จำลองเหตุการณ์ “น้องกองบิน” ติดในรถตู้ หาสาเหตุลืมหรือบกพร่อง?

จากกรณีของ น้องกองบิน เด็กชาย 2 ขวบที่ติดในรถตู้รับส่งนักเรียนเป็นเวลาเกือบ 7 ชั่วโมง โดยรถตู้คันดังกล่าวจอดในที่แดดร้อนจัด เมื่อไปพบน้องกองบินรีบนำส่งโรงพยายาบาล ด้วยอาการสาหัส ตับ ไตเริ่มไม่ทำงาน และมีอาการสมองบวม

ล่าสุด วันที่ 15 ส.ค. 63 เมื่อเวลา 12.30 น. น้องกองบินได้ເสียชีวิตลงแล้ว แพทย์แจ้งว่าน้องกองบินมีอาการตับ ไต ไม่ทำงาน และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา ซึ่งผู้ปกครองยินยอมให้แพทย์ถอดเครื่องช่วยหายใจ

ก่อนน้องกองบินจะເสียชีวิต นางสาวสุวภัทร และนายธวัชชัย ยอดมณี แม่และพ่อของน้องกองบินได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.พิปูน ให้ดำเนินคดีกับนางสุนิษฐา ผูกพาณิช หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ใน ต.กะทูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช และครูหยุ่น ครูเวรที่มารับน้องกองบินในวันเกิดเหตุด้วย

บรรยากาศที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช พบว่า ครอบครัวและญาตอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ โดยรอรับน้องกองบิน เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านต่อไป

พ่อน้องกองบิน เผยว่า เสียใจกับการสูญเสีย เพราะตนมีลูกคนเดียว ปกติทำงานที่เกาะสมุย จ.สุsาษฎ์ธาธานี ส่วนน้องกองบิน ภรรยาดูแล แต่ตนจะวิดีโอคอลและโทรคุยกับลูกทุกวัน ส่วนเรื่องคดีตอนนี้ยังไม่ขอพูดถึง และขอจัดงานศwลูกให้เสร็จเรียบร้อยก่อน

ซึ่งโดยปกติรถรับส่งนักเรียนจะวิ่งออกมารับเด็กนักเรียนเวลา 07.00 น. และกลับเข้าโรงเรียนก่อน 08.00 น. ระยะทางไปกลับรวม 16 กม. จำลองเหตุการณ์ขณะที่ครูเวรได้เปิดประตูให้นักเรียนลงจากรถ

โดยมีน้องการ์ตูนวัย 3 ขวบ สูง 100 ซม. แทนน้องกองบิน และได้วัดความสูงจากพื้นของรถตู้ ถึงปลายพนักพิง 108 ซม. จากพื้นของรถตู้ถึงเบาะนั่ง มีความสูง 43 ซม. วัดจากเบาะนั่งถึงปลายพนักพิง มีความสูง 72 ซม.

และเมื่อน้องการ์ตูนที่มีความสูง 100 ซม. ได้ไปนั่งเบาะพบว่าขาจะลอย และปลายพนักพิง จะสูงกว่าศีรษะของน้อง ซึ่งหากวัดจากศีรษะของน้องขึ้นไปที่ปลายพนักพิง เหลือ 28 ซม.

จำลองเหตุการณ์แรก เมื่อครูเวรลงจากรถตู้มาแล้วเปิดประตู โดยผลักไปในสุด ครูจะยืนอยู่ตรงบริเวณเลยหน้าเบาะแถวแรก เพื่อให้เด็กนักเรียนเดินลงไป ซึ่งจะหันหน้าเข้าประตู แล้วเอียงตัว 45 องศา

มุมดังกล่าวจะไม่สามารถมองเห็นตำแหน่งที่นั่งของน้องกองบินได้ เนื่องจากถูกที่นั่งแถวแรกบัง และเมื่อนักเรียนลงหมดแล้ว ครูเดินมาดึงประตูเพื่อจะปิด จะสามารถมองเห็นน้องกองบินได้ ไม่ว่าน้องจะนั่งหรือนอน

จำลองเหตุการณ์แบบที่ 2 เมื่อครูเวรลงจากรถตู้มาแล้วเปิดประตู โดยหันใช้มือผลักเปิดประตูไปให้สุด แล้วไปยืนอยู่ตรงหลังช่องทางเดินของเบาะแถวสอง ซึ่งจะไม่สามารถมองเห็นข้างในรถได้ แต่สามารถนับเด็กที่ลงมาจากรถตู้ได้ เมื่อเด็กลงหมด ก็ปิดประตู โดยผลักประตูไปข้างหน้า ซึ่งจะไม่สามารถมองเห็นน้องกองบินได้

 

แหล่งที่มา : amarintv.com, khaosod.co.th

เรียบเรียงโดย :  baansuann.com