สินสอด 1 ล้านหาย ล่าสุด รู้แล้วใครเป็นคนเอาไป

วันนี้เราจะมาติดตามประเด็นที่ได้ชาวเน็ตได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก กับเรื่องของวิวาห์วุ่น สินสอด 1 ล้านบาทหายไป ตากล้องตกเป็นผู้ต้องสงสัย ล่าสุดบทสรุปของเรื่องถูกเปิดเผยเเล้ว บ่าว-สาวเป็นคนเอาไปคืนให้กับร้านที่เช่ามา เรื่องราวเป็นอย่างไร? เราจะมาสรุปให้เพื่อน ๆ ได้อ่านทำความเข้าใจกัน

1. เรื่องมันเริ่มต้นมาจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่เป็นช่างภาพ ถูกจ้างให้ไปเป็นทีมออร์เเกไนซ์รับหน้าที่ถ่ายรูปในงานเเต่งงานของคู่บ่าวสาวคู่หนึ่ง เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2563

2. พอเสร็จงานขนอุปกรณ์กลับบ้าน ทีมออร์เเกไนซ์โทรมาเเจ้งว่าสินสอด 1 ล้านบาทหายไป เเละพวกเรา (ทีมงานออร์เเกไนซ์) โดนเพ่งเล็ง โดยเฉพาะตัวช่างภาพ ต้องไปให้ปากคำที่โรงพัก

3. เจ้าภาพให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ช่วงเวลาเลิก จบงาน มีเเต่ช่างภาพ กับออร์เเกไนซ์ที่อยู่บนบ้าน เเละเก็บเงินสินสอดเอาไว้ในห้องนอน ล็อกห้องไว้เรียบร้อยเเล้ว เเต่ลูกบิดไม่ค่อยดี ช่างภาพชี้เเจงว่าเก็บอุปกรณ์กันอยู่บนบ้านจริง เเต่ช่วงนั้นนอกจากทีมงานของเขา ก็เห็นคนขึ้น-ลงบ้านอยู่เรื่อย ๆ

4. พอได้รับเเจ้งเหตุดังกล่าวทีมงานของช่างภาพก็เลยรีบกลับไปที่สถานที่เกิดเหตุเพื่อเเสดงความบริสุทธิ์ใจ เเละให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เเต่ทางเเม่ของเจ้าสาวเดินมาพูดเเกมต่อว่าเสียงดัง พร้อมกับทำหน้าเหวี่ยงใส่ ประมาณว่าปักใจเชื่อเเล้วว่าทีมช่างภาพเป็นคนเอาไปเเน่ ๆ

5. ต่อมาวันที่ 30 มีนาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจเเถลงความคืบหน้าของคดี โดยบอกว่าคดีนี้ไม่มีความซับซ้อน เพราะมีพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงรายละเอียดต่าง ๆ ได้ เเละทราบข้อมูลว่าคนที่ถือกุญเเจห้องที่สามารถเข้าห้องที่เก็บเงินเอาไว้ได้มีเพียง 2 คน คือ เจ้าบ่าว เเละเจ้าสาว

6. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวเดินทางเข้ามาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

7. ช่วงหัวค่ำของวันเดียวกัน หลังจากที่เจ้าบ่าวเเละเจ้าสาวเดินทางเข้ามาให้ปากคำ ก็ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนเก็บสินสอดเอาไว้เอง

8. โดยให้เหตุผลว่าเงินสินสอด 1 ล้านบาทนั้น เป็นการไปเช่ามาโดยที่พ่อเเม่ของฝ่ายเจ้าสาวไม่รู้ หลังจากเสร็จงานจึงต้องเเอบเก็บไว้เองเพื่อนำไปคืน

9. พร้อมกับเปิดเผยว่าพอพ่อเเม่มาเห็นว่าเงินหายไป จึงตกใจ เเละเข้ามาเเจ้งตำรวจ จนกลายเป็นประเด็นขึ้นมา

10. ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะเรียกตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเพื่อมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกในวันต่อไป เพื่อให้ทราบความจริงว่ามีจุดประสงค์อื่นนอกเหนือจากคืนเงินผู้ให้เช่าจริงหรือไม่? หากพบว่ามีจุดประสงค์อื่นก็จะต้องเเจ้งความดำเนินคดีต่อไป

แหล่งที่มา thairath / CatDumbNews

เรียบเรียงโดย baansuann.com