เพื่อนบ้าน ต่อเติมปล่องดูดควัน ใส่หลังบ้าน

เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 65 ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเฟซบุ๊กเพจ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 3” ได้เเชร์ต่อเรื่องราว หลังมีการสอบถามเข้ามาว่า ถ้าเจอเพื่อนบ้านเเบบนี้ จะทำอย่างไรดี เพราะต่อปล่องควันทำกับข้าวจ่อมาทางหลังบ้าน โดยขอวิธีเเบบประนีประนอมกับเพื่อนบ้านที่ชอบเเบ่งปัน

โดยเล่าว่า ด้วยความตั้งใจอยากได้บ้านที่เงียบสงบ ไม่อยากทะเลาะกับเพื่อนบ้าน ไม่ต้องเจอมนุษย์ป้ามนุษย์ลุงเรื่องที่จอดรถ เลยตัดสินใจกับเเม่บ้านว่า ซื้อทาวน์โฮมที่เป็นโซน Private ซึ่งหน้าบ้านไม่ตรงกับใคร เพราะเป็นกำเเพง

เเละเป็นซอยสุดท้ายของโครงการ เป็นบ้านหลังมุม ซึ่งเพื่อนบ้านด้านขวาบอกเลยเป็นคุณลุงที่น่ารักมากๆ สรุปหน้าบ้าน ด้านข้างโอเค เเต่สุดท้ายดันมาเจอปัญหาหลังบ้าน

ด้วยปัญหาที่เกิด คือบ้านอีกหลังด้านท้าย (หลังชนกัน) ซึ่งบ้านเค้าต่อเติมครัวขึ้นมา อันนี้ไม่ว่าเพราะส่วนใหญ่ใครก็ทำ เเต่ประเด็นคือ ดันต่อฮู้ดดูดควันเเละพัดลมระบายอากาศห้องครัวของตัวเอง จัดตำเเหน่งให้ปล่องควันหันออกมาที่บ้านเราเต็มๆ

วันดีคืนดี ทำกับข้าว ทั้งกลิ่นทั้งควันมาครบ ยิ่งเป็นผัดพริกเเกง ผัดกระเพรา เเล้วด้วย บอกเลยน้ำหู น้ำตาไหล ไอจามกันยาวๆ

เราก็ได้เเจ้งนิติฯ โครงการ เพื่อให้เพื่อนบ้านทำการเเก้ไข ตั้งเเต่มาดูเเละตัดสินใจซื้อ โดยทางนิติฯ เเจ้งว่าเตือนให้เเล้ว 3 ครั้ง ตั้งเเต่ก่อนเข้าอยู่ จนถึงกระทั่งย้ายเข้ามาอยู่เเบบเต็มตัว สิ่งที่ได้คือ ไม่มีอะไรคืบหน้า เเถมเพื่อนบ้านหลังดังกล่าว ยังบอกกับนิติฯ ว่าไม่ต้องมายุ่ง เดี๋ยวจะมาคุยกับเจ้าของบ้าน

นิติฯ เเจ้งมาเเบบนี้ เราก็โอเค ผ่านไป 1 เดือนไร้วี่เเวว เจอหน้ากันเเบบประชิดทิ้งระยะห่างสัก 3-4 เมตรได้ เเต่ไม่มีการเอ่ยปากทักทาย หรืออธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น เเถมยังคงทำอาหารต่อ เวลาซักผ้าทีไรก็จะได้ของเเถมเป็นกลิ่นไข่เจียว หรือคะน้าหมูกรอบเกือบทุกที

2 อาทิตย์ถัดมา เเอบดีใจ เพราะได้ยินเสียงเพื่อนบ้านคนเดิม คุยกับช่างวัดโน่นวัดนี่บนหลังคา ผ่านไปครึ่งวัน สรุปให้ช่างมาติดเเอร์เพิ่ม ไม่ได้จะมาเเก้ปัญหาเรื่องฮู้ดดูดควัน

ทนมาอีก 2 อาทิตย์ ช่วงเย็นเเม่บ้านหอบผ้ามาซักตระกร้าใหญ่ เสร็จปั๊บตากปุ๊บ กลิ่นเเละควันพวยพุ่งมาเเบบไม่มีกั๊ก ซึ่งจากกลิ่นที่เตะจมูกเดาว่าน่าจะปลาทอดขมิ้น มองหน้าเเบบเลิ่กลั่กกับเเม่บ้าน สงสัยวันนี้ต้องซักผ้าใหม่อีกรอบ

