หนุ่มช่างปูน มีแฟนสาวที่อยู่ด้วยกันมาเกือบ 20 ปี สุดท้ายเลิกเพราะเธอไม่สาวไม่สวย

วันนี้เรามีเรื่องราวสุดซึ้งมาฝากเพื่อน ๆ เป็นเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่สามีมีอาชีพเป็นช่างปูน มีรายได้เป็นค่าแรงขั้นต่ำ ภรรยารับจ้างเป็นแม่บ้าน และมีหน้าที่ดูแลบ้านให้สามี ทั้งสองคนรักกันมาก แม้ว่าจะลำบากก็อยู่เคียงข้างกันมาตลอด เมื่อสามีทำงานไปได้ 2-3 ปี เจ้านายชื่นชอบการทำงานของเขา จึงให้เขาเป็นหัวหน้าช่าง และเพิ่มเงินเดือนให้อีกเล็กน้อย

เขาใช้เวลาไม่กี่ปีในการเก็บออมเงิน และก็หาลู่ทางในการเปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้างขึ้นมาเป็นของตัวเอง ซึ่งบริษัทของเขาก็กลายเป็นบริษัทรับเหมารายใหญ่ ที่มีคนรู้จักมากขึ้นเรื่อย ๆ และเติบโตไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปมากกว่าแต่ก่อน เขาได้พบปะสังสรรค์กับผู้คนมากขึ้น และก็เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขารู้สึกเบื่ວภรรยาของตัวเอง

เวลาที่เขากลับมาถึงบ้าน แล้วมองไปที่ภรรยา ก็จะเห็นแค่ผู้หญิงมีอายุคนหนึ่ง ที่ไม่แต่วตัว ไม่แต่งหน้า ไม่มีความสาวความสวยเหมือนผู้หญิงที่เขาพบเจอข้างนอก มันทำให้เขาอยากจะยุติความสัมพันธ์ของการเป็นสามีภรรยาที่อยู่ลำบากด้วยกันมาเกือบ 20 ปี ไว้เท่านี้

แต่เขาก็นึกถึงตอนที่ลำบากสู้มาด้วยกัน จึงไม่อยากให้ภรรยาไปตัวเปล่า เขาจึงได้โอนเงินเข้าบัญชีให้ภรรยาจำนวนหนึ่ง เพื่อที่เธอจะมีเงินไว้ซื้อบ้านสักหลังอยู่ได้แบบไม่ลำบาก กับเงินที่มีไว้ใช้ตอนแก่ โดยที่ไม่ต้องลำบากหาเงิน แล้วเขาก็เดินไปบอกภรรยา พูดถึงสิ่งที่เขาต้องการ และขอหย่ากับภรรยา

ภรรยารับฟังโดยไม่โวยวาย แววตามีแต่ความสงบ และเมื่อถึงเวลาที่จะต้องย้ายออก สามีได้โทรบอกภรรยาว่า จะเข้ามาช่วยขนของ แต่เมื่อเขากลับมา ก็ไม่เจอภรรยาของเขาซะแล้ว พบเพียงแต่กุญแจบ้าน ที่วางไว้กับสมุดเงินฝากที่เขาเพิ่งโอนเข้าให้เธอ และจดหมายที่เธอเขียนทิ้งไว้ให้อดีตสามีในตอนนี้ว่า…

“ฉันไปแล้วนะ ฉันจะกลับไปอยู่กับแม่ที่ต่างจังหวัด ส่วนผ้าปูเตียง ฉันซักไว้ให้หมดแล้ว พับเก็บไว้ที่ตู้เสื้อผ้าชั้นบนสุด เสื้อเชิ๊ตของคุณ ฉันรีดและแขวนไว้ในตู้เรียบร้อยแล้ว ถุงเท้าและเข็มขัด อยู่ที่ตู้ด้านล่างสุด ฉันไม่อยู่แล้ว คุณอย่าลืมกินยาล่ะ กระเพาะของคุณยิ่งไม่ค่อยดี

