คิดก่อนค้ำประกัน อดีตครู เซ็นค้ำ กยศ. ให้ลูกศิษย์ สุดท้ายต้องแบกหนี้เอง

เป็นข่าวออกมาให้เห็นอยู่เรื่อยๆ สำหรับการ ค้ำประกัน แล้วต้องแบกรับหนี้เอง เมื่อไม่นานมานี้ อดีตครูค้ำประกัน กยศ.ให้ลูกศิษย์ สุดท้ายได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ถูกยึดบ้านและที่ดิน

นางวันดี จินา อายุ 77 ปีเล่าว่า เมื่อปี 2540 ตนเห็นแก่อนาคตของ นายศราวุฒิ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ ต้องการได้เรียน ม.ปลาย จึงเซ็นค้ำประกันเงินกู้ กยศ. จำนวน 8,000 บาทให้ แต่ต่อมาพบว่ามีหนังสือทวงหนี้มาถึงตน 174,123.01 บาท

มาทราบทีหลังว่า นายศราวุฒิ นำหลักฐานเดิมไปกู้เงิน กยศ. ต่อเนื่องในการเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง จนมียอดเงินต้นกว่า 80,000 บาท ที่เหลือนั้นเป็นค่าดอกเบี้ย เนื่องจาก นายศราวุฒิ ไม่ได้มีการชำระเงินเลย

ตนได้ไปทวงถามกับพ่อแม่ของนายศราวุฒิ ตอนนั้นทั้งคู่ยืนยันว่าจะรับผิดชอบ จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย ตนได้พาพ่อแม่ของนายศราวุฒิ ไปพบเจ้าหน้าที่ ซึ่งตนคิดว่าพ้นภาระการรับผิดชอบไปแล้ว

แต่ต่อมาเมื่อเดือน พฤศจิกายน 2561 ตนได้รับหนังสือสำนักงานบังคับคดีเรื่องการยึดบ้านและที่ดินที่ตนและสามีอยู่อาศัย ตนจึงไปขอไกล่เกลี่ยชดใช้ยอดหนี้จำนวน 149,904.02 บาท แบ่งเป็น 24 เดือน หากไม่จ่ายตามกำหนดจะถูกขๅยบ้านและที่ดิน

นางวันดี เผยว่า ที่ผ่านมาตนทำการปลูกพืชผักสวนครัวเก็บไปขๅยตามตลาดนัด ให้ได้เดือนละ 3,000-4,000 บาท เพื่อนำไปจ่ายหนี้ กยศ. ตามที่ตกลงกับกองทุนฯ ทุกเดือน แต่ในระยะหลัง ๆ ตนมีอายุมากขึ้น

ทำไม่ค่อยไหวแล้ว แต่ยังเหลือหนี้อีกกว่า 70,000 บาท ในขณะที่มีระยะเวลาเหลืออีก 2 เดือน ตนคงหมดปัญญาที่จะหาเงินมาจ่ายหนี้ และคงถูกบังคับคดียึดบ้านและที่ดินที่อาศัยในปัจจุบัน

ตนพยายามจะไปวิงวอนขอร้องนายศราวุฒิ ซึ่งมีลูกเมียอยู่ในตลาด อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ประกอบอาชีพร้านอาหาร มีรายได้พอสมควร รวมทั้งพ่อแม่ของนายศราวุฒิ ก็ค้าขๅยมีรายได้พอสมควรเช่นกัน แต่ทั้งพ่อแม่และตัวนายศราวุฒิ กลับไม่สนใจและยังพูดจาไม่ดีใส่ตน

หลังจากตนได้รับความเดือดร้อน จึงอยากร้องขอความช่วยเหลือด้วย โดยเฉพาะนายศราวุฒิและครอบครัว ที่ตอนกู้เงิน กยศ. ก็มาวิงวอนขอให้ตนช่วยกู้ให้ ตนเห็นแก่อนาคตจึงยอมเซ็นค้ำประกัน  สุดท้ายต้องมาเดือดร้อนเอง

 

แหล่งที่มา : thousandreason.com, เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์

เรียบเรียงโดย : baansuann.com