลือกได้นะคะ เขาจะมี 2 อย่าง สปริงบอร์ดจะมีเเค่ 1 เมตรกับ 3 เมตร เเล้วก็จะเน้นกระโดดเเละท่าสวยงามค่ะ เเต่ว่ามันก็จะมีอันที่เป็นเเพลตฟอร์มสูงสุด 10 เมตรเหมือนกันค่ะ ก็สามารถเลือกได้ ถามว่าเราไปถึง 10 เมตรไหมก็คือจำเป็นต้องซ้อมทุกอย่าง เเต่ว่าเวลาเราเเข่ง เราสามารถเลือกว่าเราถนัดอย่างไร

ถาม รางวัลที่วาววา ณิชชาได้รับด้านกีฬามีอะไรบ้าง

วาววา ณิชชา : ส่วนมากจะเป็นชิงเเชมป์ประเทศไทยที่เเข่งกันในประเทศไทย ก็จะเป็นเยาวชนทีมชาติ จะต้องชนะตรงนี้ก่อนค่ะ ถึงจะได้ไปเเข่งต่างประเทศ

ถาม เเล้วตอนนั้นทำไมวาววา ณิชชาถึงไม่ไปทางด้านกีฬาให้สุดเลย เป็นทีมชาติ เคยคิดไหมว่าจะไปเเบบนั้น

วาววา ณิชชา : ตอนนั้นก็เป็นเยาวชนทีมชาติเเล้วนะคะ เเต่เราไม่ได้ชอบ ไม่ได้มี passion ขนาดนั้นค่ะ เเละก็ช่วงนั้นวาก็เริ่มเป็นหuอนหนังสือ อ่านหนังสือเยอะ เราก็จะอ่านพวกเเนว How to ทำไมบิล เกตส์ ถึงประสบความสำเร็จ ทำไมสตีฟ จอบส์ ถึงประสบความสำเร็จ

เเล้วก็เห็นว่าจริงๆ โลกนี้มันมีโอกาสอีกมากมายเลยนะ เราอยากทำอะไร อยากได้อะไร อยากเดินชีวิตไปในทางไหนจริงๆ เรามีตัวเลือกอีกเยอะเเยะมากมาย เราลองทำอย่างอื่นดูไหม ก็เลยเเบบไปเเคสโฆษณา เเคสละครเเละก็ได้เข้ามาในวงการค่ะ

ถาม อันนั้นคือเป็นเส้นทางไปตามเส้นทางปกติคือไม่ได้มีทางลัดใดๆ เเล้วทำไมถึงรู้สึกว่าอยากไปเเคสติง

วาววา ณิชชา : ตอนเเรกเราก็ยังไม่รู้ว่าเราชอบอะไรเเต่ว่าวาอ่านหนังสือ The Secret เเล้วมันเป็นเรื่องของวิธีคิดว่าเราอยากได้อะไรให้เราโฟกัส ตอนนั้นเราเด็ก เราก็ยังไม่รู้ว่าเราอยากได้อะไร เเต่เราอยากได้เงิน เพราะว่าเราไม่มีเงินเลย เราอยู่ในบ้านทาวน์เฮาส์เล็กๆ เเละทุกเดือนคุณเเม่ก็ชักหน้าไม่ถึงหลัง

ทุกอย่างมันยากไปหมดเลย เราก็เลยเขียนตัวเลขในสมุดบัญชี ซึ่งตอนนั้นเป็นสมุดบัญชีที่โรงเรียนเปิดให้ว่าเราอยากมีเงิน 1 เเสนบาทในบัญชีค่ะ เพราะตอนนั้นเราไม่รู้ว่าเราอยากทำอาชีพอะไร เพราะตอนนั้นเราเเค่ 15-16 ปีเอง ก็เลยมีคนชวนไปเเคสก็ไปเเคสไปๆ มาๆ มันถึง 1 เเสนบาทจริงๆ

ถาม วาววา ณิชชาเป็นคนมีความเครียดกับการใช้ชีวิตในเเต่ละช่วงของตัวเองไหม เเล้วความเครียดมี 10 ระดับ วาววา ณิชชาอยู่ในระดับไหน

