คุณครูน้ำตาซึมเมื่อไปเยี่ยมบ้าน ด.ช.ตะวัน จนผู้ว่าฯ สุsาษฎร์ต้องยื่นมือช่วย

อีกหนึ่งเรื่องราวที่ คุณครู ต้องน้ำตาซึมเมื่อออกเชี่ยมบ้านนักเรียน จึงได้นำเรื่องราวดังกล่าวมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งครูสาวเล่าว่า  “เด็กชายตะวัน แก้วดำ (อ่านสักนิดนะคะ) #สตอรี่ของเด็กชายตัวเล็ก

เรื่องเล่าเย็นวันจันทร์ ครูออกเยี่ยมบ้าน เด็กชายตะวันอาสาพาครูเมย์และครูเจินไปเยี่ยมบ้านของเพื่อนๆ ในระเเวกบ้านใกล้เคียงของตัวเอง เราออกเดินทางไปยังบ้านสวนปราง ต.คลองสระ เวลา 16.00 น. เราผ่านห้วย เหว ภูเขาลำเนาไพร รวมถึงข้ามน้ำข้ามคลองกัน จนเยี่ยมบ้านหลังที่ 1 2 3 4 และ 5 สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ถึงเวลาต้องไปส่งเด็กน้อยผู้อาสาพาครูไป

บทสนทนา ระหว่างทางไปบ้านของตะวัน

ครูเมย์ : บ้านตะวันอยู่ใกล้ไหมคะ (คำแรกที่ครู ผู้หญิง 2 คน กับรถเก๋งโหลดต่ำคู่ใจถาม)

ตะวัน : ครูครับ เดี๋ยวครูส่งผมที่ถนนราดปูนก็พอ รถครูต่ำมันขึ้นไม่ได้แน่ ถนนก็ลำบาก ขึ้นควนลงควนเลยครู ไกลอีก

ครูเจิน : แล้วตะวันอยู่กับใคร

ตะวัน : พ่อกับแม่ครับ

ครูเมย์ : พ่อกับแม่ทำงานอะไร แล้วทำไมมาอยู่ในหุบเขาแบบนี้

ตะวัน : พ่อกับแม่รับจ้างครับ มาอยู่บนนี้ไม่มีค่าเช่าบ้าน แต่ไม่มีไฟใช้ครับครู

ครูเมย์ : ไฟเข้าไม่ถึงเหรอ

ตะวัน : คนก่อนที่มาอยู่ เขาไม่จ่ายค่าไฟครับ เขาบอกแม่ว่าถ้าอยากใช้ไฟ ต้องเอาตังค์ไปจ่ายเกือบ 2,000 ครับ

ครูเมย์และครูเจิน เงียบกันไปพักหนึ่ง และเมื่อเราทั้ง 2 คน ตัดสินใจกันแล้วว่าไกลแค่ไหนต้องไปให้ถึง ให้เห็นกับตา ถึงจะลำบากก็ไม่กลัว

ตะวัน : ถึงแล้วครับบ้านผม

ครูเมย์ : สองข้างทางมีแค่ป่า กับภูเขา ไม่เห็นบ้านสักหลัง ฝนก็เริ่มตกหนัก

ตะวัน : รถลงไม่ได้ครับ ต้องเดินเข้าไป บ้านไม่มีไฟ ครูกลับก่อนก็ได้ ไม่เป็นไรครับ

ครูเจิน : ไป มาแล้วต้องไปให้ถึง

เราสองคนเดินเท้าลงไป ลงเขา ขึ้นเขา ทางลาดชัน ฝนตกโปรยๆ ต้องหลบหลีกทางที่ลื่นไหล จนถึงบ้านตะวัน

ครูเจิน : ไม่มีใครอยู่เลยไปไหนกันหมด (ขณะนั้นเวลา 18.20 น.)

