ชายวัย 41 ปี บอกกู้ภัยว่าติดโควิด-19 ทำสถานีรถไฟหาดใหญ่ วุ่นหนัก

วันนี้เราจะมาติดตามกรณีที่เจ้าหน้าที่หามส่งโรงพยาบาลด่วน ชายวัย 41 ปี นั่งอยู่ที่บริเวณหน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ อ้างติดเชื้อโควิด-19 มีอาการหายใจเหนื่อຍ แน่นหน้าอก

เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2563 เจ้าหน้ากู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง) หาดใหญ่ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่า มีชายวัยกลางคน มาขอความช่วยเหลือให้โทรหาเจ้าหน้าที่กู้ภัยเนื่องจากมีอาการ หายใจเหนื่อຍ แน่นหน้าอก จึงรีบมาตรวจสอบ พบนายอนันต์ ณ ชาตรี อายุ 41 ปี นั่งอยู่ที่บริเวณหน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

จากนั้นได้สอบถามประวัติของผู้ป่วຍ แต่จู่ ๆ ผู้ป่วຍรายนี้บอกกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยว่า เป็นโรคโควิด-19 เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงรีบแจ้ง รพ.หาดใหญ่ นำชายคนดังกล่าวไปตรวจสอบทันที

โดยทาง รพ.หาดใหญ่ได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดสกรีนโควิด ของโรงพยาบาลหาดใหญ่เข้ามารับตัว พบว่านายอนันต์ ณ ชาตรี ได้ถือกระดาษ 1 แผ่นที่เป็นประวัติผู้ป่วຍจิตเวชของโรงพยาบาลควนเนียง เมื่อเดือน ก.ค.62 และทางเจ้าหน้ากู้ภัยได้เช็คประวัติของนายอนันต์ ณ ชาตรี มีประวัติไปตรวจที่ โรงพยาบาลพุนพิน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี

ด้วยอาการเวียนหัว บ้านหมุน หมอให้นอนพักที่โรงพยาบาล 1 คืน เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ออกจากโรงพยาบาลวันที่ 20 ตอนเที่ยง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ต้องนำตัวนายอนันต์ ณ ชาตรี ไปตรวจสอบที่ โรงพยาบาลหาดใหญ่ อย่างละเอียดอีกครั้ง

จากการสอบถามทราบว่า นายอนันต์ ณ ชาตรี ขึ้นรถไฟมาจาก จ.สุราษฎร์ธานี และจะไปหาหมอ ที่ รพ.มอ.หาดใหญ่ เพื่อไปเจาะโลหิตหาโรคโควิด-19

นายกิตตินัย ชุณหพันธ์ เจ้าหน้าที่กู้ภัย กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งว่ามีคนหายใจเหนื่อຍและแน่นหน้าอก พอมาถึงเราก็ซักประวัติ และคนไข้บอกเราเองว่า คนไข้เป็นโคโรน่า เราก็ถามว่าแล้วรู้ได้ไงว่าเป็น เขาบอกว่าได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ หมอบอกว่าเขาเป็นโคโรน่า ก็เลยถามกลับไปว่าถ้าเป็นโคโรน่า หมอจะปล่อยคุณกลับมาได้ไง เขาบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน

เราเช็กไปยังโรงพยาบาลต้นทางที่เขาแจ้งมาแล้ว ตกลงสรุปว่าคนไข้ไปหาหมอเมื่อวันที่ 19 เดือนมิถุนายน ด้วยอาการเวียนหัว บ้านหมุนอย่างเดียว เที่ยงวันที่ 20 ก็ออกจากโรงพยาบาลแล้ว

วันนี้วัที่ 21 ก็นั่งรถไฟมาจากสุราษฎร์เพื่อมาลงที่หาดใหญ่ ก็ถามเขาว่าเขาจะมาทำอะไรที่หาดใหญ่ เขาบอกจะมาหาหมอที่ มอ. จะมาเจาะโลหิต ตนจึงถามอีกว่า ทำไมต้องมาเจาะโลหิต เขาบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน เพราะว่าโรงพยาบาลที่สุราษฎร์บอกมา

“ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าไม่มีประวัติอะไรเลย มีอยู่อย่างเดียวตอนตรวจเอกสารอย่างละเอียด ก็คือมีประวัติการรักษาตัวในเรื่องของจิตเวชเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2562 เขามาคนเดียวเพื่อที่จะส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์

แต่ทีนี้ไม่รู้ว่าเขามารักษาหรือยังในเรื่องของจิตเวชตรงนั้น ตอนนี้ทางโรงพยาบาลหาดใหญ่ก็รับตัวกลับไปดำเนินการตรวจเช็คอย่างละเอียดอีกครั้งนึงว่าเข้าข่ายหรือไม่” นายกิตตินัย กล่าวทิ้งท้าย

แหล่งที่มา: ไทยรัฐ

เรียบเรียงโดย baansuann.com