แม่ตามหา “น้องจีจี้” ลูกสาวที่หายตัวไปจากปั๊ม ผ่านไป 10 ปี ยังไม่เคยลืม ใช้ความหวังหล่อเลี้ยงชีวิต

บนโลกออนไลน์ ได้มีเพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา โพสต์ประชาสัมพันธ์ตามหาเด็กหญิงคนหนึ่งที่หายตัวไปกว่า 10 ปี ผู้เป็นแม่ทนทุกข์ใจจนแทบอยู่ต่อไม่ไหวแต่ต้องทนอยู่เพื่อลูกอีก 2 คน

“ชีวิตหนูมันเดินถึงทางตัน สุดทางแล้วนะ สุดขีดเลย หนูเคยคิดว่าจะอยู่ไปทำไม อยู่ไปเพื่ออะไร กำลังจะคิดถึงแต่ตัวเองแล้วนะ หนูจะไปแล้ว หนูจะไม่อยู่แล้ว ชีวิตมันมีแต่ความทุกข์ มันทรมๅน ทั้งเรื่องลูกหาย เรื่องครอบครัว เรื่องเศรษฐกิจ มันถาโถม จนหนูไม่ไหวแล้ว

“หันไปมองลูกอีกสองคนที่กำลังเรียน เขาจะอยู่ยังไงล่ะ ถ้าไม่มีเรา ใครจะดูแลเขาล่ะ เขๅยังเล็กกันมาก ตัดสินใจต้องสู้ ต้องมีชีวิตต่อ ต้องอยู่เพื่อเขา อยู่เพื่อน้องจีจี้ที่ยังไม่พบตัว

ความรู้สึกคนเป็นแม่นะ หนูยอมอดนะ หนูยอมลำบาก ลูกที่หายหนูยังต้องตาม ลูกที่ยังอยู่ หนูต้องดูแลเขาให้มากกว่าเดิม ก็ได้ลูก ๆ นี่แหละ เป็นกำลังใจให้ เขาพอจะช่วยแบ่งเบาภาระได้บ้าง หยิบจับหุงข้าวช่วยงานบ้านเรา

“คนยังจำได้ ว่าหนูเป็นแม่น้องจีจี้ เป็นแม่เด็กหาย เขาเดินมาทักมาถาม ให้กำลังใจ บอกสู้ ๆ นะ เดี๋ยวก็เจอ เดี๋ยวน้องจีจี้ก็ได้กลับบ้าน หนูรับรู้ได้เลยว่าเขาอยากให้กำลังใจจริง ๆ บางคนเขาเสียใจกับเราไปด้วยที่ยังหาลูกไม่เจอ

“ทุกคนยังจำน้องจีจี้ได้ เขาพูดว่าเด็กที่หายในปั้มน้ำมันไง เด็กที่ช่วยแม่ขๅยของในปั้มไง แล้วคนจำได้ว่า ตอนนั้นตำรวจไม่รับแจ้งความ จนตอนนี้แจ้งความคนหายไม่ต้องรอครบ 24 ชม.แล้ว สังคมตื่นตัวเรื่องเด็กหายขึ้นมาก ทุกวันนี้หนูทำงานขๅยของในห้าง เห็นผู้ปกครองพาเด็กมา เขาจับมือ คอยระวังไม่ให้ลูกหาย

เราดีใจนะที่ทุกคนตื่นตัวกับเรื่องนี้ เวลาเห็นข่าวเด็กหายรายอื่น พูดตรง ๆ เลยว่าเราเสียใจไปด้วย หนูรับรู้มันไง เข้าใจความรู้สึกที่ลูกหาย ความรู้สึกสูญเสีย เข้าใจพ่อแม่ที่เขามีหัวอกเดียวแบบเรา แต่ของเรามันยาวนานเป็นสิบปีแล้ว