วาววา ณิชชา : เครียดทุกช่วงเลยค่ะ ถามว่าอยู่ในระดับไหนก็ระดับ 10 ตลอดเวลากับทุกเรื่อง สุดกับทุกเรื่องค่ะ อาจจะเพราะพออ่านหนังสือด้วย เเละชีวิตเรามีโอกาสมากมายนะ เราทำอย่างไรถึงจะสำเร็จในเเต่ละทาง วามีเเผนที่อยากจะทำให้คุณภาพชีวิตของคนในประเทศดีขึ้น

เพราะเรามองว่าเราลำบากเเละอย่างที่วาบอกค่ะ 70% ของประเทศก็ลำบาก เกษตรกรลำบากเยอะเเยะมากมายเลย ตา-ยายเราลำบากมาก เเม่เราลำบากจนมาถึงเรา เราลำบากอีก เราจะทำอย่างไรได้บ้างที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนให้ดีขึ้นเมื่อ 10 ปีที่เเล้วตอนวาอายุ 20 ปี วาก็วางเเผนผังเลย

คิดเเพลตฟอร์มว่าจะทำอย่างไรให้ชาวนาปลูกข้าวให้ดีขึ้นสามารถเชื่อมต่อกับบริษัทใหญ่ๆ หรือ SME ปัจจุบันซึ่งมีมากมายทำอย่างไรให้ชีวิตคนในประเทศดีขึ้น อันนั้นเป็นเป้าหมายใหญ่ที่สุดของชีวิตวาคือทำเพื่อสังคม อาจจะเห็นเเก่ตัวด้วย เพราะว่าอยากพิสูจน์ตัวเองว่าเราเกิดมาครั้งหนึ่ง เราสามารถเปลี่ยนเเปลงอะไรได้

เพราะมันจะเป็นความภูมิใจของเรา เป็นเหมือนเเบบว่าฉันทำได้นะ เเต่ก่อนกดดันว่าฉันต้องทำให้ได้ก่อน 30 ปี ต้องทำอันนี้ออกมาให้ทุกคนได้ใช้ เเต่ว่าพอเวลามันผ่านไป เราก็ลดความกดดันของตัวเองน้อยลง คือเราไม่ทำก็ไม่ได้มีใครว่าเรานะ เเต่มันเป็นสิ่งที่เราอยากทำ เพราะฉะนั้นก่อนเราเสีຍชีวิตไป เราทำได้ดี ถ้าเราทำไม่ได้ ไม่เป็นไร อย่าโกรธตัวเอง

ถาม สมมติการตั้งเป้าอะไรสักอย่างในการทำงาน ฉันจะต้องเเบบนี้ให้ได้ มันจะต้องมีความเพอร์เฟกต์อย่างน้อยระดับนี้เเหละนะ เเละถ้าเกิดมันผิดต่อความคาดหวัง สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นคืออะไร

วาววา ณิชชา : ก็เครียดค่ะ ถ้าเเต่ก่อนก็จะอยู่กับมันนานหน่อย เดี๋ยวนี้ก็จะปล่อยเร็วขึ้น เเล้วพยายามทำให้ครั้งต่อไปผิดพลาดน้อยที่สุด อย่างเช่นสมมติว่าวารู้สึกคลื่นไส้ที่กอง เเล้วทำอย่างไร ต้องลำบากให้คนอื่นไปหาซื้อยาให้

คิวต่อไป วามียาเเก้คลื่นไส้เเล้ว ตอนนี้วามีทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อลดความผิดพลาดให้มากที่สุด พยายามทำให้ทุกอย่างมันเพอร์เฟกต์ที่สุด ทำให้มีความผิดพลาดน้อยที่สุด

ถาม เเล้วเรื่องไร้สาระที่สุดของวาววา ณิชชาอย่างไปเที่ยว วาก็ยังตั้งเป้าหมายไหมเราจะเครียดเรื่องอะไร

วาววา ณิชชา : สมมติว่าวาเป็นคนชอบทำกิจกรรม สมมติว่าถ้าไปดำน้ำอย่างนี้ก็จะต้องเป็น Divemaster ให้ได้ ต้องเป็นระดับสูงสุดของนักดำน้ำให้ได้ ต้องดำให้ครบ 200 ไดร์ฟ เพื่อที่จะได้ระดับสูงสุด อย่างเวลาที่เราไปทานข้าว ทานไก่เหลือง เราก็จะคิดว่าเเคลอรี่เท่าไหร่ เเล้วกินมันจะคุ้มกับที่เราไปออกกำลังกายไหม

