เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2565 เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ้ง ได้รับเเจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.เมืองอ่างทอง ให้เข้าตรวจสอบมีชายสูงวัยยืนอยู่บนกลางสะพานเลี่ยงเมือง ต.โพสะ อ.เมือง จ.อ่างทอง เกรงว่าจะเกิดเหตุทำร้ายตัวเอง จึงไปตรวจสอบเเละให้การช่วยเหลือ เมื่อไปถึงพบชายสูงวัย สวมเสื้อสีเเดง คลุมด้วยเสื้อเเขนยาว นุ่งกางเกงขาสามส่วน พร้อมกระเป๋าผ้า 2 ใบ ยืนอยู่บนสะพานเลี่ยงเมือง เเละยังมีผู้หญิงสูงวัยสวมเสื้อเเขนยาวสีน้ำเงิน นุ่งกางเกง ข า ว สามส่วน เเละชายวัยรุ่นอีกคน สวมเสื้อเเขนยาว นุ่งกางเกงข้าสั้นเดินตามกันมา ทางเจ้าหน้าที่ป่อเต็กตึ๊ง จึงได้นำพาตัวชายหญิงทั้ง 3 คนลงมาพูดคุยที่ริมถนนเชิงสะพาน จาการสอบถามชายสูงอายุ เล่าให้ฟังว่า ตนเอง อายุ 53 ปี เป็นชาวอ.บึ้งสามัคคี จ.เพชรบูรณ์ เดินทางมาทำงานที่อ.วิเศษชัยชาญ พร้อมด้วยลูกชายวัย 15 ปี เเละภรรยาวัย 57 ปี เเต่ไม่ได้ค่าจ้าง จึงเดินเท้ากันมาทั้ง 3 คนเพื่อไปหางานทำที่เเยกเจ้าปุก อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา เเลเดินะผ่านมาถึงที่สะพานดังกล่าว คงมีคนเข้าใจผิดคิดว่าจะกระโดดลงจากสะพาน จึงเเจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ทางด้านหญิงสูงวัย อายุ …

วันนี้เราจะพาทุกคนมาตามกันต่อ ปมหายยกครัว 4 ชีวิตอยู่ที่ไหน ทำไมไม่ติดต่อลูกสาวคนโต ? โดยทางผู้สื่อข่าว ได้รับรายงานว่า ตำรวจพบพิรุธ 5 ข้อ เกี่ยวกับปมการหายไป ข้อ 1. ประเด็นเกี่ยวกับเงินจำนวน 10 ล้านบาท ตรวจสอบพบว่า นฤมล หรือ นิรุต มีการกู้เงินจำนวนนี้มาเพื่อนำมาหมุน เเล้วเกิดปัญหาบางอย่างทำให้หมุนเงินไม่ทัน ข้อ 2. นฤมล ย้ายลูกออกจากโรงเรียนเเห่งหนึ่งในหมู่บ้าน โดยอ้างว่าจะไปทำงานที่เชียงใหม่ ซึ่งตอนเเรก ลูกสาวจบ ป.6 จะต้องเข้าโรงเรียนเเห่งหนึ่ง ใน อ.ทุ่งเสลี่ยม เพื่อเรียน ม.1 ข้อ 3. นฤมล เเละ นิรุต ขๅยหมูยกฟาร์ม ข้อ 4. วันที่ 9 เม.ย.65 หลังจากที่ขๅยรถเเละโอนปิดไฟเเนนซ์ เหลือเงินก้อนหนึ่ง พบว่ามีการโอนไปยังธนาคารเเห่งหนึ่ง เเละหลังจากนั้นไม่มีความเคลื่อนไหวอีกเลย ข้อ 5. ตำรวจ คาดว่า ยังมีชีวิตอยู่ เเต่อาจจะมีความต้องการหลบหน้า เป็นไปได้ว่ามีปัญหาส่วนตัว ล่าสุด วันที่ 21 …

หลังจากบนโลกออนไลน์มีการเเชร์ข้อความเเละภาพ ประกาศตามหา นายนิรุตน์ บุญชู อายุ 41 ปี นางสาวนฤมล เพ็ชรบุญมี อายุ 41 ปี ด.ช.นฤเบศก์ บุญชู อายุ 12 ปี เเละ ด.ญ.หริญดา บุญชู อายุ 7 ปี ซึ่งหายออกจากบ้านใน อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย ขาดการติดต่อตั้งเเต่วันที่ 10 เม.ย. 65 ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้เป็นเวลา 10 วันเเล้ว ซึ่งก่อนที่จะหายไปยกครอบครัว ได้เเจ้งกับญาติว่าจะไปเที่ยว เเต่ไม่ทราบว่าไปที่ใด โดยใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าสีเทา หมายเลขทะเบียน บพ 3053 สุโขทัย เป็นพาหนะ ความคืบหน้า วันที่ 20 เม.ย. 65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ บ้านลุเตา ซึ่งเป็นบ้านของ นายสอบ บุญชู อายุ 69 ปี หรือตาล้วน ซึ่งเป็นพ่อของ นายนิรุตน์ โดยตาล้วน …

