คุณแม่ลูก 4 เล่า แอบไปมีลูกกับแฟนเก่า เพราะกลัวลูกขี้เหร่เหมือนสามี

เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2564 บนโลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่เรื่องราวของ หญิงสาวนิรนามรายหนึ่ง (ไม่เปิดเผยชื่อ) จากประเทศกานา ในแอฟริกาตะวันตก เธอออกมาเปิดเผยเรื่องราวความลับผ่านทางสถานีวิทยุ Hitz FM ว่า เธอแอบไปมีลูกถึง 4 คน กับแฟนเก่า ในขณะที่สามีที่แต่งงานอยู่ด้วยกันไม่ระแคะระคายใด ๆ

หญิงสาวรายดังกล่าวแต่งงานกับสามีที่ประสบความสำเร็จในการทำงาน เขาทั้งเก่งและขยันขันแข็ง แต่ความจริงที่เธอต้องทำใจยอมรับคือ เขามีรูปลักษณ์หน้าตาที่อยู่ในเกณฑ์ขี้เหร่ ไม่ได้มาตรฐานความชอบของเธอ ตรงกันข้ามกับแฟนเก่าของเธอที่หล่อเหลาน่าดึงดูดแบบสุด ๆ

ในตอนแรกชีวิตการแต่งงานของหญิงสาวไม่มีปัญหา แม้ว่าสามีจะไม่ใช่สเปก แต่เธอก็รักสามีของเธอ ทว่าติดอยู่เรื่องหนึ่งคือเรื่องลูก เธอไม่อยากเสี่ยงให้ลูกออกมาหน้าตาเหมือนสามี ดังนั้น เธอจึงใช้วิธีกินยาคุมกำเนิดตลอด สามีจึงคิดว่าพวกเขาอาจจะมีปัญหาด้านการสืบพันธุ์ จึงพากันไปคลินิกเพื่อขอคำปรึกษา

เมื่อได้รับการตรวจเช็กร่างกายก็พบว่าทั้งคู่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงปกติ ไม่มีปัญหาใด ๆ ความหนักใจจึงตกไปอยู่ที่หญิงสาว ซึ่งเธอรู้ดีอยู่เสมอว่าเพราะเหตุใดเธอถึงยังยอมมีลูกให้ไม่ได้

ในที่สุดหญิงสาวจึงตัดสินใจติดต่อแฟนเก่าของเธอ ซึ่งเขาก็แต่งงานแล้ว แต่เขามักจะทำตัวเจ้าชู้เป็นหนุ่มเจ้าสำราญ ดังนั้นจึงไม่ยากที่เธอจะสามารถโน้มน้าวให้เขากลายมาเป็นเสมือนชู้

โดยหญิงสาวจะใช้วิธีบอกสามีว่าเธอยังไม่พร้อมมีลูก ให้สามีใส่ถุงยางอนามัยป้องกัน แต่จริง ๆ แล้วเธอแอบไปนอนกับแฟนเก่าหลายครั้ง จนกระทั่งมั่นใจว่าตั้งครรภ์ เธอก็รีบมานอนกับสามี โดยบอกกับเขาว่าพร้อมมีลูกแล้ว ไม่ต้องป้องกัน ทำให้มีแค่เธอที่รู้ว่าลูกในท้องเป็นลูกของใคร

แผนของหญิงสาวได้ผລเป็นอย่างดี เธอสามารถให้กำเนิดลูกสาวหน้าตาน่ารักสมใจถึง 3 คน และลูกชายคนที่ 4 ในท้องกำลังจะตามมา เธอและสามีแฮปปี้ ครอบครัวเหมือนจะมีความสุข แต่ความลับไม่มีในโลก

เมื่อไม่นานมานี้สามีของเธอถูกลอตเตอรี่วีซ่าของสหรัฐอเมริกา หรือโครงการกรีนการ์ดลอตโต้ ที่จะมีโอกาสได้ย้ายเข้าไปอยู่อาศัยในสหรัฐฯ อย่างถูกกฎหมายด้วย ทว่าเธอเผยว่า ในกระบวนการนี้จะต้องมีการตรวจดีเอ็นเอสำหรับครอบครัวของผู้ถูกคัดเลือกด้วย ซึ่งหมายความว่ามันจะทำให้สามีรู้ความจริงว่าลูก ๆ ของเขาทั้งหมดไม่ใช่ลูกของเขาสักคน

ภายหลังจากเล่าเรื่องความลับชวนอึ้ง เธอได้ถามขอความคิดเห็นว่า เธอควรจะจัดการกับสถานการณ์อย่างไรดี ระหว่างสารภาพบอกความจริงกับสามีตอนนี้ หรือรอจนกว่าผลการทดสอบจะมาถึง ซึ่งแน่นอนว่าทางผู้จัดรายการวิทยุก็อึ้งพูดไม่ออกเช่นเดียวกัน

แหล่งที่มา อ็อดดิตี้เซ็นทรัล / kapook

เรียบเรียงโดย baansuann.com