สาวเล่าประสบการณ์ มีอาการแพ้ ผื่นขึ้น หายใจลำบาก โชคดีที่ไป รพ. ทันเวลา

วันนี้เราขอนำเสนออีกเรื่องราวเตือนภัยสำหรับคนที่แพ้อาหาร โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ค Bussabong Somphamit ซึ่งได้โพสต์ประสบการณ์ของการแพ้สารพิមที่ตกค้างจากน้ำผึ้ง ซึ่งเธอนั้นมีอาการแพ้อย่างรุนแรงมาก ชนิดที่ว่าถ้าไปโรงพยาบาลไม่ทันนั้นอาจจะหายไปจากโลกนี้เลยทีเดียว ซึ่ง Bussabong Somphamit ได้โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า

อะนาไฟแลกซิส ภาวะแพ้รุนแรงและเฉียบพลัน วันนี้จะมาเเชร์ประสบการณ์ จะบอกว่าถ้ามาช้าคือ ไม่รอดแน่ ๆ มันเกิดขึ้นรวดเร็วมาก เพราะฉะนั้นอย่านิ่งนอนใจเวลาเป็นอะไรนิด ๆ หน่อยก็ไปหาหมอเถอะคะ

เริ่มจากตื่นมาปั๊มนมเสร็จประมาณตี 2 ก็กินนมไปกล่องนึง(ดีน่างาดำเป็นสิ่งที่กินทุกวันอยู่แล้ว) กล้วยอบน้ำผึ้ง 2 ชิ้น(ร้อยวันพันปีไม่เคยกิน และไม่คิดจะซื้อกินด้วย บังเอิญมีคนเอามาฝาก จะบอกว่าเป็นของฝากที่แพคเกจสวยหรูดูดีมาก)

แล้วก็มานอน นอนไปสักพักรู้สึกเจ็บคอ เริ่มมีเสมหะนิดหน่อย นึกว่าต่อมทอมซินอักเสบเพราะนอนห้องแอร์ แต่ผิดปกติที่มันเจ็บขึ้นเรื่อย ๆ แล้วรู้สึกในปากบวม ๆ ก็เลยลุกขึ้นมาส่องไฟดู เห็นลิ้น ลิ้นไก่ เพดานปาก บวม

สักพักเริ่มแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก เสียงเปลี่ยน ก็เลยปลุกแฟนให้พามา รพ เพราะรู้ตัวแล้วว่ามันแปลก ๆ นั่งรถมาสักพักก็เริ่มคันตา คันอุ้งมืออุ้งเท้า จมูกก็ตันไปเลยหายใจไม่ได้ ต้องหายใจทางปาก โชคดีที่ในปากเหลือช่องว่างอยู่นิดนึงพอหายใจได้

มาถึง รพ ตี 4 ผื่นก็เริ่มขึ้นที่ขา แขน หน้าคอเริ่มแดง ตาเริ่มบวม โชคดีที่ไม่มีคนไข้เลยไม่ต้องรอคิว พอหมอเห็นหน้าหมอก็บอกว่าเป็น อะนาไฟแลกซิส อาการแพ้รุนแรง ก็เข็นเข้าห้องฉุกเฉินเลย ฉีดยาไป 2 เข็ม ก็เริ่มหายคัน

ผ่านไปสัก 2 ชม. ก็หายใจได้เองทางจมูก ในระหว่างนี้ก็ท้องเสียไป 3 รอบ แล้วอาการดีขึ้นเรื่อย ๆ จนปลอดภัຍแล้ว ตอนนี้เหลือแต่ตาบวมกับในช่องปากและในคอที่บวม ซึ่งโรคนี้มันไปปิดกั้นระบบทางเดินหายใจเรา ถ้าไม่รีบมาหาหมอนะคือ ไม่รอดแน่ ๆ ส่วนตัวแล้วเราคิดว่าเราแพ้น้ำผึ้ง เพราะไปเซิสดูในเน็ตมาถ้าในน้ำผึ้งมีแบคทีเรียชื่อ Clostridium Botolinum มันจะสร้างสารพิមที่รุนแรงมาก

การรับประทานสารพิមชนิดนี้ในขนาดน้อยมากเพียง 0.1 ไมโครกรัม (เท่ากับเศษหนึ่งส่วนสิบล้าน ของน้ำหนักหนึ่งกรัม) ก็อาจทำให้เสีຍชีวิตได้ หรืออาจสารพิមตกค้างในกระบวนการผลิต ตอนนี้ก็นอนรอย้ายไปห้องพิเศษ

ต้องอยู่ให้ยาอีก 1-2 คืน สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนดูแลรักษาสุภาพและอาหารการกินให้ดี ๆ เป็นอะให้รีบไปหาหมอเลย เพราะถ้าช้าคงเหลือไว้แต่ชื่อให้คนได้จดจำ

เรียกได้ว่าเรื่องราวดังกล่าวนั้นเป็นภัยใกล้ตัวมาก ๆ รายนี้ยังดีที่เดินทางไปหมอทันเวลา ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวจะสอนให้เราทุกคนระมัดระวังในการกินมากยิ่งขึ้น

แหล่งที่มา: Bussabong Somphamit

เรียบเรียงโดย baansuann.com