“หนูไม่เคยเปลี่ยนแปลงเรื่องตามหาลูกนะ แม้ชีวิตจะต้องลำบาก เจอเรื่องอะไรสารพัดไม่เคยคิดจะหยุดเลย ตามหาเท่าที่กำลังตัวเองจะทำได้ บางทีมากรุงเทพฯ ยังฝากใบประกาศให้รถตู้โดยสาร เผื่อมีใครเห็น มีใครเคยเจอน้องจีจี้ สักวันอาจเจอจากประกาศสักใบที่เราแจกก็ได้ หนูไม่เคยคิดหยุดตามหาเขา รอเขาเสมอ

“หนูใช้ความเจ็บปวดทุกอย่างที่ผ่านมา เป็นประสบการณ์ ใช้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับชีวิตเป็นบทเรียน ทุกสิ่งอย่างมันสอนเรา เชื่อมั้ย ตอนนี้หนูมีชีวิตแค่วันต่อวันนะ สมัยก่อนหนูเคยมองอนาคต มองวันข้างหน้า แต่ตอนนี้หนูมีชีวิตให้รอดไปแต่ละวัน หนูจะคิดถึงแค่วันนี้ หนูพยายามทำแต่ละวันให้ดีที่สุด

“ทำชีวิตแต่ละวันให้ลูกที่เหลืออยู่มีความสุข ให้ลูกไม่อด หนูมองไม่ออกจริง ๆ ว่าชีวิตจะเอายังไงต่อ ทำอย่างไรต่อ มันเลยต้องสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง หนูยังร้องไห้ ยังทุกข์หนัก ก็คิดแค่ว่าทำงานให้หนัก ให้มันลืมเรื่องราวความทุกข์ ทำตัวให้ยุ่งกับงาน ให้มันไม่มีเวลาว่างมาคิดกังวลอะไร

บอกลูกตลอด อดทนหน่อยนะลูก แม่สู้แล้ว แม่สุด ๆ แล้ว อดทนกับแม่นะ หนูไม่กล้าคิด ไม่กล้าฝันอะไรไกล ๆ แล้ว แค่เอาแต่ละวันให้รอด

“นั่งร้องไห้อยู่คนเดียวบ่อย ๆ จนคิดว่า ไม่ได้ประโยชน์อะไร ไม่มีใครช่วย ก็เหลือแต่ตัวเราเอง บอกตัวเองแค่ว่า มันจะต้องดีขึ้น บางวันทั้งตัวมีเงินอยู่ 40 บาท หนูไม่กินข้าวเลย อดทั้งวัน เก็บเงินไว้ให้ลูกไปโรงเรียนวันพรุ่งนี้

เขาจะแบ่งกันไปคนละ 20 บาท คิดในใจว่า เอาให้สุด ทุกข์ให้พอแล้วหนูจะสู้กับมัน ผ่านอารมณ์ชั่ววูบมาได้ มองแต่ลูกว่า ถ้าเราเป็นอะไรไปลูกจะอยู่ยังไง แล้ววันหนึ่งถ้าจีจี้กลับมาจะเจอใคร เราถึงยังยืนอยู่ได้

“หนูยังจำรอยยิ้มเขา จำหน้าตาจมูกปาก จำทุกสิ่งที่เป็นเขาได้ จำตอนที่เขากอดเราได้ นั่งรถไปไหนจีจี้จะร้องเพลง เขาชอบกินข้าว กินขนมแบบนี้ ทุกอย่างเกี่ยวกับน้องจีจี้ หนูไม่เคยลืม แม้มันจะนานถึงสิบปีแล้วก็ตาม…”

วันที่18 กันยายน 2563 จะครบรอบ 10 ปีเต็ม เหตุการณ์น้องจีจี้เด็กหญิงวัย 9 ขวบ หายตัวไปในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ปัจจุบันยังไม่พบตัว

แหล่งที่มา: ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา

เรียบเรียงโดย baansuann.com