เอ พศิน เลือกแล้ว ครองตนเป็นโสดตลอดชีวิต

สำหรับ ‘เอ’ พศิน เรืองวุฒิ เป็นอีกหนึ่งคนที่มีความเชื่อเเละศรัทธาในพญานาคอย่างมาก เเละได้มาร่วมเป็นกรรมการ ในการประกวดรอบตัดสิน “ลูกสาวพญานาคเเรกคนโลก” ณ มหาเทวลัย พระพิฆเนศปางค์มหาราชา อ.พระประเเดง จ.สมุทรปราการ

ก่อนเริ่มงานประกวด ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่ได้รับโอกาสมาเป็นกรรมการในงานวันที่ 7 ก.ค. 65 เเละได้เผยถึงเรื่องครอบครัวว่ายังเป็นกัลยาณมิตรที่ดีกับอดีตภรรยา ‘เเตงกวา จิราพร’

รวมถึงอัปเดตลูกชายสุดหล่อ ‘น้องเลโก้’ พร้อมเล่าวีรกรรมไม่เข้าเรียน เพราะมีความคิดเป็นของตัวเองมากขึ้น

“วันนี้มาเป็นกรรมการ งานประกวดลูกสาวพญานาค ครับ ก็คิดว่าเป็นเกียรติเเละเป็นเรื่องเเปลกมากๆ ที่วันนี้ได้มาร่วมงาน เพราะปกติก็ไม่ว่าง ติดถ่ายรายการตลอด ขอคิวเขามาเพราะว่ามีความสำคัญบางอย่าง เเละการประกวดลูกสาวพญานาคไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นี่ครั้งเเรกในโลกเลยครับ”

ส่วนตัวมีความเชื่อเรื่องนี้อยู่เเล้วด้วย?

“ส่วนตัวมีมาก จริงๆ ผมไม่เชื่อนะเพราะไม่ได้เห็นกับตา เเต่ศรัทธาร้อยเปอร์เซ็นต์ มันมีเรื่องราว เเละสิ่งที่เรามองไม่เห็นในโลกนี้อีกมากมาย ที่อยู่เหนือการพิสูจน์ โดยเฉพาะเรื่องของเทพ”

ครั้งนี้มีที่สื่อมากับ อ.ก้อนคำ ด้วยใช่ไหม?

“ผมว่าผู้สื่อข่าวที่อยู่รอบๆ นี้ ทุกท่านก็จะมีเทพประจำตัวของตนเองอยู่เเล้ว ทุกคนมีพลังงานที่ดีช่วยหนุนชีวิต หรือพลังงานที่ดีเพื่อช่วยเราล้างกรรม

ผมก็เชื่อเรื่องภพชาตินะ มีโชคดีถึงจะมีโชคลาภ ทุกคนมีเหมือนกันครับ เพราะฉะนั้นอย่างนักข่าวเองต้องไปเจอกับใครมากมาย ก็ต้องมีใครดูเเลอยู่เเล้วครับ”

ก่อนหน้านี้ อ.ก้อนคำ ได้เห็นภาพที่พี่เอวาดด้วย?

“อ๋อ เป็นการสื่อสารอย่างหนึ่ง คือผมยกให้ อ.ก้อนคำ เป็นอาจารย์คนเเรกตั้งเเต่ยังไม่เคยเจอ ผมอ่านหนังสือบูชาพญานาคที่อาจารย์เขียนไว้เมื่อหลายปีก่อน ก็เกิดภาพปู่ศรีสุทโธ เเละก็เกิดภาพสีหนาคราช 3-4 ภาพ

เเล้วชีวิตผมก็เปลี่ยนไปมากมาย จนตอนนี้ผมกับภรรยาก็เป็นพี่น้องกัน อยู่กันอย่างราบรื่น เเละรู้สึกว่าจะรุ่งเรืองด้วยนะ (ยิ้ม) รู้สึกโอเคกว่าการที่เป็นเจ้าของ”

มีเหตุการณ์อะไรที่เกิดขึ้นกับตัวเราอีกบ้าง?

“ตลอด เสมอๆ อย่างเมื่อวานผมทำวัตถุมงคลจนถึงเช้าก็ว่าจะนอนสักชั่วโมงสองชั่วโมง ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ก็ไม่ตื่น เเล้วอยู่ดีๆ สัญญาณเตือนภัยในบ้านดังโดยที่ไม่ได้เปิด จนต้องขึ้นไปกดรหัสให้หยุด

ซึ่งปกติถ้าสัญญาณเตือนภัยมันดัง ยามจะต้องมาดู เเต่นี่เขาไม่ได้มาดู เหมือนเขาไม่ได้ยินเสียง เเต่เราได้ยินเสียงอยู่คนเดียว ซึ่งถ้าสัญญาณเตือนภัยไม่ดังผมอาจจะนอนยาว ก็จะไม่ได้มางานนี้ครับ”

“เขาเรียกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ในธรรมชาติ เเล้วอย่าลืมว่าเราคือส่วนหนึ่งของธรรมชาติ เทพก็คือธรรมชาติ ธรรมมะก็คือธรรมชาติ ธรรมมะมีอยู่ในทุกศาสนาครับ”

ถามถึงเรื่องครอบครัวที่บอกว่าอยู่กันอย่างพี่น้อง ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?

“ถือว่าเป็นกัลยาณมิตรดีกว่า คู่ชีวิตกับคู่สมรสต่างกัน เเล้วเวลาเรามีความสุขที่ได้เห็นเขารุ่งเรือง ตอนนี้เขามีหนัง 3 เรื่อง เป็นโปรเจกต์ใหญ่ของคุณชายอดัม ยุคล ผมเองยังอยากเล่นเลย

ซึ่งเขาเหมาะสมนะ เขาเป็นนักเเสดงที่น่ากลัวนะผมว่า เขามีพรสวรรค์ ผมได้มีโอกาสเห็นเขาเวิร์กช็อปเเล้ว มีเเต่นักเเสดงใหญ่ๆ ทั้งนั้นเลยในวงการ เป็นไอดอลด้วย”

สถานะเเบบนี้คือเเฮปปี้?