ถาม ปกติวาววา ณิชชาเล่นเซิร์ฟบอร์ดไหม

วาววา ณิชชา : อย่างเราเล่นเซิร์ฟ ทุกคนก็จะเอ็นจอยถ่ายรูปได้รูปก็จบเเล้ว เเต่เราเป็นนักกีฬามาก่อนด้วย เรามีสกิล เพราะฉะนั้นเล่นเซิร์ฟต้องเล่นให้ไปเเข่งได้ เราก็ซื้อบอร์ดเลยตั้งเเต่เเรกๆ ไปให้สุด

วาววา ณิชชา : อยากจะถามพี่อ้อย พี่ฉอดเหมือนกันว่าการที่คนทุกคนจะเจอคนที่ใช่เเล้วรู้สึกอยากเเต่งงานกับคนนี้ มันคืออะไรที่บ่งบอกว่าคนนี้คือใช่ที่สุด อย่างวาตอนนี้รู้สึกว่าเป้าหมายมันคล้ายกัน เรารู้สึกว่าใช่ เเต่พอเรื่องรายละเอียดในชีวิตประจำวัน เรารู้สึกว่าเหนื่อຍยากมาก ต้องเจอที่ปรึกษา ต้องพยายามปรับตัวตลอด หรือเพราะมันไม่ใช่ เเล้วคนที่ใช่มันควรคลิกกันทุกเรื่องไหม

พี่ฉอด : จริงๆ เเล้วมันไม่มีอะไรที่เป็นคำว่าต้องเลย พี่กำลังรู้สึกว่าบางทีเราอาจจะใช้ชีวิตอยู่กับคำว่าต้อง ต้องทำอย่างนั้น ต้องทำอย่างนี้เกินไป เเต่สิ่งที่วาววากำลังพูดมาทั้งหมด พี่ว่ามีความสุขตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น เอาง่ายๆ คำว่าใช่ไม่ใช่ พี่ไม่รู้เหมือนกันว่าความหมายมันคืออะไร

เเต่วันนี้อยู่ใกล้ใครเเล้วมีความสุขก็อยู่ ถ้าต่างคนต่างยังมีความพยายามในการที่จะปรับทุกอย่างให้มันพอดีกัน ซึ่งพี่ถือว่าอันนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ อย่าไปตกใจว่าทำไมทะเลาะกัน ต า ຍ เเล้ว ทำไมเห็นไม่ตรงกัน พี่ว่ามันเป็นธรรมชาติของมนุษย์นะ คนสองคนอยู่กันคนละซีกโลก

เเล้ววันหนึ่งมาเจอกันเเล้วบอกให้พอดีกันไปทุกอย่างเลยมันคงเป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นเพียงเเค่ใช้ชีวิตไปตามธรรมชาติ วันนี้ก็รักกันมีความสุขมากกว่าความทุกข์ไหม ทะเลาะกันก็ได้ เเต่มองการทะเลาะกันให้มันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ บ้างก็ได้

ทั้งที่ความจริงเเล้ววันนี้ถ้ามองมุมหนึ่ง เราก็มีทุกอย่างเนอะ มีคนๆ หนึ่งซึ่งอุตส่าห์ข้ามประเทศ ข้ามโลกมาหาเราที่นี่ ถ้าเขาไม่ได้รักเราซะเหลือเกิน พี่ว่าเฮนรี่คงไม่เสียสละขนาดนั้นค่ะ

พี่อ้อย : พี่ว่าคนที่ใช่คือคนที่ชอบ ตอนชอบใช่หมดเเหละ พอวันหนึ่งไม่ชอบเเล้วไงก็เเปลว่าไม่ใช่ พี่ว่าคำว่าคนที่ใช่ บางทีมันเป็นคำที่ดูไม่ค่อยมีเหตุผลค่ะ เเละพี่เชื่อว่าถ้าเกิดว่าการเเต่งงานเป็นเรื่องของการตลาด ก็ให้มันทำการตลาดสักหน่อย อย่างน้อยในงานเเต่งงานหนึ่งก็มีอีกหลายอาชีพที่ได้เงิน ก็ถือว่าโอเค ร้านจัดดอกไม้ได้เงินนะคะ

