ตำรวจรวบ สาวขับกระบะ ลักสละจากสวนชาวบ้าน อ้างลูกจ้างเขมรชวน

เจ้าหน้าที่ ตำรวจ รวบตัวสาวใหญ่ หลังแอบตัดสละจากสวนชาวบ้าน หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่า มีคนร้ายขับรถยนต์กระบะมาลักขโมยตัดสละ และก่อนหน้านี้ยังมีเพื่อนบ้านอีกหลายรายในละแวกใกล้เคียงโดนเช่นเดียวกัน

ร.ต.อ.ปราโมทย์ จึงประสานตำรวจสืบสวนร่วมเดินทางไปตรวจสอบ ระหว่างนั้นได้รับโทรศัพท์จาก น.ส.ไพรจิตร ผู้เสียหาย ที่เพิ่งออกไปจากโรงพักแจ้งว่า พบรถกระบะของคนร้าย จอดอยู่ ริมถนนหลวงสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ขาเข้าเมือง พื้นที่หมู่ที่ 10 ต.ปัถวี อ.มะขาม จ.จันทบุรี และกำลังจะหลบหนี จึงขับรถไปจอดปิดทางออกไว้

ร.ต.อ.ปราโมทย์ คงนันทะ จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบ พบรถยนต์กระบะต้องสงสัยบรรทุกเข่งใส่สละเต็มท้ายกระบะ จอดอยู่หน้าร้านขๅยแซงเหล็ก โดยมีรถยนต์ของผู้เสียหายปิดทางออกไว้

ตรวจสอบเบื้องต้นพบรถคันดังกล่าว มี น.ส.หนูนิด ธรรมวัฒ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 235 ม.10 ต.แสนสุข อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี แสดงตัวเป็นเจ้าของรถ แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้ลักขโมยตัดสละ แม้จะถูกกลุ่มชาวสวนที่เสียหายยืนยันหนักแน่นว่า จดจำทั้งใบหน้าและรถยนต์  และยังมีคลิปวงจรปิดเป็นหลักฐาน

มีคนงานชาวกัมพูชา อีก 2 คน ที่มากับ น.ส.หนูนิด ซึ่งเป็นนายจ้างและเจ้าของรถ ไหวตัวรีบพากันเดินหลบหนีไปในป่าทางหลังร้านขๅยแซง ทางเจ้าหน้าที่จึงติดตามจับกุมได้ทั้ง 2 คน ก่อนคุมตัวทั้งหมดไปสอบปากคำเพิ่มเติม

จากการให้ปากคำทราบชื่อ นายเมท เฮือน และนางซกกุนเทีย รุง เป็นสามีและภรรยากัน ให้การซัดทอดอ้างว่า น.ส.หนูนิด นายจ้าง เป็นผู้พาไปขนสละขึ้นรถ แต่ไม่ได้เป็นคนลงมือตัดสละ

ขณะที่ น.ส.หนูนิด ถูกสอบเครียดนานร่วมชั่วโมง จึงยอมเปิดปากรับสารภาพว่า ขับรถกระบะป้ายแดง พาลูกจ้างไปตระเวนก่อเหตุลักขโมยตัดสละในสวนของชาวบ้านจริง

โดยอ้างว่า ลูกจ้างกัมพูชาทั้ง 2 คน เป็นผู้แนะนำ จึงแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ของผู้มีอาชีพกสิกรรม โดยใช้ยานพาหนะกระทำความผิดในเวลากลางคืน ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

หลังจากที่จับกุมผู้ต้องหาได้ ต่อมามีชาวสวนสละในพื้นที่ ต.ปัถวี อ.มะขาม และจาก อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี อีกหลายรายที่คาดว่าจะถูกผู้ต้องหากลุ่มนี้เข้าไปก่อเหตุลักขโมยตัดสละ ทยอยเดินทางมาแจ้งความเพิ่มเติมอีกหลายราย

ด้าน น.ส.ไพรจิตร คำสัตย์ ชาวสวนผู้เสียหาย กล่าวว่าคนร้ายขโมยตัดสละพันธุ์สุมาลีจากสวนกว่า 100 กอ น้ำหนักประมาณ 500 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่ากว่า 30,000 บาท ซึ่งมีกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายทั้ง 3 คนไว้ได้ขณะขับรถกระบะออกไป

น.ส.ไพรจิตร กล่าวต่อว่า ผู้ต้องหาเคยทำทีมาติดต่อสอบถามและขอซื้อสละ แต่บอกว่าสู้ราคาไม่ได้ จากนั้นได้ขับออกไป และย้อนกลับมาก่อเหตุในช่วงกลางคืน ขณะเดียวกันยังมีเพื่อนบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงถูกคนร้ายเข้ามาขโมยตัดสละหายไป คาดว่าจะเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน

แหล่งที่มา : khaosod.co.th, msn.com

เรียบเรียงโดย : baansuann.com