“พระพยอม” เผย เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ วัดสวนแก้ว มีสิทธิ์ได้ค่าโฉนด 10 ล้านคืน

วันนี้เราจะมาติดตามกรณี ที่ อ.ปรเมศวร์ ออกมาบอกว่า มั่นใจ “วัดสวนแก้ว” มีสิทธิ์ได้เงินค่าที่ดิน 10 ล้านที่จ่ายให้นางวันทนา คืนตามกฎหมาย แนะอย่าเพิ่งย้ายออกจนกว่าจะมีการฟ้องขับไล่ ด้าน พระพยอม เผยพบไม้งามเมื่อยามขวานบิ่น เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

วันที่ 17 มิ.ย. 63 นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี พร้อม “พระพยอม กัลยาโณ” เจ้าอาวาสวัด ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงแนวทางสู้ปมที่ดินวัดสวนแก้ว จากกรณีปัญหาซื้อขๅยที่ดินหน้าวัดสวนแก้ว อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จำนวน 1 ไร่ 1 งาน 55 ตารางวา โดย “นางวันทนา” อ้างครอบครองปรปักษ์มากว่า 30 ปี กระทั่งศาลมีคำสั่งให้กรมที่ดินออกโฉนดให้กับนางวันทนา เป็นผู้มีสิทธิ์ในที่ดิน

โดยเมื่อปี 2547 นางวันทนา นำที่ดินมาขๅยให้กับมูลนิธิสวนแก้วในราคา 10 ล้านบาท แต่ทายาทเจ้าของเดิมฟ้องร้องเรียกที่ดินคืน และ นางวันทนา ไปเซ็นยินยอมว่าไม่ได้ครอบครองปรปักษ์แต่เป็นผู้เช่า ทำให้ที่ดินกลับไปเป็นของเจ้าของเดิม โฉนดวัด เลยถือเป็นโมฆะ เป็นที่มาของ “โฉนดถุงกล้วยแขก”

ต่อมา ศาลฎีกาได้ตัดสินให้วัดสวนแก้วแพ้คดี และต้องคืนที่ดินให้กับทายาทเจ้าของที่ดิน อย่างไรก็ตาม นายปรเมศวร์ กล่าวว่า มั่นใจว่า “พระพยอม” มีสิทธิ์ได้เงินค่าที่ดิน 10 ล้านคืน เพราะตามหลักกฎหมาย ถ้าเจ้าของที่จะเอาที่ดินคืน ก็ต้องชดใช้เงินค่าซื้อที่ดินให้พระพยอมก่อน พร้อมยืนยันว่า กฎหมายคุ้มครองผู้ซื้อขๅยอย่างถูกต้องเสมอ

ทั้งนี้ ที่ดินผืนดังกล่าว ยังมีคนงานของวัดสวนแก้วอาศัยอยู่ 1 ครอบครัว ซึ่งนายปรเมศวร์ แนะนำว่ายังไม่ต้องเร่งย้ายออก เพื่อรอให้ทางทายาทเจ้าของที่ดินฟ้องขับไล่ก่อน ซึ่งจะทำให้ทางวัดสวนแก้วสามารถใช้สิทธิ์ยึดหน่วงตามกฎหมายเทียบเคียง เพื่อขอเงินค่าซื้อที่ดิน 10 ล้านบาทคืนได้

ส่วนโฉนดฉบับที่อยู่กับทายาทเจ้าของที่ดินนั้น เป็นฉบับที่ถูกต้อง หรือสามารถเพิกถอนสิทธิ์ได้หรือไม่นั้น ยังต้องขอเวลาตรวจค้นคำพิพากษา เพื่อศึกษาเอกสารคำฟ้องให้ละเอียดก่อน

ด้านพระพยอม กล่าวว่า หลังจากที่ อาจารย์ปรเมศวร์ ได้เข้ามาช่วยเหลือ เปรียบเสมือนพบไม้งามเมื่อยามขวานบิ่น พร้อมเอ่ยปากชมว่า ยอดเยี่ยมมาก ที่ทำให้วัดสวนแก้วเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

แหล่งที่มา: thailandstack

เรียบเรียงโดย baansuann.com