ถ่ายภาพเเต่งงานได้เงินค่ะ เพราะเราไม่เห็นจำเป็นต้องไปใส่เหตุผลกับทุกเรื่อง สมมติว่างานเเต่งงานก็ไม่ได้เเปลว่าต้องใหญ่ บางคนงานเเต่งเขาเล็กๆ อยู่กันน่ารักๆ อย่างหนูบอกเป็นปาร์ตี้เพื่อนๆ เเต่คราวนี้ถ้าถามว่าคู่เเต่งงานจะต้องคลิกกันระดับไหน พี่ว่าคนเราสื่อสารกัน รับฟังกันทั้งชีวิตเราเรียนรู้ทั้งชีวิตเลยนะคะ

พี่ไม่เคยมั่นใจเลยว่าจะเเต่งงาน 10 20 30 ปีเเล้วบอกว่าฉันรู้จักกันดี ไม่เลยค่ะ เพราะมันมีสิ่งใหม่ๆ ให้เราได้เรียนรู้ ความรักคือการที่มีคนสองคนที่มีความเติบโตในเเต่ละปีไม่เห็นเหมือนกันเลย เเล้วก็เเค่เราพร้อมเรียนรู้กันหรือเปล่าพี่ว่าคู่เเต่งงานไม่ได้รักกันทุกวันหรอกทุกคู่เหมือนกันหมด

เเต่ให้สะบัดมือจากกันไหมไม่ฉันโอเคถ้าฉันชั่งน้ำหนักฉันก็จะมีความสุขในการเรียนรู้ ความไม่สมบูรณ์เเบบของกันเเละกันพี่ว่าตรงนั้นมากกว่าเเละมันไม่มีใครรู้หรอกค่ะว่าเเต่งงานเเล้วเลือกวันนี้มันใช่อีก 10 20 ปีไหมเอาเป็นว่ามีความสุขที่สุดในจุดที่ต้องเลือก

พี่อั๋น : เอาจริงๆ ไม่ใช่เเค่เขา ย้ายประเทศมานะ วันนี้ที่วาววานั่งสัมภาษณ์อยู่ เขาฟังภาษาไทยไม่ออก เเต่เขานั่งอยู่เฉยๆ ตั้งเเต่เริ่มต้นจนตอนนี้ไม่ลุกไปไหนเลยด้วย เเล้วนั่งมองตลอดเลย อยากบอกอะไรกับเขาไหม

วาววา ณิชชา : (น้ำตาคลอ) ฉันบอกพวกพี่เขาว่าเราทะเลาะกันบ่อยเเละฉันก็ถามพี่ๆ ว่าคนที่ใช่คืออะไร พี่ๆ เขาก็ชี้ให้เห็นเรื่องที่คุณย้ายประเทศ ข้ามน้ำข้ามทะเลมาอยู่กับฉัน จนตอนนี้ที่คุณไม่เข้าใจภาษาไทยเลย เเต่คุณก็ยังนั่งฟังฉันประทับใจมากๆ ฉันขอโทษสำหรับหลายๆ สิ่ง ฉันรักคุณค่ะ

ถาม เเล้วเฮนรี่มีอะไรอยากจะบอกวาววาไหม

เฮนรี่ : เรื่องที่ผมห่วงที่สุดคือการทำให้คุณมีความสุขในการเดินทางของชีวิต เราจะเดินไปด้วยกัน ชีวิตมันจะน่าสนใจถ้าเราได้เจออะไรที่เป็นอุปสรรคเเละท้าทาย เเต่ว่าความตั้งใจที่อยากทำให้คุณมีความสุขก็ไม่สำคัญเท่าการกระทำ เเม้ว่าผมจะทำอะไรผิดพลาดไปมากมาย

ผมเรียนรู้ที่อยากจะเป็นคนที่ดีขึ้น ผมก็หวังอย่างเดียวว่าอยากช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นเเละเป็นได้อย่างที่หวัง ผมจะทำทุกอย่างเพื่อซัพพอร์ตคุณนะ

แหล่งที่มา amarintv

เรียบเรียงโดย baansuann.com