หนุ่มใหญ่ วัย 52 ปี เจอคนที่ใช่ในโลกออนไลน์ สุดท้ายถูกหลอกสูญเงินแสนกว่าบาท

วันนี้เราจะมาติดตามเรื่องราวที่จังหวัดยโสธรมีหนุ่มใหญ่วัย 52 ปี ถูกทักแชทขอเป็นเพื่อนทางเฟซบุ๊กก่อนแชทคุยตีสนิทพร้อมกับอ้างว่าจะส่งกล่องเงินจากต่างประเทศมาให้และขอให้โอนเงินเป็นค่าดำเนินการในการส่งกล่องเงินจากสนามบินสุวรรณภูมิจนหนุ่มใหญ่หลงเชื่อโอนเงินไปถึง 2 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งหมด 135,000 บาท

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 7 บ้านคำศิริ ตำบลกู่จาน อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ภายหลังได้รับแจ้งว่ามีคนถูกหลอกให้โอนเงินไปให้ต้องสูญเงินไปกว่า 135,000 บาท และได้พบกับ นายอรุณ นาเวียง อายุ 52 ปี นั่งหน้าเศร้าอยู่บริเวณแคร่ไม้ไผ่หน้าบ้านพักโดยมีพี่ชายและญาติพี่น้องเดินทางไปให้กำลังใจพร้อมกับสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น

นายอรุณ นาเวียง เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ตนยังเป็นโสดและได้พักอาศัยที่บ้านหลังดังกล่าวกับน้าซึ่งก็เป็นโสดด้วยกันและก่อนหน้านี้ตนได้เปิดโทรศัพท์มือถือเล่นเฟซบุ๊กแล้วจู่ ๆ ก็มีคนทักแชทเข้ามาขอเป็นเพื่อนซึ่งโปร์ไฟล์เป็นรูปผู้หญิงชาวต่างชาติสวมเครื่องแบบทหาร

ตนจึงรับเป็นเพื่อนจากนั้นหลายวันต่อมาผู้หญิงคนดังกล่าวจึงทักเข้ามาคุยในห้องแชทตีสนิทกับตนโดยบอกว่าได้เจอกับคนที่ใช่และอยากคบหาเป็นแฟนและอ้างว่าตนเป็นชาวอเมริกาแต่ไปเป็นทหารอยู่ในซีเรีย ตนจึงทักแซทกลับไปพูดคุยกันไปมาตามปกติ

จนกระทั่งเมื่อประมาณวันที่ 18 หรือ 19 ส.ค. 63 ที่ผ่านมา ผู้หญิงคนดังกล่าวก็ได้ทักแชทมาอีกว่าตนจะส่งกล่องเงินไปให้ที่เมืองไทยเพื่อต้องการจะนำเงินไปลงทุนในประเทศไทยพร้อมกับได้ส่งภาพกล่องใส่เงินดอลลาร์สหรัฐฯมาให้ดูด้วยและบอกว่ามีเงินทั้งหมดอยู่ 500 ดอลลาร์

ขอให้ตนส่งที่อยู่และเบอร์โทรฯกลับไปให้ด้วยเพื่อจะได้ส่งกล่องเงินมาให้ตนจึงส่งที่อยู่เบอร์โทรไปให้จนกระทั่งเช้าวันที่ 21 ส.ค.63 ได้มีโทรศัพท์เข้าไปหาเบอร์ของตนแจ้งว่าโทรจากสนามบินสุวรรณภูมิ บอกว่าขณะนี้ได้มีกล่องมาถึงที่สนามบินแล้วขอให้มารับกล่องด้วยแต่ตนไม่สะดวกไปรับ

เขาจึงอ้างว่าจะส่งกล่องไปถึงที่บ้านแต่ต้องโอนเงินค่าส่งมา จำนวน 35,000 บาท ตนจึงได้ฝากให้หลานไปเป็นคนโอนเงินให้ครั้งแรก จำนวน 35,000 บาท เพื่อเข้าบัญชีธนาคารทหารไทย หมายเลขบัญชี ….ชื่อ นายวิฑูรย์ (ขอสงวนนามสกุล) ในช่วงเวลาประมาณเที่ยงของวันที่ 21 ส.ค.63

ต่อมาอีกไม่นานก็โทรกลับมาอีกว่าไม่สามารถที่จะส่งกล่องได้เนื่องจากทางศุลกากรต้องการที่จะเปิดกล่องดูด้านใน ตนจึงทักแซทกลับไปหาผู้หญิงที่ส่งกล่องมาบอกว่าเขาจะเปิดกล่องแต่ทางผู้หญิงบอกว่าห้ามให้เปิดกล่องโดยเด็ดขาด ตนจึงโทรกลับไปและบอกว่าห้ามเปิดกล่องโดยเด็ดขาด

ทางสนามบินจึงอ้างว่าถ้าไม้อยากให้เปิดกล่องต้องโอนเงินมาเพิ่มอีก 1 แสนบาท แต่ตนมีเงินในบัญชีธนาคาร จำนวน 70,000 บาท จึงได้ไปถอนเงินจากอีกบัญชีหนึ่งเพื่อฝากเข้ารวมกับบัญชีที่มีเงิน 70,000 บาท เพื่อให้ครบ 100,000 บาท จากนั้นจึงได้โอนเงินไปให้เพิ่มอีก

รวมทั้งหมดเป็นเงิน จำนวน 135,000 บาท สักพักก็โทรกลับมาอีกว่าไม่สามารถส่งกล่องได้เพราะในกล่องไม่เอกสารใด ๆ เลยจำเป็นต้องตรวจสอบให้ละเอียดตนก็ไม่ยอมให้เปิดกล่องแต่อย่างใดและทางสนามบินก็อ้างว่าถ้าอย่างนั้นต้องโอนเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายให้กับสถานทูตไทยและสถานทูตซีเรีย

ตนไม่มีเงินจึงได้ไปขอยืมเงินกับญาติพี่น้องรวมทั้งได้โทรศัพท์ไปขอยืมเงินกับพี่ชายอยู่ที่อุบลราชธานี พี่ชายจึงบอกว่าตนถูกหลอกแล้วก่อนจะได้พาตนเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร เมื่อวันที่ 22 ส.ค.63 เพื่อให้ติดตามจับกุมแก็งมิจฉาชีพดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหมายเลขบัญชีธนาคารที่โอนเงินไปปรากฏว่าล่าสุดได้ปิดบัญชีไปเรียบร้อยแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินของการของเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ประสานขอความร่วมมือกับทางธนาคารเพื่อตรวจสอบเส้นทางการโอนเงินว่าแก็งมิจฉๅชีพได้มีการโอนเงินไปที่ใดบ้าง

ผู้เสียหายจึงอยากฝากเตือนภัยไปยังประชาชนทั่วไปอย่างหลงเชื่อแก็งมิจฉาชีพเหล่านี้อีกและขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามจับกุมแก็งมิจฉาชีพนี้ให้ได้โดยเร็วก่อนที่จะไปก่อเหตุกับเหยื่อรายอื่นอีก

แหล่งที่มา: siamrath

เรียบเรียงโดย baansuann.com