เรื่องราวที่ซาบซึ้งใจ เมื่อมีคนพบ พ่อแม่ลูก 6 ชีวิต ที่ตกรถโดยสารหลังจากที่ตกรถ ซ้ำไม่มีเงินซื้อข้าวกิน โชคดีที่ได้คนใจดีช่วยเหลือ เรื่องราวที่โลกออนไลน์แห่ส่งต่อเพราะเมื่อได้ทราบเรื่องราวแล้วต่างซึ้งน้ำใจของคนในสังคม เมื่อมีคนแจ้งมาว่า พ่อแม่ลูกผ่านมาทางอำเภอหล่มสักเพื่อที่จะไปโคราช แต่ไม่มีค่าโดยสารไปต่อ ทาง ด.ต.พีระพัฒน์ น้อยแก้ว จึงช่วยประสานให้ความช่วยเหลือค่ารถ นอกจากนี้ เมื่อไปถึงร้านอาหารที่หน้า  สภ.หล่มสัก แม่ค้าใจดี ทำอาหารให้ครอบครัวนี้ได้กินฟรี กลายเป็นความประทับใจหนึ่งที่เกิดขึ้น ไม่เพียงแค่นั้นหลังจากที่ตำรวจท่านอื่น ๆ ได้ทราบว่าครอบครัวนี้กำลังเดือดร้อนก็ช่วยกันรวบรวมเงินกันคนละเล็กคนละน้อย เพื่อช่วยเหลือให้ได้มีค่ารถต่อไป ทางด้านแม่ค้าเปิดใจว่า ตนอขๅยอาหารอยู่นี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หล่มสัก พาสามีภรรยา มาที่ร้านบอกว่าไม่มีเงินค่ารถกลับบ้าน ตนสงสารเลยทำข้าวให้กินฟรี ทางด.ต.พีระพัฒน์ น้อยแก้ว อายุ 51 ปี ผบ.หมู่ สส.สภ.หล่มสัก  เล่าว่า ตนออกมาทานข้าวพอดี พ่อเห็นท่าทางผู้เป็นพ่อดูกังวลเดินไปมา จึงเข้าไปพูดคุย พอได้ทราบเรื่องจึงรีบช่วยเหลือ   แหล่งที่มา : mgronline, songworldnull เรียบเรียงโดย : baansuann.com

เรื่องราว ชีวิต ของพ่อแม่ลูก ที่เดินทางอย่างไร้จุดหมาย หวังมีคนจ้างงาน เมื่อมีการเล่าเรื่องราวของครอบครัวหนึ่ง ที่ใช้จักรยานบรรทุกข้าวของ และพาลูกสองคนเดินท่ามกลางแดดจัด ครอบครัวนี้มีกัน 4 คน เดิมทีทำงานที่สวนในอำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ แต่ทางเจ้าของสวนได้ขๅยสวนไปแล้ว จึงต่องเร่ร่อนออกมาหางานใหม่ แบบไร้จุดหมาย ทั้ง 4 ชีวิตเดินจากอำเภอเกษตรสมบูรณ์ มุ่งหน้าไปอำเภอเมือง ค่ำไหนก็ต้องพาลูกนอนนั่น และยังไม่รู้ว่าจะมีใครจ้างงานไหม ผู้ใจบุญที่บังเอิญไปพบได้พูดคุยและให้เงินติดตัวไว้ 500 บาท พอได้เก็บไว้ซื้อข้าวให้ลูกทั้งสองกิน ก่อนที่จะนำเรื่องราวดังกล่าวออกมาเผยแพร่บนโลกออนไลน์หวังพลังโซเชียลช่วยกันส่งต่อเรื่องนี้ ให้ครอบครัวนี้มีงานทำ นอกจากนี้ผู้โพสต์ยังบอกอีกว่าหากใครพบเห็นครอบครัวนี้ก็ฝากช่วยเหลือด้วย   แหล่งที่มา : อาเซียนปาป้า 011 เรียบเรียงโดย : baansuann.com

