วอนช่วยเหลือเด็กหญิง 3 พี่น้อง แม่สิ้นใจไปแล้ว พี่สาวตามองไม่เห็น น้อง ๆ ต้องหยุดเรียน

วันนี้เราขอนำเสนออีกหนึ่งเรื่องราวของเด็กหญิง 3 พี่น้อง โดยได้มีข่าวรายงานว่า ที่ชุมชนห้วยโมง เขตเทศบาลนครสกลนคร ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร จ่าต้น หรือ จ.ส.อ.ศาสตรา ครุทตำคำ ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 3 ค่ายกฤษณ์สีวะรา

พร้อมด้วย นายอัมฤทธิ์ เจริญชัย นักธุรกิจ นำข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องอุปโภค บริโภค และเงินสดซึ่งได้จากการรับบริจาคจากผู้ใจบุญที่ไม่ประสงค์จะออกนาม ไปมอบให้ครอบครัวของ 3 พี่น้อง นามสมมุติ น.ส..เอ อายุ 16 ปี ซึ่งตาบอดสนิทมาตั้งแต่กำเนิด คนที่ 2 ด.ญ.บี อายุ 14 ปี และ ด.ญ.ซี อายุ 12 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 31/37 ชุมชนห้วยโมง ซึ่งเป็นชุมชนแออัดอยู่รอบหนองหาร

บ้านทรุดโทรมเนื่องจากชีวิตความเป็นอยู่แร้นแค้นขัดสน ต้องอดมื้อกินมื้อบางวันแทบจะไม่ได้รับประทานอาหาร ต้องไปเก็บผักมาขๅยและไปหามะขามเทศมารับประทานแทนข้าว ส่วนพ่ออายุประมาณ 47 ปี มีอาชีพเก็บขวดน้ำที่โรงแรม โดยมีลูก ๆ ไปช่วยเป็นบางครั้ง สำหรับแม่ได้เสีຍชีวิตลงเมื่อปี 2557 ด้วยโรคไตวาย

น.ส..เอ กล่าวว่า หลังจากที่แม่เสีຍชีวิต พ่อก็ไม่สามารถส่งเสียลูก ๆ ทั้ง 3 คนเรียนต่อได้ ทำให้ต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน ยังดีที่ทางเทศบาลนครสกลนคร มาซ่อมแซมบ้านและทำห้องน้ำให้ ทำให้ครอบครัวนี้ได้รับความสะดวกบ้างที่จะได้ไม่ต้องไปอาศัยบ้านเพื่อนบ้าน

น.ส.เอ กล่าวว่า ตนซึ่งพิпารตาบอด ต้องอยู่เฝ้าและทำงานบ้าน ส่วนน้อง ๆ คนรองอายุ 14 ซึ่งออกจากโรงเรียนเมื่อตอนเรียนอยู่ชั้น ม.1 เนื่องจากพ่อไม่สามารถส่งเสียได้ ต้องออกไปรับจ้างล้างจานหรืออื่น ๆ แล้วแต่ว่าจะมีคนจ้าง ส่วนน้องคนเล็ก อายุ 12 ก็ต้องออกไปรับจ้างเช่นกัน ได้วันละไม่ถึง 100 บาท ซึ่งก็ไม่พอกิน ทำให้ถูกการประปามายกหม้อน้ำไป

ทั้งที่เป็นหนี้เพียง 170 บาท แต่เมื่อจะไปจ่ายกลับต้องจ่ายเป็นค่าหม้อ เป็นเงิน 6-700 บาท ซึ่งได้รับความเดือดร้อนมาก เพราะไม่มีน้ำใช้ต้องไปอาศัยน้ำของเพื่อนบ้าน ยังดีที่เพื่อนบ้านเมตตาดูแลหยิบยื่นให้

ขณะนี้พวกตนทั้ง 3 คน แม้จะเป็นห่วงพ่อและแบ่งเบาภาระ แต่ก็ต้องการที่จะเรียนหนังสือ อยากให้หน่วยงานต่าง ๆ ช่วยเหลือให้พวกตนได้เรียนด้วยจะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ตาม จ่าต้นกล่าวว่า ได้ทราบข่าวจากคนในชุมชนมาคุยกับมารดาของตน จึงรีบหาทางช่วยเหลือ และได้พูดคุยกับกลุ่มเพื่อนตลอดจนโพสต์ในเฟสบุ๊ก จนมีผู้แจ้งความจำนงที่จะช่วยเหลือ ต่อจากนั้นจะหาทางประสานงานให้ทุกคนได้เรียนหนังสือและฝึกอาชีพคนตาบอด ตามต้องการต่อไป

แหล่งที่มา: วัฒนะ แก้วก่า สกลนคร

เรียบเรียงโดย baansuann.com