ครูเมย์ : ทำไมแม่ไม่หาบ้านเช่าแถวๆ โรงเรียนละตะวัน

ตะวัน : หาแล้วครับ 3 วันแล้ว ไม่มีบ้านว่างเลย ที่มีก็เดือนละ 2,000 – 3,000 #บางวันแม่มีไม่ถึงร้อยครับครู

ครูเมย์ : ลูกเอ๋ย ตั้งใจเรียนนะตะวัน สักวันเราต้องมีในสิ่งที่เราไม่เคยมี เห้อ เด็กที่ตั้งใจเรียนหนังสือ โตขึ้นจะได้มีงานดีๆ ทำนะ

ครูเจิน : ลูกเอ๋ยยย

ตะวัน : #ก่อนเปิดเทอมแม่พาผมไปซื้อรองเท้ามีตังค์ไปไม่พอ เห็นราคาแล้วก็แค่กลับบ้านครับ (น้ำตาของเด็กผู้ชายคนหนึ่งไหล พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ที่เจอออกมาด้วยความหดหู่ใจ

ครูเมย์ : ได้เงินมาโรงเรียนวันละเท่าไหร่ตะวัน

ตะวัน : 30-40 บาทครับครู บางวันก็…..

ครูเมย์ : วันไหนไม่มีตังค์กินขนมมาเอาจากครูนะ

ครูเจิน : เราไปรอแม่ที่รถครูดีกว่า น่าจะปลoดภัยด้วย

18.50 น. พ่อแม่ของตะวันกลับมาจากไปรับจ้างขึ้นตัดสะตอ ขับรถสวนทางกัน ความมีน้ำใจของพ่อ ส่งสะตอให้ครู พร้อมกับยิ้มแล้วบอกว่า #ขอบคุณครับที่มาส่งลูก #เรื่องราวเหล่านี้สอนให้เรารู้ว่าเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่สิ่งที่จะทำให้เราก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้นั้น คือ โอกาส

โอกาสแรกที่ได้รับคือการเลี้ยงดู และส่งให้เรียนหนังสือจากผู้เป็นพ่อและแม่

โอกาสที่สองคือ ครูผู้เปรียบเสมือนพ่อแม่คนที่สองที่คอยให้ความรู้ สอนเรียน เขียน อ่าน ด้านการศึกษา

ส่วนโอกาสที่สาม มาจากความมานะ พยายามของเด็กชายตะวันผู้ซึ่งเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้

แม้วันนี้โอกาสดีดีหลายๆ เรื่องอาจจะยังมาไม่ถึงแต่ครูขอเป็นกำลังใจ แรงใจ ในการส่งเธอให้ถึงฝั่งอีกก้าวหนึ่ง #โดยขอรับบริจาคเสื้อผ้านักเรียน กางเกงนักเรียน รองเท้า ถุงเท้า จากผู้มีอุปการะคุณทุกท่านที่ให้น้องด้วยคำว่า #โอกาสที่มอบด้วยใจ จะขอบพระคุณเป็นอย่างสูงนะคะ ติดต่อทางแชทครูเมย์ได้เลยค่ะ ขอบคุณสำหรับทุกน้ำใจ ที่มอบให้เด็กชายตะวัน”

ล่าสุด ครูสาวคนดังกล่าวได้อัพเดตความคืบหน้าเกี่ยวกับเด็กชายตะวันอีกว่า “#ขอขอบพระคุณท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสุsาษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ว่าที่ร้อยโทสมชายเรืองจันทร์ นายอำเภอกาญจนดิษฐ์ นายธรรมรงค์ มณีโชติ นายกองค์การบริหารตำบลคลองสระ คณะผู้บริหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกสภาฯหัวหน้าส่วนและพนักงานส่วนตำบล

ที่ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นกับเด็กชายตะวัน เเก้วดำ และเด็กหญิงเสาวลักษณ์ อินทร์พรหม ในครั้งนี้ ..คณะครูโรงเรียนบ้านคลองสระ”

 

แหล่งที่มา : ให้ความรู้.com, nationtv.tv

เรียบเรียงโดย : baansuann.com