แม่ค้ากู้เงิน 7 แสน ตุนของขๅยช่วงโควิด สุดท้ายขๅยไม่ออก ขาดทุนยับ

บนโลกออนไลน์ ได้มีเพจดังเเชร์อุทาหรณ์ แม่ค้าลงทุนตุนสินค้าขๅยช่วงโควิด สุดท้ายขๅยไม่ออกเจ๊งยับ เร่ขๅยราคาต่ำกว่าต้นทุน ชี้ สาเหตุทำให้ขๅยของไม่ออก

เป็นโพสต์ที่ได้รับการแสดงความคิดเห็นอย่างหนัก เมื่อเพจ ทำไมถึงเจ๊ง ได้เเชร์เรื่องราวของแม่ค้าคนหนึ่ง ซึ่งโอดว่าลงทุนซื้อน้ำยาทำความสะอาดยี่ห้อหนึ่ง โดยกู้เงินลงทุนไป 7 แสนบาท ต้องเอามาขๅยขาดทุนเพื่อหาเงินไปใช้หนี้

ซึ่งก่อนหน้าช่วงโควิดระบาดพบว่าสินค้าดังกล่าวเป็นที่ต้องการในตลาดอย่างมาก และมีการขๅยโก่งราคาขึ้นไปหลายเท่าตัว มีผู้นำโพสต์มาแฉว่า จากสินค้าปกติราคาไม่เกิน 500 บาท มีการเพิ่มราคาไปถึง 2 พัน – 6 พันบาทเลยทีเดียว โดยเพจดังกล่าวได้วิเคราะห์สาเหตุที่เจ๊ง เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้พ่อค้า แม่ค้าคนอื่นๆ ว่า “ปัจจัยที่เกี่ยวข้องมีดังนี้

1. สั่งของล็อตใหญ่เกินไป การสั่งสินค้าจำนวนมากโดยไม่ได้เป็นผู้ขๅยมืออาชีพหรือมีช่องทางการจัดจำหน่ายเดิมอยู่แล้ว จึงทำให้ไม่สามารถระบายของจำนวนมากออกได้ทัน

2. สินค้ามาช้า พ่อค้าท่านอื่นก็สั่งและ นำเข้ามาจากต่างประเทศซึ่งในไทยมีมาตรการ และต่างประเทศก็มีมาตรการส่งผลให้ระยะเวลาการมาถึงของสินค้าล่าช้าและไม่แน่นอน

3. โควิดในไทยไม่ระบาดยาวนานมากอย่างที่คิด เมื่อ demand ลด แต่ซัพพลายล้น จึงทำให้ประชาชนไม่มีความจำเป็นต้องรีบซื้อมากักตุนหรือเผื่อไว้ใช้

4. ซื้อจำนวนมากเพื่อให้ได้ราคาที่ถูกที่สุดต่อหน่วย หลักการนี้จริงๆก็ ใช้ได้ แต่ต้องคิดถึง สถานที่เก็บช่องทางการจัดจำหน่ายและจำนวน รวมไปถึงช่วงระยะเวลาในการจำหน่ายด้วยว่าต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ในการจำหน่ายให้หมด

5. ร้านยาและร้านจำหน่ายต่างๆมีขๅยตามปกติแล้ว

6. ไม่มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลายและกว้างมากเพียงพอในการปล่อยสินค้าจำนวนมาก

ตอนนี้ทางเจ้าของเลยลดราคา เห็นว่าต่ำกว่าทุน ก็มีหลายคนสงสารและเห็นใจ แต่ก็มีหลายท่านที่เข้าไปตำหนิ เพราะช่วงสถานการณ์ที่ประชาชนต้องการใช้ไม่มีสินค้าจำหน่าย ส่วนนึงก็เพราะ บรรดาพ่อค้าแม่ค้าทำการกักตุนสินค้า

ซึ่งไม่ว่าจะผลิตในประเทศหรือต่างจากต่างประเทศก็ตาม มันส่งผลให้หลายคนหาซื้อสินค้าได้ลำบากและซื้อในราคาที่สูงกว่าปกติ ความเห็นส่วนตัวของแอดคือ ไม่สนับสนุน ครับ”

แหล่งที่มา: khaosod

เรียบเรียงโดย baansuann.com