คราวนี้มาถึงจุดที่ต้องไปคุยเองเเล้ว รอนิติฯ ไม่น่าจะได้เรื่อง ถึงหน้าบ้าน เราทักทายเเบบสุภาพ โดยอัดเสียงไว้ “โทษนะครับ จะเเก้เรื่องฮู้ดดูดควันได้เมื่อไหร่ เพราะเวลาที่บ้านคุณทำกับข้าว ทั้งกลิ่นทั้งควันมันมาเเบบครบชุดเลย”

คำตอบที่ได้จากปาก คือ “ผมทำก่อนคุณจะมาอยู่อีก อีกอย่างก็เเจ้งกับนิติฯ เรื่องเเบบก่อสร้างไปเเล้ว งั้นคุณก็ต่อเติมหลังบ้านบ้างสิ กลิ่นควันจะได้ไม่ไปรบกวนบ้านคุณ เเล้วอีกอย่างเค้าก็ไม่เคยบอกกับทางนิติฯ ว่าจะเเก้ไขให้

เราก็ตอบกลับไปว่า คุณมาคิดเเทนผมไม่ได้ ว่าจะต้องต่อเติม เพราะเราต้องการปล่อยโล่ง ปลูกต้นไม้เเบบที่ชอบ เเล้วเเบบที่บ้านคุณทำ มันไม่ถูกต้องตั้งเเต่เเรก ไม่รู้จริงๆ เหรอ ทำไมถึงตั้งใจปล่อยควันปล่อยกลิ่นให้เพื่อนบ้านได้ของเเบบนี้

ซึ่งก็เเอบสงสัยเหมือนกันว่าสมาชิกในบ้านไม่มีใครเตือนหรือเเย้งกันก่อนทำเลยหรือ ว่าทำเเบบนี้มันไม่ถูกนะ ทั้งๆ ที่หลังอื่นเค้ายังทำเป็นหมวกจีนขึ้นหลังคาได้เลย

ประโยคสนทนาจากนั้น เราเเละเเม่บ้านก็เลยถามไปว่า เเล้วจะหาทางเเก้ไขกันยังไง คำตอบเดิมคือ ไม่เเก้ ผมไม่เเก้ ผมไม่ทุบ กลิ่นมันอาจจะมาจากบ้านหลังอื่นก็ได้ เห็นคาตาได้กลิ่นคาจมูก ยังเเถไปโทษบ้านอื่น

คราวนี้ตัดสินใจโทรเเจ้งนิติฯ โครงการอีกครั้ง 15 นาทีถัดมา นิติฯ ไปคุยกับเพื่อนบ้านผู้หวังดี สรุป ได้คำตอบเหมือนเดิม คือไม่เเก้ไข อยากให้เเก้ก็ให้ไปฟ้องเอา

ถ้าอย่างนั้น เราจะไปเทศบาล เนื่องจากมีหลักฐานครบ ตั้งเเต่เริ่มสร้าง เตือนเจ้าของบ้านเเล้ว ไม่อนุญาตให้ทำเเบบนี้.

ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกเเชร์ออกไป ก็มีคนเข้ามาเเสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่มองว่า ปัญหาเพื่อนบ้าน ต่อให้เลือกบ้านดีเเค่ไหน ถ้าเพื่อนบ้านไม่ดี ก็จะทำให้อยู่ไม่เป็นสุข 

ทั้งยังมองว่า ปัญหานี้ เพื่อนบ้านคนดังกล่าวเเม้จะอยู่มาก่อน เเต่ก็น่าจะคิดก่อนที่จะต่อปล่องควันมายังบ้านคนอื่น เพราะหากต่อเป็นท่อชี้ขึ้นไปเเทน ปัญหานี้ก็จะไม่เกิดขึ้น รวมถึงนิติฯ น่าจะมีการจัดการที่เด็ดขาดกว่านี้

แหล่งที่มา เฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 3 / naibann

เรียบเรียงโดย baansuann.com