แฉ วีรกรรม ของครอบครัวหนึ่ง หลังหากินกับความสงสารของชาวบ้าน เมื่อไม่นานมานี้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ออกมาโพสต์เรื่องราวของ 3 ชีวิต พ่อแม่ลูก หลังเจ้าตัวได้ยื่นมือช่วย เพราะความสงสาร โดยที่เขาเองไม่รู้ว่ากำลังตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยหนุ่มรายนี้ได้โพสต์เรื่องราวว่า สามพ่อแม่บุตร 3 คนนี้ เดินมาถามผมที่กำลังจะเข้ามาบ้านว่า พี่ค่ะแถวนี้มีห้องเช่ามั้ยค่ะ ก็แนะนำไปว่าตรงนั้นมีคับ น่าจะ 2,000 บาท กำลังจะเดินเข้าบ้านผู้หญิงก็พูดขึ้นมาว่า พี่พอจะมีเงินสัก 20 มั้ย ผมงงแปบบหนึ่ง แล้วมองดูหน้าพี่เขาแล้วถามว่า เอ้า จะเอาเงิน 20 แล้วมาถามห้องเช่าทำไมอ่ะ แล้วก็เล่าว่าโดนไล่ออกจากโรงแรม โดนเอาเงินประกันไป ถูกยึดไป 800 จากเจ้าหน้าที่โรงแรมเพราะบุตรสาวเอาปากกาไปขีดกำแพงห้องเปื้อน ซึ่งเงิน 800 นั้นเป็นเงินก้อนสุดท้ายในชีวิตที่จะเอามาซื้ออาหารกิน แต่ถามไปมาก็ได้ความว่า โดนไล่ออกจากบ้านแม่เลี้ยง โดนยึดทุกอย่างไปและโดนขับไล่ยังไม่มีที่อยู่ ผมเรียบเรียงความได้สักแปบเลยสรุปได้ว่า โดนไล่ออกจากบ้าน เงินไม่มี งานไม่มี ไม่มีที่อยู่ ไม่มีอะไรเลย จากนั้นหนุ่มเจ้าของโพสต์ได้เช่าห้องให้พี่อยู่ 1 เดือน ให้เงินไว้ใช้ในครอบครัว 2,000 แล้วจะพาไปสมัครงานร้านอาหาร ทั้งนี้หลังจากเรื่องราวการช่วยเหลือครอบครัวนี้เผยแพร่ออกไปได้มีชาวโซเชียล ที่จำได้เข้ามาเปิดโปงครอบครัวนี้ว่าเป็นมิจฉาชีพ ซึ่งทำอย่างนี้มาตั้งแต่ปี 61 และที่ร้ายไปกว่านั้น …

วันนี้เราขอนำเสนอเรื่องราวสุดสะเทือนใจ โดยเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2563 ที่ศาลาคณกลับใจ เรือนจำกลางอุดรธานี นายปราโมทย์ ธัญญพืช รองผวจ.อุดรธานี เป็นประธานพิธีปล่อยตัวผู้ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ตามพระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2563 โดยมีผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดอุดรธานี อัยการจังหวัดอุดรธานี และหัวหน้าส่วนราชการร่วมงาน นายภัทรพงศ์ หมวกสกุล ผบ.เรือนจำกลางอุดรธานี เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2563 เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2563 เพื่อเป็นการแสดงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้โอกาสผู้ต้องราชทัณฑ์ได้กลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดี มีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 สิงหาคม 2563 กำหนดดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน กรมราชทัณฑ์ จึงได้จัดทำโครงการพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว “โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวังกรมราชทัณฑ์” เป็นหลักสูตรสำหรับเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยให้กับผู้ต้องขังที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว โดยดำเนินการอบรมพร้อมกันทั่วประเทศเมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2563 ผ่านระบบทางไกลผ่านจอภาพ Jabber Cisco เสร็จสิ้นการอบรมเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2563 เรือนจำกลางอุดรธานีมียอดผู้ต้องขังทั้งสิ้น จำนวน 5,028 คน เป็นนักโทษเด็ดขาดผู้อยู่ในข่ายได้รับการคำนวณประโยชน์ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2563 …

วันนี้เราขอนำเสนอเรื่องราวของครอบครัว 5 ชีวิตพ่อแม่ลูก ที่ต้องปากกัดตีนถีบในบ้านที่เป็นเหมือนกระต๊อบเล็ก ๆ ดูภายนอกเหมือนไม่เหมือนบ้านที่อยู่อาศัยเลย ครอบครัวนี้ยังบอกอีกว่าถึงจะลำบากขัดสนเพียงไร สิ่งที่ภูมิใจคือ ลูกสาว 3 คน ยังสู้ตั้งใจเรียนและเรียนได้ดีด้วย ครอบครัวนี้ เป็นครอบครัวอบอุ่นที่มีความยากจนอัตคัต พักอาศัยรวมกันถึง 5 ชีวิต ที่ ต.ชันเงิน อ.หลังสวน จ.ชุมพร สภาพโดยรวมของบ้านไม่แตกต่างอะไรมากนั้นกับ “กระต๊อบ” หรือจะเรียกว่ากระต๊อบเลยก็ได้ ยกพื้นสูงจากผืนดินเล็กน้อย หลังคามุงด้วยสังกะสี ภายในไม่มีการแบ่งห้องอะไร เป็นห้องเดียวไปเลย สำหรับการใช้ชีวิตของครอบครัวทั้ง 5 คนภายในบ้านหลังนี้ โดยจะแบ่งมุมหนึ่งเป็นที่หุงข้าว ตั้งเตาถ่าน ที่สำคัญสภาพบ้านยังเอนเอียงจนแทบจะพัง ขณะที่ห้องน้ำก็ต้องทรุดโทรมมาก เราจะเห็นได้จากภาพที่คุณครูไปเยี่ยมครอบครัวนี้ ผู้เป็นพ่อคือ นายอนุชาติ ปิ่นจอม ส่วนฝ่ายแม่คือ นางจรรยา สุดภักดี อายุ 31 ปี ลูก ๆ 3 คน ประกอบด้วย ด.ญ.จ๋า อายุ 14 ปี เรียนชั้นมัธยมปีที่ 2 ด.ญ.ใบเตย อายุ 10 ขวบ …