อดีตภรรยารองสารวัตร ถูกตำรวจทางหลวง 4 นาย ขอค่ากาแฟ 10,000 บาท

วันนี้เราขอนำเสนออีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอยากนำมาเตือนพี่น้องประชาชน เพราะขนาดตำรวจด้วยกันยังถูกรีดเงิน 10,000 บาท จากเจ้าหน้าที่ด้วยกัน

ซึ่งเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2563 ที่ศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มี ร.ต.ต.สาธิต ชำนาญ รอง สว.สส.สภ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช ได้นำเอกสารหลักฐานเป็นภาพถ่ายและบันทึกการแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจทางหลวง 4 นายสังกัดสถานีตำรวจทางหลวงจังหวัดนครศรีรรมราช (ส.ทล.4 กก.7 บก.ทล.)

เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับศูนย์ดำรงธรรมกรณีพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงทั้ง 4 นาย ซึ่งอดีตภรรยาของ ร.ต.ต.สาธิต ผู้เสียหายได้แจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจทางหลวงทั้ง 4 นายกับพนักงานสอบสวน สภ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราชแล้ว

ร.ต.ต.สาธิต เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ค.2563 เวลาประมาณ 18.10 น. นางวรรณ์เพ็ญ ทองเพิ่ม อยู่บ้านเลขที่ 56/4 หมู่ 9 ต.ทุ่งโพธิ์ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช อดีตภรรยาของตนได้ขับรถยนต์เก๋งติดป้ายทะเบียน ษษ-7399 กทม.ด้านหน้า แต่ไม่ติดป้ายทะเบียนด้านหลัง เพื่อนำเสื้อผ้าไปจ้างรีดที่ร้าน เมื่อขับรถผ่านหน้าปั๊มแก๊สตลาดใหม่ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช

ได้มีรถตำรวจทางหลวงคันหมายเลข 7403 ได้จับไล่รถของอดีตภรรยาตน ก่อนจะส่งสัญญาณให้หยุด จากนั้นตำรวจทางหลวงในรถ 4 นาย มาเจรจากับอดีตภรรยา โดยแจ้งความผิดว่ารถคันดังกล่าวไม่ติดป้ายทะเบียนด้านหลัง และขาดการต่อทะเบียน อีกทั้งยังเป็นป้ายทะเบียนรถคันอื่น จึงเป็นรถเถื่อน และขอเงินเพื่อไม่ต้องถูกดำเนินคดี 10,000 บาท

อดีตภรรยาจึงโทรศัพท์หาตนและแจ้งเรื่องให้ทราบ ตนจึงเดินทางมาที่เกิดเหตุ และแจ้งให้ตำรวจทางหลวงทั้ง 4 นาย ทราบว่าตนชื่อ สาธิต ชำนาญ เป็นตำรวจชุดสืบสวนของ สภ.จุฬาภรณ์ และตนได้ยืนยันว่ารถเก๋งคันดังกล่าวเป็นรถที่ถูกต้องตามกฎหมาย

เพียงแต่ตนนำทะเบียนรถคันอื่นมาสวมใส่ด้านหน้า เนื่องจากจะใช้รถคันนี้ในการทำงานราชการ ปฏิบัติการสืบสวนติดตามขบวนการสิ่งผิดกฏหมายและเพื่อความปลอดภัຍของตนในช่วงออกปฏิบัติหน้าที่ราชการ

ด.ต.ภูดิศ พลเกษตร 1 ในตำรวจทางหลวง กล่าวว่า นายหัวผมคุยกับคุณนายแล้วว่าผมขอเงินกินกาแฟ 10,000 บาท ตนเลยบอกว่าตนมากางเกงขาสั้นไม่ได้นำเงินมาด้วย ด.ต.ภูดิศ จึงนั่งรถไปกับตนไปที่บ้านอดีตภรรยา โดยมีตำรวจทางหลวงอีก 3 นายขับรถทางหลวงคันหมายเลข 7403 ตามไปด้วย

ทางอดีตภรรยา ได้ขึ้นไปบนบ้านนำเงิน 10,000 บาทมาให้กับตำรวจทางหลวง และยื่นเงินให้กับ ด.ต.ภูดิศ พลเกษตร ในขณะนั้น ด.ต.สุทธิพงศ์ เมืองราม กล่าวว่าจะรับเงินได้อย่างไร บ้านตนกล้องทั้งเพ ขอไปเอาเงินรับเงินข้างนอกบ้าน

โดยตำรวจทางหลวง 3 นายขับรถตำรวจทางหลวงคันหมายเลข 7403 ออกไปนอกบ้าน ตนพร้อมอดีตภรรยา และ ด.ต.ภูดิศ พลเกษตร เดินตามออกไป เมื่อเดินไปถึงนอกบ้าน ด.ต.ภูดิศ พลเกษตร บอกอดีตภรรยาตนให้นำเงินไปวางในรถทางหลวง 7403 หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไป

ต่อมาในวันที่ 5 พ.ค. 2563 ตนพร้อมอดีตภรรยาจึงเดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.สมปรารถนา เมฆฉาย พนักงานสอบสวน สภ.จุฬาภรณ์ เพื่อสอบสวนดำเนินคดีกับตำรวจทางหลวงทั้ง 4 นาย

ร.ต.ต.สาธิต กล่าวอีกว่าเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2563 ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำตนพร้อมอดีตภรรยาตน และลงเลขรับคดีตามระเบียบกฎหมาย หลังจากนั้นในวันที่ 17 มิ.ย. 2563 ได้มีคนจำนวน 6 คน เข้ามาเจรจากับตนอดีตภรรยาของตนเพื่อขอคืนเงิน 10,000 บาทให้อดีตภรรยาตน

โดยมีภาพถ่ายและคลิปเหตุการณ์การเจรจาคืนเงินไว้ทุกขั้นตอน หลังจากนั้นตนและอดีตภรรยาได้นำเงิน 10,000 บาทไปลงบันทึกประจำวันไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.จุฬาภรณ์ ในขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนรับคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้วและส่งเรื่องถึง ป.ป.ท.ให้ตรวจสอบตามระเบียบราชการอีกทางหนึ่ง ตนและอดีตภรรยาจะดำเนินคดีกับ 4 ตำรวจทางหลวงจนถึงที่สุด

หมดเวลาที่จะพูดเจรจาต่อรองกันอีกแล้ว เพราะตั้งแต่วันแรกตนได้บอกว่าเป็นตำรวจ สภ.จุฬาภรณ์ เป็นชุดสืบ แต่ตนไม่ได้บอกยศและตำแหน่ง และยังขอร้องว่าเป็นตำรวจด้วยกันไม่สมควรจะทำกันอย่างนี้

แต่ 4 ตำรวจไม่ยอม ยืนยันจะเอาเงิน 10,000 บาท นอกจากแจ้งความดำเนินคดีแล้วตนอยากให้สื่อมวลชนช่วยนำเสนอข่าวตีแผ่พฤติกรรมของตำรวจแบบนี้หากเป็นประชาชนทั่วไปจะเป็นอย่างไร

ทั้งนี้ ร.ต.ต.สาธิต แและอดีตภรรยา อยากให้นำเสนอข่าวนี้ เพื่อเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนให้ระวังตัวมากขึ้น

แหล่งที่มา: siamstreet

เรียบเรียงโดย baansuann.com