วันนี้เราจะมาติดตามเรื่องราวของ นางรัฐนันท์ สุขวัฒน์ อายุ 53 ปี เจ้าของร้านอาหารซีฟู้ด เจ้ต่าย ปูเป็น ริมชายทะเล ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง หอบหลักฐานเป็นสลิปการโอนเงินของธนาคารแห่งหนึ่ง สลิปการโอนเงินผ่านบัญชีทรู มั่นนี่ และภาพถ่ายผู้ต้องหาเข้าแจ้งกับ พ.ต.ท.วิรัตน์ ยอดเสาร์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เพ ให้ดำเนินคดีกับหนุ่มรายหนึ่ง
ซึ่งเชื่อว่าเป็นแก๊งค์มิจฉาชีพ หลังหลอกสั่งอาหารของทางร้าน สูญเงินกว่า 30000 บาท แต่กลับหายหัว ติดต่อไม่ได้ จึงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน เพื่อติดตามลูกค้ารายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย และฝากเตือนไปยังร้านอาหารต่าง ๆ ไว้เป็นอุทาหรณ์
นางรัฐนันท์ กล่าวว่า ได้รับโทรศัพท์จากลูกค้ารายดังกล่าว ทราบเพียงชื่อคือ นายพิเชษฐ โดยอ้างว่าจะสั่งอาหารเป็นจำนวนมาก เพื่อจะนำลูกทัวร์ที่มากับรถบัส 3 คัน จำนวน 150 คน มากินอาหารที่ร้านในเวลา 10.30 น. ของวันนี้
โดยให้ทางร้านทำอาหารทะเลเตรียมรอไว้ มีเมนูปูม้าผัดผงกระหรี่ ปลากะพงทอดราดน้ำปลา ห่อหมกทะเล ทอดมันปลา ยำรวมมิตร ต้มยำทะเลรวม และข้าวสวย ผลไม้ จำนวน 19 โต๊ะ ๆ ละ 1,500 บาท รวมเป็นเงิน 28,500 บาท
จากนั้นลูกค้ารายดังกล่าว ได้ส่งสลิปการโอนเงินมัดจัดให้ดูทางไลน์ จำนวนเงิน 8,000 บาท ก่อนที่จะโทรศัพท์กลับมาว่าใกล้จะถึงร้านแล้ว แต่ตอนนี้ไม่มีเงินในบัญชีทรู มั่นนี่ ขอให้ตนโอนเงินไปให้ จำนวน 1,000 บาท 2 ครั้ง และให้โอนอีก 3,000 บาท รวมเป็นเงิน 5,000 บาท เพื่อเติมเงินในบัญชีดังกล่าว จะได้ไม่ขาดการติดต่อ
ซึ่งตนเห็นว่ามีการโอนเงินมาให้แล้ว จึงโอนเงินไปช่วย จากนั้นตนจะพยายามติดต่อทางโทรศัพท์กลับไป 30 ครั้ง แต่ติดต่อไม่ได้และพอตรวจสอบยอดการโอนเงินค่าอาหาร ไม่พบยอดโอนมาเพียง 0.01 บาทเท่านั้u รวมเป็นเงินที่สูญไปทั้งค่าอาหารและการโอนเงินไป เป็นจำนวน 33,500 บาท
นางรัฐนันท์ กล่าวต่อว่า ขอฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ไปยังร้านอาหารต่าง ๆ และทุกคนว่าให้ระวังแก๊งค์มิจฉาชีพที่มีพฤติกรรมแบบนี้ ซึ่งตนเคยเห็นแต่ในข่าวที่มีการหลอกสั่งอาหารไม่เชื่อว่าจะมาโดนกับตัวเอง
ฝากเตือนว่าการสั่งอาหารก็ขอให้มาติดต่อที่ร้านเห็นตัวเป็นดีกว่าการติดต่อทางโทรศัพท์ ขณะที่สลิปการโอนเงินขอให้ตรวจเช็คให้ดีว่ามีการโอนเงินเข้ามาจริงแล้วหรือไม่ ส่วนอาหารที่ทำแล้ว ก็ได้แจกจ่ายให้พนักงานในร้านนำไปกินกัน ถือว่าทำบุญไป
แหล่งที่มา: mgronline
เรียบเรียงโดย baansuann.com
