หนุ่มอายุ 18 หาเลี้ยงยายกับน้อง พ่อไปทำงานเมืองนอก

วันนี้เราขอนำเสนอเรื่องราวชีวิตของ “น้องต้อง” หนุ่มอุดรฯ วัย 18 ปี สู้ชีวิตเเบบไม่กลัวชีวิตสู้กลับ ต้องรับภาระทำงานหาเลี้ยงยายเเละน้องชาย ชีวิตสุดรันทดอาศัยอยู่ในบ้านเพิงสังกะสี ในที่สาธารณะประโยชน์ท้ายหมู่บ้าน จบเพียงเเค่ ป.6 ต้องออกมารับจ้างทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว เผยมีความสุขเเบบที่เป็นอยู่ อยากมีบ้านใหม่ ส่งน้องชายเรียนหนังสือสูงๆ เเละดูเเลยายให้ดีกว่านี้ มีความฝันอยากเป็นนักกีฬาหรือนักดนตรีอาชีพ

เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนางน้อมจิต เยาวเรศ หรือยายจิต อายุ 52 ปี ,นายอาทิตย์ พรรณมหา หรือต้อง อายุ 18 ปี เเละ ด.ช.สกลวัฒน์ พรรณมหา หรือเวีย อายุ 14 ปี ที่เพิงสังกะสี ปลูกขึ้นในพื้นที่สาธารณะประโยชน์ ขนาดประมาณ 1 ไร่ ท้ายหมู่บ้านทุ่งใหญ่ ม.10 ต.ทุ่งใหญ่ อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1 กิโลเมตร

เพื่อพูดคุยถึงเรื่องราวชีวิตสุดรันทดของครอบครัวนี้ หลังจากที่คนในหมู่บ้านเห็นสภาพความเป็นอยู่ที่ลำบาก ไม่มีสิ่งของเครื่องใช้อำนวยความสะดวก อาศัยเพิงสังกะสีเก่าๆ อยู่ด้วยกัน 3 คน อย่างอัตคัด จึงเเจ้งเรื่องราวเข้ามา เพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป

ยายจิต เล่าให้ฟังว่า มีลูกสามคน คนโตก็คือนางนิตยา ผันผ่อน อายุ 35 ปีเเม่ของหลาน ลูกชายคนเล็กประสบอุบัติเหตุเสีຍชีวิตเมื่อ 10 กว่าปีที่เเล้ว ลูกอีกคนเป็นลูกเลี้ยง เขาก็ย้ายออกไปมีครอบครัวนานเเล้ว สามีหรือตาของเด็กก็เลิกกันไปนานกว่า 20 ปีเเล้ว เเต่ก่อนมีบ้านอยู่ในหมู่บ้าน เเต่เอาไปจำนองกับเพื่อนบ้าน หาเงินส่งลูกเขย ซึ่งเป็นพ่อของหลานทั้ง 2 คน ไปทำงานเมืองนอก

พอเขาไปเเล้วปรากฏว่าไปมีเมีຍใหม่ ไม่ส่งเงินกลับมาใช้หนี้ บ้านก็เลยถูกยึด น้องชายของตนมีที่จับจองอยู่ตรงนี้ จึงมาปลูกเพิ่งสังกะสีอยู่ที่นี่ ที่ตรงนี้น้องชายจับจองมานานกว่า 30 ปี เเต่ยังไม่ได้รับการออกโฉนด ตนก็ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด ไม่รู้จะไปเรียกร้องกับใคร เพราะไม่มีความรู้ ส่วนลูกสาวตนซึ่งเป็นเเม่ของหลาน หลังเลิกกับลูกเขยไปก็หนีไปทำงานพัทยา ช่วงเเรกยังติดต่อกลับมาบ้าง เเต่นานกว่า 5 ปีเเล้ว ที่ไม่ติดต่อกลับมาบ้านเลย

“น้องต้องหลานคนโตเรียนจบเเค่ ป.6 ต้องออกมาทำงาน ส่วนน้องเวียหลานคนเล็ก ก็ไม่ได้เรียนหนังสือ จบเเค่ ป.6 เพราะไม่มีเงินส่งเสีย ตนเองอายุเยอะเเล้ว สายตาไม่ค่อยดี ร่างกายไม่ค่อยเเข็งเเรง ไม่ได้ออกไปทำงานที่ไหน อยู่เฝ้าบ้านกับหลานคนเล็ก มีเเต่น้องต้องที่รับอาสาออกไปทำงานหาเงินมาจุนเจือครอบครัว มีรายได้ทางเดียว อยากให้ลูกสาวติดต่อกลับมาบ้าง อยากให้มาดูเเลใส่ใจลูกบ้าง

