นายอำเภอพาหลานมาไกล่เกลี่ย นำพวงมาลัยขอขมายาย

เป็นเรื่องที่โลกโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก กรณีที่มีการเผยแพร่คลิป หลานสาว จิบหัวตบ ยาย โดยมีหลานสาวอีกคนถ่ายคลิปไว้ ล่าสุด นายอำเภอเพ็ญ เปิดพื้นที่เจรจาไกล่เกลี่ยให้เรื่องจบ หลานถือพวงมาลัยขอขมา

จากรณี นางสาวน้ำฝน (นามสมมติ) อายุ 24 ปี ได้ด่าทอและทำร้ายร่างกายนางสมหวัง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นยายแท้ๆ โดยมีการเผยแพร่คลิปดังกล่าวในโลกออนไลน์ ซึ่งคลิปนี้คนที่ถ่ายคือ นางสาวปลา (นามสมมติ) ซึ่งก็เป็นหลานสาวของนางสมหวังด้วยเช่นกัน ขณะที่ นางสมภาร ลูกสาวคนเล็กของนางสมหวัง ก็ยังตามไปทำร้ายตบตีแม่ซ้ำอีก

เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 63 นายณฐพล วิถี นายอำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี พร้อมคณะ และ พ.ต.ท.ณัฐวัฒน์ วงษ์สนิทธีรา รอง ผกก.สส.สภ.เพ็ญ ได้เข้ามาเป็นตัวกลางเพื่อนำทุกคนที่เกี่ยวข้องมาไกล่เกลี่ยพูดจาปรับความเข้าใจกัน

นางสาวน้ำฝน หลานสาวที่ทำร้ายยาย เล่าว่า วันเกิดเหตุ ตนมีปากเสียงกับยายจริง ยายเดินลงมาหน้าบ้าน ได้ใช้หนังสติ๊กยิงใส่บ้าน 2-3 นัด โดนข้าวของในบ้าน ตนจับไม้โยนใส่ยายให้หยุด แต่ไม่โดนยาย จากนั้นหันหลังเดินกลับ แต่ยายยิงหนังสติ๊กไล่หลังตน แต่ไม่โดน

ทั้งนี้ ด้วยความโมโหจึงกำหินลูกรังปาใส่ยาย ส่วนยายได้หยิบเอาท่อนไม้ที่ตนโยนใส่ มาฟาดตน ซึ่งได้ยกแขนขึ้นรับ ทำให้ข้อแขนหลุด ตนคิดจะสู้ยาย แต่ตนก็เดินหนี แต่ยายเดินเข้ามาตีตน 2 ครั้ง และกระชากผมตนตามที่อยู่ในคลิป

ขณะที่ นางสาวปลา ผู้ถ่ายคลิป เล่าว่า คลิปที่ถ่ายไว้ไม่ได้ต้องการถ่ายเพื่อประจานให้เสียหาย แต่ถ่ายไว้เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่ายายมีพฤติกรรมแบบนี้ เพื่อนำไปให้ญาติดู หากญาติพี่น้องจะมาต่อว่า หรือเข้าใจผิดตามที่ยายไปเล่าให้คนอื่นฟัง ส่วนสาเหตุที่ไม่เข้าไปห้าม เพราะยายก็ด่าตนเหมือนกัน

นางสมภาร ผู้เป็นแม่นางสาวปลา เล่าว่า วันเกิดเหตุไม่ได้อยู่บ้าน จึงตามไปที่โรงพยาบาล พบนางสาวน้ำฝนได้รับบาดเจ็บที่แขน จึงไปถามแม่ที่บ้านน้าว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่สงสารหลานบ้างเหรอ แม่เลี้ยงหลานมากับมือ แต่แม่มีอาการมึนเมาสุรๅ และถอดเสื้อผ้าออกแล้วเต้นโชว์ ด้วยความโมโหจึงต่อว่าแม่ว่าทำไมทำหลาน เพราะหลานโตกันหมดแล้ว บางคนก็มีลูกแล้ว

ส่วนที่กล่าวหาตนทำร้ายแม่ และบังคับให้แม่กราบเท้าก็ไม่เป็นความจริง แม่กราบฟ้า กราบดินของแม่เอง บางครั้งก็จุดธูปแช่งลูกหลาน แต่ลูกหลานไม่รับ ถ้าคิดว่าตนไม่ใช่ลูก ก็อย่ามายุ่งกับครอบครัวตนอีก ต่างคนต่างอยู่ อยากให้ทุกคนรู้ แล้วแต่จะตัดสินใจเอง