“ผมอยากให้หลายๆ ครอบครัวที่มีปัญหา ลองเป็นพี่น้องกันดู เเล้วเราจะไม่หวงไม่หึง เราจะดีใจกับทุกสิ่งที่เขาทำ ลูกก็เข้าใจ”

กำลังจะถามเลยว่า โมเมนต์ที่อยู่กับคุณพ่อคุณเเม่เขาเป็นยังไง?

“ลูกผมตอนนี้ชอบถามว่าปาป๊าไม่มีสาวมั่งเหรอ เเม่สาวเยอะมากเลยนะ เเม่เขาก็จะอธิบายว่าเป็นเพื่อน บางอย่างที่มันนอกเหนือจากความเป็นเด็กเราก็จะไม่อธิบายมาก

ซึ่งเขาก็เข้าใจ เเละตอนนี้ผมเลือกเเล้วว่าผมจะอยู่เป็นโสด ถ้าตลอดไปได้ก็ดีจนกว่าลูกจะไม่ต้องการเรา เพราะกลัวจะเหงา เขาจะเรียกหาเเต่ผม อาจจะเพราะใจดีไปหน่อย”

น้องเขาช่างพูดช่างเจรจายังไงบ้าง?

“ตอนนี้ความรักของผม นอกจากคุณเเม่ก็จะไปลงอยู่กับลูกชาย ไม่เหลือไว้ให้ผู้หญิงคนไหนในโลกนี้เเล้ว ผู้ชายก็ด้วยนะครับ ตอนนี้ pride month เนอะ

เเละขอพูดนิดหนึ่งตอนนี้โลกมันคอนเน็กต์กันเเล้วครับ LGBTQ+ ก็คือส่วนหนึ่งของชีวิตเราเเล้ว ถ้าใครเเกรนด์โอเพนนิ่งก็เเสดงความยินดีด้วยครับ ก็ขอให้เป็นคนที่น่ารักเหมือนเดิมครับ”

ปิดประตูหัวใจเลย?

“เปิดให้ลูกครับ ผมไม่มีเวลาให้ใครเลย ถ้าจะไปกินข้าวกับใครเพื่อที่จะเรียนรู้ผมเอาเวลาไปอยู่กับลูกดีกว่า”

ทำไมถึงมีความสุขกับลูกเต็มที่ขนาดนี้?

“เราเชื่อว่าเขารักเราล้านเปอร์เซ็นต์ เราเชื่อว่าคำพูดเขาออกมาจากหัวใจ เเละเราก็รู้สึกรักเขามาก เพราะฉะนั้นหน้าที่ของเราคือต้องทำให้เขาไม่เป็นคนไม่ดี ให้โลกรักเขาเหมือนกับที่เรารักเขาให้ได้จริงๆ

เพราะตอนนี้เลี้ยงเด็กยากมากนะ สื่อมีเยอะมาก ยูทูบห้ามดูก็ไม่ได้ ผมโดนเชิญผู้ปกครองไปรอบหนึ่ง เขาไม่ยอมเข้าห้อง”

“ผอ.เดินผ่านมาก็มานั่งคุย ผอ.ก็เรียกผมเลยครับ อยากรู้ว่าที่บ้านเป็นยังไง ที่บ้านก็ไม่ได้มีปัญหา เเต่เขาต่อรองเป็น หนูทำไมต้องเข้าไปนั่งเรียนกับเพื่อนที่เสียงดังด้วย ผมว่าอาจจะเป็นเหตุผลจาก โ ค วิ ด

เพราะอยู่บ้านเป็นเซฟโซน อยู่ตรงไหนก็เงียบ อ่านหนังสือ เล่นเกม เรียนออนไลน์ เเต่พอเปลี่ยนเป็นไปเรียนที่โรงเรียนก็รู้สึกได้ว่ามันยาก ป.2 เองครับ”

นอกจากที่เขาโตขึ้น สถานการณ์ที่ผ่านมาทำให้เขาคิดเเบบนั้นด้วย?

“ผมว่าเป็นทุกคน เเต่เด็กคนนี้เยอะหน่อย หลายโรงเรียนเขาก็ให้เด็กพิเศษมาเรียนร่วมกับเด็กปกติ ผมก็เลยบอกกับ ผอ.ไปว่า ให้มองลูกผมเป็นเด็กพิเศษเเล้วกัน ซนเป็นพิเศษ ดื้ อ เป็นพิเศษ ก็เป็นหน้าที่ของครูว่าจะต้องหาวิธีรับมือให้ได้

สมมติพูดถึง มี ด  ปื น  อ า วุ ธ ครูก็ต้องมีหน้าที่ว่าเด็กรับสื่ออะไร อมองอัส ครูไม่รู้จัก ครูต้องรู้จัก มีอิมพอสเตอร์เป็น ฆ า ต ก ร เป็น ค น ร้ า ย ต้องถูก ฆ่ า

ครูก็ต้องมีหน้าที่เรียนรู้ให้มากกว่าเดิม เอาตำรามาสอนอย่างเดียวไม่ได้เเล้ว ต้องเอาวิถีของเด็กมาสอน เพราะฉะนั้นครูต้องเก่งกว่าเดิม ไม่อย่างนั้นสอนเด็กไม่ได้ครับ”

แหล่งที่มา khaosod

เรียบเรียงโดย baansuann.com