แม่ใช้เงินบำนาญผ่อนบ้าน 11 ปี ลูกชายตัวดียกให้แฟน

เมื่อไม่นานมานี้ ทางสื่อนอกได้เผยเเพร่เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ไต้หวัน หลังโซเชี่ยลเเห่เเชร์โพสต์เล่าเรื่อง สองผัวเมียวัย 70 ปี ผ่อนบ้านมา 11 ปี ใช้เงินบำนาญเก็บเงินดาวน์เพื่อซื้อบ้าน หลังจากชำระค่าจำนองมา 11 ปี เเต่ จู่ ๆ บ้านก็ไม่ใช่ของตัวเอง!

ผู้เช่ารายหนึ่งเเชร์เรื่องราวสุดช้ำของเจ้าของบ้านบนเพจเฟซบุ๊ก “Northern 2.0” เพื่อที่จะหาทางช่วยเหลือคุณลุงคุณป้าได้บ้าง ระบุว่า “ป้าเจ้าของบ้านที่ฉันพักอาศัยอยู่ใจดีสุด ๆ ถ้าบ้านมีปัญหาอะไรก็จะรีบมาซ่อมให้ทันที ไม่มีล่าช้าเเม้อยู่มานานเเค่ไหนก็ตาม อีกทั้งยังเริ่มลดค่าเช่าลง 500 หยวนหรือ 1,000 หยวนเมื่ออาศัยระยะยาวอีกด้วย”

“บ้านหลังนี้ ลูกชายเจ้าของบ้านเคยอาศัยอยู่มาก่อน เพราะตอนนั้นสามีภรรยาอยากให้ลูกชายวัย 35 ปีอยู่คนเดียว โดยซื้อบ้านเป็นชื่อลูกโดยตรง เเต่ฝ่ายคุณลุงคุณป้าเป็นคนจ่ายเงินกู้บ้านเองโดยที่ลูกไม่ต้องออก

เเต่ว่าลูกชายเเย่มาก ชอบค้างชำระบิลต่าง ๆ คุณลุงคุณป้าจึงขอบ้านคืนจากลูกชายเพื่อจัดการเอง พวกเขาดูเเลเเละให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีมาตลอด 5 หรือ 6 ปีที่ผ่านมา”

เพียง 11 ปีหลังจากที่คุณลุงคุณป้าทั้งสองทำงานอย่างขยันขันเเข็งเพื่อชำระค่าจำนอง เมื่อไม่กี่วันก่อนก็มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อเเอลโทรหาผู้เช่าคนหนึ่ง

พร้อมบอกว่าเธอเป็นเจ้าของบ้าน “สัญญาที่พี่เซ็นสัญญากับเจ้าของบ้านคนก่อนยังไม่ได้รับการเเก้ไข ถ้าไม่เซ็นสัญญาใหม่กับฉันในหนึ่งสัปดาห์ ต้องย้ายออกจากบ้านเช่า” ซึ่งผู้เช่าทั้งหมดก็สับสนเเละตกใจมากจึงรีบโทรรายงานป้าของเจ้าของบ้านทันที

ทางด้านป้าเจ้าของบ้านก็สับสนมากว่าผู้หญิงชื่อเเอลเป็นใครเเละมาจากไหนถึงมาพูดจาราวกับเป็นเจ้าของบ้านเอง เธอรีบโทรไปหาลูกชาย เพราบ้านจดทะเบียนเป็นชื่อลูก

ก่อนได้รู้ความจริงจากปากของลูกชายเเทบจะเป็นลมล้มทั้งยืน ลูกชายของเธอโอนบ้านเเละทรัพย์สินให้เเฟนสาวในฐานะคู่สมรส ด้วยความคิดที่ว่ากำลังจะเเต่งงานกันในไม่ช้า ทว่าทั้งสองเลิกกันโดยไม่คาดคิดเเละเก็บเป็นความลับมา 11 ปีโดยที่พ่อเเม่ไม่รู้ตัว