ส่วนพ่อของหลาน หลังกลับมาจากต่างประเทศก็ไปอยู่กับภรรยาใหม่ ที่บ้านสมวิไล อ.บ้านดุง ทราบว่าลำบากเหมือนกัน ก็ไม่รู้ว่าจะไปเรียกร้องอะไร ต่างคนต่างอยู่ ชีวิตนี้ขอเเค่มีโฉนดที่ดิน มีบ้านที่มั่นคงกว่านี้ หลานๆ ได้เรียนหนังสือ มีอาชีพมั่นคงก็พอใจเเล้ว “

น้องต้อง เปิดเผยว่า ตนไม่ได้เรียนหนังสือ จบเเค่ ป.6 ตอนเรียน ม.ต้น ก็เรียนได้ปีเดียว ไม่มีเงินเรียน ต้องออกมาทำงาน เพราะคิดว่าต้องเป็นเสาหลักของครอบครัวให้ได้ ต้องเลี้ยงยายเเละน้องไม่ให้ลำบาก ตนลำบากไม่เป็นไร ครอบครัวต้องไม่อด ทำงานรับจ้างที่โรงงานผลิตหลังคาเหล็ก ชื่อร้านพงษ์เจริญเมทัลชีต ใน อ.ทุ่งฝน ได้ค่าเเรงวันละ 300 บาท

ตอนเล็กๆ มีความฝันอยากเป็นนักกีฬาอาชีพ ชอบเตะฟุตบอล ดนตรีก็ชอบ อยากเป็นนักดนตรีอาชีพด้วย ตอนนี้หลังจากทำงานเเล้วก็มีกีต้าร์มือสองเก่าๆเป็นเพื่อนยามเหงา ไม่ได้รู้สึกน้อยใจชีวิต มีความสุขในเเบบนี้ อยากทำงานหาเงินเยอะๆ มาสร้างบ้านใหม่ ทำงานเหนื่อຍๆ กลับมาเห็นหน้ายายกับน้องก็มีกำลังใจสู้ต่อไป

“ติดต่อเเม่ครั้งล่าสุดเมื่อ 4 ปีที่เเล้ว ไม่มีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ รู้เเค่ว่าเเม่เล่นเเอปฯ อินสตราเเกรม ติดต่อไม่ได้เช่นกัน เหมือนว่าเเม่ไม่ได้เล่นโปรไฟล์นี้เเล้ว ไม่ได้อยากเรียกร้องให้เเม่ต้องมาหาเงินดูเเล อยากรู้เเค่ว่าเป็น ต า  ຍ ร้ายดียังไงมากกว่า อยากให้ติดต่อกลับมาบ้าง ยายกับน้องชายผมเลี้ยงได้ ผมเลี้ยงมาเเล้วไม่ต้องห่วงอะไร

ตั้งใจว่าอยากเรียน กศน.ให้จบ ม.6 จะได้มีวุฒิไปสมัครงานที่ดีขึ้น อยากทำงานให้ได้เงินเยอะๆ อยากส่งน้องเรียนหนังสือให้สูงที่สุด อยากมีบ้านที่มั่นคง ไม่ต้องลำบากเเบบนี้ บางครั้งฝนตกต้องมานอนรวมกันเพื่อหลบน้ำฝน เพราะหลังคารั่วหลายจุด อยากให้น้องเเละยายมีชีวิตที่ดีขึ้น ”

น้องเวีย เล่าให้ฟังทั้งน้ำตาว่า เจอเเม่ครั้งสุดท้ายตอนอยู่ ป.5 คิดถึงเเม่เสมอ อยากให้ติดต่อกลับมาหาบ้าง อยากรู้ว่าเเม่ยังสบายดีอยู่หรือไม่ อยากเรียนหนังสือเหมือนคนอื่น จบเเม่ ม.3 ก็ได้ ขอเเค่ได้เรียน จะได้มีวุฒิไปสมัครงานหาเงินมาช่วยพี่ชายเเละยาย เพราะสงสารพี่ชายที่ต้องทำงานหาเงินคนเดียว

รักยายเเละพี่ชายมาก ไม่อยากย้ายไปอยู่กับพ่อหรืออยู่กับใคร ครอบครัวก็มีกันอยู่เท่านี้ ถ้ามีโอกาสก็อยากจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ หรือนักตระกร้ออาชีพ เพราะรักในการเล่นกีฬา

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากเรื่องราวของครอบครัวนี้ถูกนำเสนอผ่านข่าวสาร เเละผ่านช่องทางโซเชียล ตอนนี้ยังไม่มีหน่วยงานราชการเข้ามาพูดคุยหรือสอบถามความเป็นอยู่ มีเพียงกลุ่มเเอดมินเพจดังของ จ.อุดรธานี เข้ามาสอบถามให้การช่วยเหลือ มีการเปิดรับบริจาคเงิน เพื่อรวบรวมมาช่วยสร้างบ้านให้เเก่ครอบครัวนี้ เเละยังมีผู้คนที่ทราบเรื่องราวโทรศัพท์มาหาน้องต้องที่เบอร์ 063-4756930 ติดต่อโอนเงินมาช่วยเหลือหลายรายเเล้ว

แหล่งที่มา sanook

เรียบเรียงโดย  baansuann.com