ชีวิตต้องสู้ คุณลุงขับรถพ่วงข้าง มาจอดทำที่ตักขยะขๅยริมทาง หาเลี้ยงครอบครัว

วันนี้เราของนำเสนอเรื่องราวที่ จ.นครนายก ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจากรณีที่มีเพจเรื่องจริงนครนายก ได้นำเรื่องราวของลุงคนหนึ่งที่นำลูก ๆ ทั้งคน 3 คน ขับรถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้างมาจอดแล้วทำที่ตักขยะสักกระสีขๅยอยู่บริเวณริมถนนทางไปน้ำตกนครนายก

โดยผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบกับลุงคนดังกล่าวชื่อนายสุทิน พันเพ็ชร อายุ 51 ปี เป็นจังหวัดนครนายก แต่ย้ายมาที่อำเภอบ้านนาเพื่อมาทำอาชีพดังกล่าวได้ไม่กี่เดือนมานี้ โดยเช่าห้องอยู่ ถามถึงเรื่องราวว่าทำไม ถึงต้องมาทำแบบนี้

โดยมีคนถามมาว่าเอาลูก ๆ มาสร้างกระแสหรือเปล่าลุงทิน ให้ข้อมูลว่าลุงเองมีฝีมือด้านทำที่ตักขยะมาอยู่แล้วและทำขๅยมาหลายที่ ทำไมถึงต้องทำหลายที่เพราะที่ตักขยะที่ทำนั้นมันเป็นสักกระสีที่มีความทนทานกว่าพลาสติก เพราะฉะนั้นว่าคนซื้อไปก็จะใช้ได้เป็นปีกว่าจะมาซื้อใหม่ ตนเองเลยจำเป็นที่จะต้องเล่ทำที่ตักขยะขๅยตามจังหวัดอื่น ๆ เพื่อเลี้ยงดูครอบครัว

ที่มาทำขๅยตรงนี้เนื่องภรรยาของตนเพิ่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลนครนายก เนื่องจากเส้นโลหิตในสมองแตก ผ่าตัดเรียบร้อย พ้นขีดอันตรายนอนพักรักษาตัวอยู่

ตนเองเลยจะต้องหาทำเลที่จะทำที่ตักขยะขๅยเพื่อหาเงินเลี้ยงลูก ๆ ทั้ง 3 คนไหนจะค่ารักษาพยาบาลอีก ลุงทินบอกว่าที่จะต้องนำลูก ๆ มาด้วย เพราะตนเองไม่กล้าที่จะปล่อยให้ลูก ๆ ที่เป็นผู้หญิง 2 คน และลูกชายอีก 1 คนอยู่บ้านเพียงลำพัง  เพราะดูข่าวมาเยอะเกรงว่าลูกสาวจะโดนแบบในข่าวจึงมีความจำเป็นที่จะต้องนำลูก ๆ ออกมาด้วย

ตอนนี้พอมีคนทราบเรื่องราวของลุงทินชาวบ้านก็ออกมาอุดหนุนที่ตักขยะของลุงทินกันเป็นจำนวนมาก  โดยมีลูกสาวช่วยกันทำอยู่บริเวณริมถนน บางคนนำน้ำ อาหารมามอบให้ โดยลุกบอกต่อไปว่าลุงทำแบบนี้มีความสุขไม่คิดจะให้คนมาบริจาคเป็นเงิน แต่ขอเพียงให้คนมาอุดหนุนก็พอ

หรือท่านใดมีปีบสังกระสีและไม้ระแนงที่ทำด้ามจับก็สามารถติดต่อบริจาคให้ลุงได้ เพื่อลดต้นทุนในการผลิต เพราะต้นทุนต่ออันประมาณ 30 บาท โดยลุงทำขๅยเพียงอันละ 50-60 บาท รายได้ต่อวันเพียงวันละ 300 บาท

ถ้าวันไหนฝนตกก็จะไม่มีรายได้เลย ตอนนี้ค้างค่าห้องเช่าไว้2เดือนแล้ว อย่างไรก็ตามจะขอสู้เพื่อครอบครัวต่อไป และไม่เคยคิดที่จะหันไปทำสิ่งที่ผิดกฎหมายแน่นอน

แหล่งที่มา: siamrath

เรียบเรียงโดย baansuann.com