“เมื่อคุณลุงคุณป้าเจ้าของบ้านพยายามติดต่อหาฝ่ายหญิง สาวเเอลก็ปฏิเสธที่จะรับโทรศัพท์หรือพูดคุยจนทั้งคู่นั่งร้องไห้อย่างหนัก เพราะเงินบำนาญที่มีทั้งหมดถูกไปใช้ซื้อบ้านหมดเเล้วเเละพวกเขาต้องการค่าเช่ารายเดือน”

เจ้าของบ้านหลั่งน้ำตา “ฉันเเค่อยากได้บ้านคืน เราถูกหลอกมา 10 กว่าปีเเละฉันก็ต้องจ่ายค่าจำนองเเละเงินดาวน์ ซื้อมันด้วยเงินบำนาญ บ้านนี้เป็นของคนนอกไปเเล้ว”

ต่อมาสาวเเอลติดต่อผ่านเเชตเท่านั้u โดยกล่าวว่า “เธอไม่ได้ขโมยหรือปล้น เป็นลูกชายของคุณที่หวังว่าเมื่อเขาเเก่ตัวในอนาคตจะให้ฉันดูเเลเขาเลยมอบมาให้ฟรี ๆ หลังจากชำระค่าจำนองหมดเเล้ว สามารถเก็บค่าเช่าบ้านต่อไปได้ เเต่จะไม่ยอมคืนบ้านให้” พร้อมไม่ลืมย้ำอีกครั้งว่า เธอไม่ได้ขโมย

ส่วนลูกชายเจ้าของบ้าน ผู้เช่ากล่าวว่าอีกฝ่ายชอบทำท่าทีโกรธเคืองเมื่อกล่าวถึงเรื่องดังกล่าว จนผู้เช่าหลาย ๆ โมโหพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “พูดตรงๆ เขาเป็นชายอายุ 40 ปีที่ไม่มีความรับผิดชอบ!”

ต่อมาเจ้าของโพสต์ถึงปรึกษาพร้อมขอคำเเนะนำว่า “เหตุการณ์มันพัฒนามาถึงขั้นนี้เเล้วเเละเจ้าของบ้านก็เเค่อยากได้บ้านคืน ฉันเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องทางด้านนี้สักเท่าไหร่ เเต่เห็นทั้งคู่เเล้วสงสารจับใจ พวกเขาเศร้ามากเงินกู้ 10 ปีกว่า ๆ ก็เงินเยอะเหมือนกัน คุณป้าซื้อด้วยเงินบำนาญ มีโอกาสดีไหมที่ทั้งคู่จะได้บ้านคืน”

ทันทีที่โพสต์นี้ออก ชาวเน็ตต่างพากันถกกันอย่างถึงพริกถึงขิ เเละพวกเขาต่างก็ฝากข้อความไว้ เช่น “อย่างน้อยการจำนองก็จะถูกยึดคืน โปรดใช้เงินสองสามพันหยวนโดยตรงเพื่อหาทนายความก่อน” “ควรจะหันไปใช้ กฎหมาย”

“ถ้าทุกอย่างถูกกฎหมาย ก็พูดได้อย่างเดียวว่าพวกเขาตามใจลูกชาย”, “ถ้าได้มาอย่างถูกกฎหมาย ไม่มีใครช่วยได้” , “ถ้าพวกเขาเข้าใจถูกกฎหมายไม่มีใครทำได้”

อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตบางคนสงสัยในความถูกต้อง อาจเป็นการโอนไม่สำเร็จ รวมทั้งชื่อภาษีโรงเรือนเเละใบกำกับภาษีมูลค่าที่ดินจะต่างกัน

เช่น “ควรมีปัญหาภาษีในการโอนทรัพย์สิน เเละหากโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินเเล้ว จำนองควรโอนออก”, “ถ้ามีการจำนองจะโอนให้เเฟนสาวได้อย่างไร? เเละหลังจากการโอนเสร็จสิ้น ธนาคารควรขอให้เจ้าของบ้านชำระค่าจำนอง”

แหล่งที่มา Tvbs Setn Ettoday / khaosod

เรียบเรียงโดย baansuann.com