หนูน้อยวัย 6 ขวบ ร่ำไห้ แม่ยังไม่ทันได้เผา พ่อจากไปอีกคน ต้องกำพร้าพ่อแม่

วันนี้เราจะมาติดตามกรณีเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 63 ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีรายงานว่า ภายในวัดหาดส้มแป้น จ.ระนอง ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานฌาปณกิจของหญิงรายหนึ่ง สามีจึงต้องนั่งเฝ้าร่างภายในศาลาของวัด

แต่ขณะนั้นอากาศหนาว เพราะฝนตกและลมพัดแรง จึงชักชวนเพื่ออีก 2 คนไปนั่งก่อไฟ ชงกาแฟแก้หนาว และเป็นจุดด้านหลังที่ตั้งร่าง แต่ลมพัดแรงฝนตกหนักจนต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่นแบบถอนรากถอนโคน ล้มทับทั้ง 3 คน โดยเพื่อนอีก 2 คนกระโดดหนีได้ทัน ส่วนผู้วายชนม์นั่งหันหลังจึงกระโดดหนีไม่ทัน ถูกต้นไม้ใหญ่ดังกล่าวโค่นทับเสีຍชีวิตคาที่

โดยเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นที่ วัดหาดส้มแป้น หมู่ 3 ต.หาดส้มแป้น อ.เมือง จ.ระนอง ซึ่งเป็นสถานจัดงานสวดอภิธรรม น.ส.ลภัสดา (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี

สอบถามนายบุญช่วย (สงวนนามสกุล) อายุ 69 ปี พ่อของผู้เสีຍชีวิต เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงประมาณเกือบเที่ยงคืนที่ผ่านมา นายอเนกพงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ลูกชายนั่งเฝ้าร่างภรรยาพร้อมกับเพื่อน ๆ ญาติ ๆ อีกหลายคน ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวมีฝนตกลงมาอย่างหนัก และลมพัดแรง

ลูกชายจึงได้ชวนเพื่ออีก 2 คนไปนั่งก่อไฟที่เพิงพักด้านหลังของศาลา เพื่อดื่มกาแฟแก้หนาว ซึ่งในระหว่างนั้น ด้านหลังเป็นเนินเขา มีต้นไม้ขนาดใหญ่จำนวนมาก

ตนได้ยินเสียงไม่ลั่นทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ดินอุ้มน้ำไว้ไม่ไหว โค่นแบบถอนรากถอนโคน เพื่อนลูกชาย 2 คนที่นั่งอยู่ด้านหน้าเพิงพักกระโดดออกมาได้ทัน ส่วนลูกชายของตนอยู่ด้านใน จึงกระโดดหนีออกมาไม่ทัน ทำให้ต้นไม้ล้มทับเสีຍชีวิตทันทีในจุดดังกล่าว

หลังจากนั้นทุกคนก็ช่วยกันตัดต้นไม้ เพื่อนำร่างลูกชายออกมา ส่วนญาติก็ไปรับหนูน้อยวัย 6 ขวบ ลูกของผู้เสีຍชีวิตมาไหว้ร่างผู้วายชนม์ แล้วรีบพากลับบ้าน เพราะยังเด็กมาก ญาติยังไม่อยากให้เด็กรับรู้อะไรมาก

นายบุญช่วย เล่าให้ฟังต่อว่า ตน ภรรยา ลูกชาย ลูกสะใภ้ และหลานวัย 6 ขวบ อยู่บ้านเดียวกัน ตนมีอาชีพทำสวน ส่วนภรรยาก็ดูแลหลานชาย ลูกชายกับลูกสะใภ้ต้องออกไปทำงานทุกวัน จนลูกสะใภ้มาเสีຍชีวิต และลูกชายก็มาเสีຍชีวิตอีกคน ทั้ง ๆ ที่ร่างลูกสะใภ้ยังไม่ได้เผา

ตนรู้สึกเสียใจและเป็นห่วงหลานชายมาก เพราะต้องเสียทั้งพ่อและแม่ไปในเวลาใกล้เคียงกัน วันนี้มีเจ้าหน้าจากทางจังหวัดเข้ามาเก็บข้อมูล เพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือต่อไป

แหล่งที่มา: amarintv

เรียบเรียงโดย baansuann.com