“ถึงแม่จะตัดลูกตัดแม่กับหนู แต่หนูก็ตัดแม่ไม่ได้ ถ้าแม่ເสียชีวิตก็จะไปเผาผีเหมือนเดิม ไม่มีใครมาห้ามหนูได้”

นางสมหวัง ผู้เป็นยายพูดด้วยอารมณ์ที่ยังโกรธหลานและลูกว่า ตนเลี้ยงน้ำฝนมาตั้งแต่ 8 เดือน จนถึง 8 ปี แม่ถึงมารับไปเลี้ยงต่อ ชาวบ้านรู้ดี หลานเยี่ยวใส่ถ้วยก็กินอย่างไม่รังเกียจ แม้อุจจาระติดมือก็ไม่รังเกียจ ทำไมหลานมาตียาย ซึ่งปลาเป็นคนถ่ายคลิป อีกคนเป็นคนเชียร์

โดยพูดว่า “เอาเลยพี่ฝน ไม่ใช่ยายเรา” ถ้าหากหลานบอกว่ายายนี่ฝนนะ ตนก็จะหยุด แต่นี่เชียร์ให้ทำร้ายเหมือนไม่ใช่ยายแท้ๆ ของตัวเอง ถ้าหากว่ายายเมาแล้วถอดเสื้อผ้า ก็ทำในบ้านหรือที่ของยาย ถึงแม้ลูกหลานจะไม่นับถือตน ก็ไม่สนใจ เพราะตนได้ตัดขาดลูกหลานไปแล้ว

จากนั้น นายณฐพล ได้ขออนุญาตยาย ให้ลูกและหลานนำมามาลัยมากราบขอขมายาย แต่นางสมหวังไม่ยอมรับการขอขมา ทำให้ลูกและหลานร้องไห้ นายอำเภอได้ขอเป็นตัวแทนกราบขอขมายายแทนลูกหลาน แต่ยายยืนกรานก็ไม่ยอม

ทำให้ นายเกรียงศักดิ์ หอนงาม นายก อบต.เพ็ญ เข้าไปจับมืออ้อนวอนยาย ให้อภัยให้ลูกกับหลาน ให้ลูกหลานได้กราบขอขมา เพื่อลูกหลานจะได้ไม่ต้องมีเวรกรรมและบาปติดตัว หากลูกหลานเป็นทุกข์ ยายก็จะไม่มีความสุข ถึงอย่างไรເลือดก็ข้นกว่าน้ำ ลูกและหลานคือสายເลือดของยาย ซึ่งนางสมหวังมีท่าทีอ่อนลง และพูดว่า “ใครทำก็ให้คนนั้นมาขอขมา”

ในเวลาต่อมา นางสมภาร ได้พาลูกและหลานถือมาลัยเข้ามากราบขอขมานางสมหวัง เพื่อขอโทษและขออโหสิกรรมทั้งน้ำตา ซึ่งนางสมหวังผู้เป็นทั้งแม่และยาย ได้มีท่าทีอ่อนลง และรับมาลัยที่ลูกหลานมากราบทั้งหมด 4 คน ทำให้บรรยากาศในห้องประชุมคลายความตึงเครียดลง

ด้าน ร.ต.อ.อดุลชัย ขๅวขำ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เพ็ญ เจ้าของคดี กล่าวว่า คดีนี้มีความรุนแรงในครอบครัวเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นคดีที่ยอมความกันได้ เราอยากให้ทั้งสองฝ่ายยอมความกัน ซึ่งฝ่ายลูกและหลานยอมหมดแล้ว เหลือแต่ยาย ถ้าไม่ยอมกันจริงๆ หากลูกหลานติดคุn ยายจะสบายใจไหม หรือว่าถ้ายายติดคุnก็คงไม่มีใครชอบ

ทั้งนี้ ถ้ายายยอมก็ยอมทั้งหมดเรื่องก็จบ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นสิทธิ์ของยายว่าจะยอมหรือไม่ แต่อยากให้คิดถึงอนาคตหรือวันข้างหน้า หากลูกหลานมีคดีความติดตัวไป จะใช้ชีวิตลำบาก ซึ่ง นางสมหวัง ขอคิดดูก่อน และไปปรึกษาลูกชายคนโต ซึ่งท่าทียายได้อ่อนลงมาก คาดว่าเมื่อยายหายโกรธก็จะยอมความในที่สุด

แหล่งที่มา : thairath.co.th

เรียบเรียงโดย : baansuann.com