อ้อ อีกเรื่อง คุณชอบลืมกุญแจบ้าน ฉันฝากกุญแจสำรองไว้ที่ป้อมยาม ถ้าคุณลืมก็ไปเอาที่ป้อมยามได้เลย ก่อนออกจากบ้านตอนเช้า ก็อย่าลืมปิดหน้าต่างด้วยล่ะ ถ้าฝนตกแล้วพื้นจะเปียก ฉันทำเกี๊ยวทิ้งไว้ให้คุณ ถ้ากลับมาแล้วหิวก็ต้มกินได้เลยนะ “

ถึงแม้ลายมือของเธอจะอ่านยาก ดูไม่สละสลวย แต่ข้อความใจจดหมายล้วน ออกมาจากใจทั้งสิ้น ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดกับตัวเอง เขานั่งมองเกี๊ยวที่เธอทำไว้ให้ครั้งสุดท้าย เธอก็ยังคงตั้งใจห่อมันอย่างดีเหมือนทุกครั้งที่ทำให้เขา มันทำให้เขานึกถึงช่างปูนเมื่อ 20 ปีที่แล้ว

ช่างปูนจน ๆ ที่ไม่มีเงินพาภรรยาไปกินข้าวที่ร้านอาหารดี ๆ ได้ยินเสียงสับผักห่อเกี๊ยวให้เขา และทำให้เขานึกถึงช่วงเวลานั้นที่เขาสัญญากับตัวเองไว้ว่า จะดูแลผู้หญิงคนนี้ให้ดีที่สุด จะให้เธอมีความสุขและต้องสบายขึ้นกว่านี้ให้ได้

มาถึงวันนี้ เขามีทุกอย่างที่อยากมี ซื้อทุกอย่างที่อยากได้แบบง่าย ๆ แต่เขากลับทิ้งผู้หญิงที่เคยทนลำบากกับเขามาเกือบ 20 ปี ไปแบบง่ายๆได้อย่างไร เมื่อเขาคิดได้ จึงรีบไปตามหาภรรยาที่สถานีรถไฟ และเห็นเธอกำลังรอขึ้นรถไฟอยู่ เขาจึงรีบเดินเข้าไปหาและพูดกับเธอว่า

“คุณกำลังจะไปไหน ผมเพิ่งเลิกงานมาเหนื่ວย ๆ ทำไมยังไม่ทำกับข้าวไว้ให้ผมอีกละ กลับบ้านไปทำกับข้าวได้แล้ว” เมื่อภรรยาได้ยินคำพูดของสามี เธอจึงน้ำตาคลอแล้วค่อย ๆ เดินตามหลังเขาไป แต่เธอไม่รู้หรอกว่า ผู้ชายที่เดินอยู่หน้าเธอ กำลังร้องไห้อย่างหนัก เพราะเกือบจะปล่อยผู้หญิงที่เขารักมากที่สุดไปซะแล้ว

แล้วมันก็ทำให้เขาคิดได้ว่า ความสุขที่แท้จริงไม่ใช่จำนวนเงินในสมุดบัญชี แต่มันคือรอยยิ้มของคนที่รักต่างหาก

หากคุณมีคนที่รักคุณ และพร้อมจะอยู่เคียงข้างคุณตลอดเวลา ไม่ว่าคุณจะ “สุข” หรือ “ทุกข์” ขอให้คุณใส่ใจเขาให้มาก ๆ และอย่ามองข้ามเขาไป เพียงเพราะความฉาบฉวยเพียงชั่วคราว เพราะมีไม่กี่คนหรอกที่ยังคงทนลำบากกับเราได้ แม้ในวันที่เราไม่มีอะไรในชีวิต

แหล่งที่มา: ได้คิดก็คิดได้

เรียบเรียงโดย baansuann.com