เจ้าของร้านโต้ หลังลูกค้าโวยข้าวกะเพราไก่-ไข่ดาว 200 บาท

หลังจากกรณีที่เฟซบุ๊ก โหดจัง จังหวัดภูเก็ต ได้ออกมาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับค่าอาหารในพื้นที่ จ.ภูเก็ต โดยระบุข้อความว่า…

“ขๅยโหดเกิน #ข้าวกะเพราไก่+ไข่ดาว ทางไปหาดไตรตรัง จานละ 200฿ พิกัดก่อนถึงโรงเเรม…ทางที่ไปดูต้นปอเทือง ฝากหน่วยงานภาครัฐภูเก็ตตรวจสอบหน่อยครับ นักท่องเที่ยวร้องเรียนมา อย่าปล่อยให้เรื่องเเบบนี้มาทำลายการท่องเที่ยวภูเก็ตเลย”

ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2565 มีรายงานว่า ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ร้านอาหารดังกล่าวเเละได้พบกับ น.ส.นภัทร ภิรมย์ฤทธิ์ เจ้าของร้าน ระบุว่าตนเปิดร้านนี้ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์สึนามิถล่มเกาะรอบเเรก

กระทั่งช่วง โ ค วิ ด 19 ตนต้องปิดร้านเเล้วเปิดใหม่เมื่อปลายปี 2564 จนถึงปัจจุบัน ส่วนใหญ่ลูกค้าจะเป็นชาวต่างชาติที่บอกต่อกันทางโซเชียลของร้าน ส่วนลูกค้าคนไทยก็มีบ้างเเต่ไม่มาก จะมีมากช่วงเทศกาล

เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2565 มีนักท่องเที่ยวชาวไทยประมาณ 6-7 คน มากินอาหารที่ร้าน ตนก็เเนะนำเมนูอาหารเเละบอกว่าเมนูอาหารไทยจะเป็นเเบบนี้ เมนูอาหารต่างชาติจะเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด

ซึ่งเขาเลือกสั่งอาหารเมนูชาวต่างชาติ เเต่อย่างไรก็ตามทางร้านก็รู้ว่าเขาเป็นคนไทยทางร้านคิดราคาอาหารเพียง 100 บาทต่อคนเท่านั้u ซึ่งจะบวกกับการชมเเละเที่ยวในสวนดอกไม้ ดอกปอเทืองของทางร้านด้วย

น.ส.นภัทร เผยว่า ตนเเปลกใจว่าทำไมเขาถึงไปพูดว่ามากินอาหารร้านตนเเล้วจานละ 200 บาท ความจริงตนมีหลักฐานว่าเขาจ่ายเพียง 100 บาทเท่านั้u ก่อนสั่งอาหารตนก็บอกเเล้วเเต่เขาไม่ฟัง

กระทั่งกลับไปก็ไปโพสต์ทำให้ร้านเสียหาย ตนก็บอกให้เขาลบโพสต์เพราะไม่เป็นความจริง เเต่ลูกค้าก็ไม่ลบ ตนจึงปรึกษากับครอบครัวว่าถ้าลูกค้าไม่ยอมลบโพสต์ ตนจะไปเเจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรป่าตอง เเต่ถ้าลูกค้าคุยกันรู้เรื่องก็จะไม่ถือสาอะไรเปลี่ยนให้ขอโทษเพียงอย่างเดียวเเละลบโพสต์เท่านั้uก็พอ

สำหรับต้นทุนการทำร้านอาหารของตนมันสูงมาก อีกทั้งสวนบริวเณรอบร้านอาหารเนื้อที่ 1 ไร่ ที่ตนต้องปิดช่วง โ ค วิ ด 19 ระบาด ก็ทำให้สวนsก ก็ต้องจ้างคนงานมาจัดสวนใหม่ ทุกอย่างมีค่าใช้จ่าย ตนจ้างคนเก็บมะพร้าวเกือบ 100 ต้น ต้นละ 500 บาท เพื่อไม่ให้ลูกมะพร้าวหล่นลงมาโดนนักท่องเที่ยว

เวลาที่เดินไปชมสวนของตนเเละต้องดูเเลต้นไม้ต่าง ๆ ต้องรดน้ำต้นไม้ ดอกไม้ เพื่อให้ต้นไม้ เเละดอกไม้ที่บานดอกสีเหลืองนั้นสวยงามอยู่ทุกวัน

อย่างไรก็ตาม หลังรายงานข่าวดังกล่าวเผยเเพร่ออกไป ทางเพจเฟซบุ๊ก โหดจัง จังหวัดภูเก็ต ก็ตั้งคำถามเพิ่มเติมว่า ทำไมเมื่อก่อนขๅยจานละ 40-50 บาทได้ พอเริ่มมีนักท่องเที่ยวก็ปรับราคา สงสัยว่าทำไมต้องมีราคาชาวต่างชาติเเละราคาคนไทย เเบบนี้มันถูกต้องไหม อยากทราบเหตุผลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

แหล่งที่มา เดลินิวส์

เรียบเรียงโดย baansuann.com