วันนี้เราจะพาทุกคนมาติดตามกรณีที่ได้มีการพูดถึงกันเป็นอย่างมากบนโลกออนไลน์ หลังเมื่อวันที่ 17 พ.ย.63 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ต.หัวฝาย อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ ว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมกับสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ สมาชิกกองทุนเครือข่าย อ.แคนดง หลังจากยายเสีຍชีวิตไปแล้ว ไม่ยอมจ่ายเงินตามสัญญา ต้องกู้ยืมเงินนอกระบบมาจัดงานฌาปนกิจ
ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ยังบ้านของนางถม กมลพันธ์ อายุ 88 ปี ที่เสีຍชีวิตด้วยโรคมะเร็งเต้านม เมื่อวันที่ 30 ก.ค.63 หรือกว่า 3 เดือนที่ผ่านมา สอบถาม นางวิภาดา ธุระวรรณสกุล อายุ 37 ปี หลานผู้เสีຍชีวิต เล่าว่า
หลังจากยายเสีຍชีวิตลง ครอบครัวก็หวังเงินฌาปนกิจจากสมาคมฯ มาจัดงาน ซึ่งจะได้เงินประมาณ 80,000 บาท จึงไปเซ็นอาหารเครื่องดื่มและสิ่งของจำเป็น สำหรับงานฌาปนกิจมาก่อนล่วงหน้า หวังว่าหลังเสร็จงาน จะได้นำเงินฌาปนกิจมาจ่ายหนี้สินคืน
แต่ปรากฏว่าคณะกรรมการสมาคมฯ แจ้งว่า ยังไม่มีเงิน จึงจำเป็นต้องกู้เงินนอกระบบมาชำระหนี้แทนก่อน จากนั้นติดตามทวงถามเงินจากสมาคมฯ แต่ไม่ได้รับคำตอบ อ้างว่าเงินยังเก็บเงินไม่ได้ ผ่านไปกว่า 2 เดือนจึงเดินทางไปร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรม อ.แคนดง จากนั้นสมาคมฯ จึงจ่ายเงินมาให้ 50,000 บาท ส่วนอีก 30,000 บาท ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้ตอนไหน
ยายเข้าร่วมกับกลุ่มฌาปนกิจมานานกว่า 19 ปี โดยสมาคมฯ จะเก็บเงินปีละ 2 ครั้ง ๆ 840 รวมจ่ายปีละ 1,680 บาท ที่ผ่านมาไม่เคยค้างเงินสมทบ ตอนนี้ครอบครัวได้รับความลำบาก ต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบ และยังไม่รู้ว่าเงินที่เหลือจะได้ตอนไหน นางวิภาดา กล่าว
ด้าน นางยวง ดีชัยรัมย์ อายุ 64 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้าน หนึ่งในสมาชิกของสมาคมฯ กล่าวว่า ตอนนี้รู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก เป็นห่วงบุตรหลาน หากตัวเองเสีຍชีวิตลง เกรงว่าบุตรหลานจะเจอกับเหตุการณ์แบบนี้อีก
จากการสอบถาม นายบุญร่วม จิมานัง นายกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกกองทุนเครือข่าย อ.แคนดง ออกมาระบุว่า สมาคมตั้งขึ้นเมื่อปี 2546 ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 4,300 คน ตนเป็นประธานตั้งแต่ครั้งแรก จนมาตั้งเป็นสมาคม ยังคงได้รับตำแหน่งนายกสมาคมฯ มาจนถึงปัจจุบัน
การตั้งสมาคมฯ ครั้งนั้น เป็นการร่วมมือจากหลายฝ่าย ทั้งอำเภอและผู้นำชุมชนทั้งหมด 42 หมู่บ้านใน อ.แคนดง สาเหตุที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นหลักประกันที่ชาวบ้านที่กู้ยืมเงินจากกองทุนเงินล้านของแต่ละหมู่บ้าน รายละ 10,000-70,000 บาท
โดยสมาคมฯ ตั้งกฎระเบียบว่า หากผู้เสีຍชีวิต สมาคมจะเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์คนแรก คือต้องนำเงินไปชำระหนี้เงินล้านที่ผู้เสีຍชีวิตกู้ยืมมาจากหมู่บ้านนั้น ๆ ส่วนที่เหลือสมาคมฯ จะจ่ายให้ญาติที่ใกล้ชิดตามลำดับ โดยสมาคมจะระบุชัดเจนว่า หลังเสีຍชีวิตสมาคมจะจ่ายเงินให้ภายใน 90 วัน” นายบุญร่วม กล่าว
นายบุญร่วม กล่าวต่อว่า สมาคมจะเก็บเงินจากสมาชิกร่างละ 20 บาท ผู้สมัครเข้ามาจะต้องจ่ายค่าฌาปนกิจล่วงหน้า 80 ราย คิดเป็นเงิน 1,600 บาท แต่ละสมาชิก แต่ปรากฏว่าในช่วงหลัง มีสมาชิกเสีຍชีวิตเกินกว่า 80 รายในแต่ละปี
ซึ่งปีนี้มีผู้เสีຍชีวิตไปแล้ว 102 ราย ทำให้เงินที่เก็บล่วงหน้าขาดไปอีก 22 ราย ซึ่งขณะนี้ประชุมสมาคมว่าจะขอเก็บเงินสมทบล่วงหน้าให้เป็น 100 รายแล้ว
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2546-2562 ยังไม่เคยติดค้างเงินค่าปลงแม้แต่รายเดียว ครั้งนี้ถือเป็นรายแรกที่ค้างชำระ แต่ยืนยันว่าจะได้เงินครบถ้วนทั้งหมดอย่างแน่นอน และหลังจากนี้จะปรับปรุงระบบของสมาคม ไม่ให้ติดขัดในลักษณะนี้อีก การออกมาเรียกร้องในครั้งนี้สมาชิกอาจจะขาดความเข้าใจ
แหล่งที่มา: siamnews
เรียบเรียงโดย baansuann.com
