สองสามีภรรยานำเงินเยียวยา 15,000 บาท ลงทุนเลี้ยงแพะ หวังยึดเป็นอาชีพ

วันนี้เรามีเรื่องราวดี ๆ มาฝากทุกคน เป็นเรื่องราวของสามีภรรยาที่ อ.ครบุรี โคราช นำเงินที่ได้จากการลงทะเบียนโครงการเราไม่ทิ้งกัน 15,000 บาทต่อยอด มาลงทุนเลี้ยงแพะช่วงโควิด-19 ระบาด หวังต่อยอดเป็นอาชีพที่มั่นคง สร้างรายได้เลี้ยงตัวเองในระยะยาว

เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการลงทะเบียน โครงการ “เราไม่ทิ้งกัน” ที่ทางรัฐบาลได้จัดสรรเงินเพื่อเยียวยา ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสโคโรนา หรือ โควิด–19 รายละ 15,000 บาท

ตลอดระยะเวลา 3 เดือน ทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งยังคงมีรายได้ เพื่อประคับประคองครอบครัวในช่วงวิกฤตินี้ บางคนยังสามารถนำเงินที่ได้รับส่วนนี้ไปเป็นจุดเริ่มต้นในการประกอบอาชีพ เพื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต

ดังเช่น ครอบครัวของ นายฉัตรมงคล บุตรวิชา อายุ 33 ปี และนางสาวสุพัทรชา พยัฆกุล อายุ 40 ปี สองสามีภรรยา ชาวบ้านหนองไทร หมู่ที่ 4 ต.ลำเพียก อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา พร้อมลูกชายวัย 5 ขวบ ซึ่งมีอาชีพรับจ้างทั่วไป และได้รับเงินเยียวยาช่วงวิกฤติโรคโควิด-19 ระบาด ตามโครงการเราไม่ทิ้งกัน โดยได้มาคนละ 15,000 บาท

ได้ตัดสินใจนำเงินที่ได้รับจากโครงการนี้เกือบทั้งหมด ไปลงทุนสร้างคอกแพะ และนำแพะมาเลี้ยง เพื่อเป็นต้นทุนการเริ่มต้นอาชีพใหม่ ที่จะสามารถสร้างรายได้ต่อยอดเพิ่มเติมให้กับครอบครัวในอนาคตอย่างมั่นคง

นายฉัตรมงคล กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับเงินมา ก็ได้ปรึกษาหารือกับครอบครัวของบิดามารดา ที่มีอาชีพเลี้ยงแพะอยู่ก่อนแล้ว เพื่อที่จะมาเลี้ยงแพะต่อยอดเงินที่ได้มาเพื่อให้มีรายได้ที่มั่นคงยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยนำเงินที่ได้มาลงทุนสร้างคอกแพะหมดไปแล้วกว่า 20,000 บาท จากนั้นก็ขอยืมพันธุ์แพะของบิดา มาเพาะขยายพันธุ์ เพื่อหวังที่จะได้ลูกแพะมาเลี้ยง และใช้เพาะขยายพันธุ์ สร้างรายได้ต่อไปในอนาคต

ชาวบ้านหนองไทร อ.ครบุรี กล่าวด้วยว่า ต้องขอบคุณรัฐบาลที่จัดทำโครงการนี้ขึ้นมา เพราะก่อนหน้านี้ตนเองและภรรยา ก็ไม่มีที่ดินที่จะใช้ทำมาหากิน และต้องอาศัยอยู่กับครอบครัวของบิดามารดา ต้องหารับจ้างทั่วไปนำเงินมาใช้จ่ายจุนเจือครอบครัวแบบวันต่อวัน

แต่หลังจากที่ได้รับเงินโครงการ เราไม่ทิ้งกัน จึงพอมีเงินที่จะมาลงทุนทำคอกแพะ อาศัยใช้พื้นที่สาธารณะของหมู่บ้านในการเลี้ยง และกลายเป็นความหวังครั้งใหม่ของครอบครัวที่จะมีรายได้เพิ่มเติม และอาจจะเป็นรายได้หลักนับต่อจากนี้ไป

แหล่งที่มา: thairath

เรียบเรียงโดย baansuann.com