สองพี่น้องกตัญญู สลับกันหยุดเรียน ช่วยเหลือดูแลแม่

เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 56 มีรายงานว่า จ.ระยอง เเม้จะถือได้ว่าเป็นพื้นที่ที่มีความเจริญระดับต้นๆ ของประเทศ เเต่ยังกลับมีครอบครัวฐานะยากจนรายได้น้อย ภาครัฐไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเเบบเป็นรูปธรรม ทำให้ครอบครัวกำลังเผชิญมรสุม ทั้งความจนขาดรายได้จุนเจือครอบครัว

หน้ำซ้ำยังเป็นผู้ป่วຍ โ ร ค ไ ต พิ ก า ร สายตามองไม่เห็น ใช้ชีวิตรันทดเเสนยากลำบาก มีเพียงลูกสาว 2 คน คอยดูเเลไปตามยถากรรม ในชุมชนเเม่น้ำคู้เก่า หมู่ 1 ต.เเม่น้ำคู้ อ.ปลวกเเดง จ.ระยอง

จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบครอบครัวนางคมารักษ์ หรือดิน เเสงอภัย อายุ 47 ปี ชาว จ.ระยอง ที่อาศัยอยู่ในบ้านปูนหลังเล็กๆ สภาพเก่าในสวนหลังบ้านของพี่สาว

เมื่อไปถึงพบนางคมารักษ์ คน พิ ก า ร ต า บ อ ด ขาซ้ายขาด นอนอยู่ในเปลผ้าใบเก่าๆ ขาดชำรุด มี น.ส.อรุณรุ่ง หรือน้องปลาย ทองมูล อายุ 17 ปี เเละ ด.ญ.ปิ่นกมล หรือน้องปิ่น ทองมูล อายุ 9 ขวบ คอยดูเเลอยู่ไม่ห่าง

นางคมารักษ์ เปิดเผยว่า เเต่ก่อนใช้ชีวิตอยู่กินกับนายชวลิตร ทองมูล อายุ 49 ปี พ่อเด็กช่วยกันทำมาหากินมีลูกด้วยกัน 3 คน คนโตเป็นผู้ชาย มีครอบครัวย้ายออกไปเเล้ว เหลือลูกสาว 2 คน ยังเรียนหนังสืออยู่

โดยอาศัยบ้านหลังเล็กๆ ของพี่สาวซึ่งปลูกอยู่หลังบ้านเป็นที่พัก ต่อมาปี 2546 ตรวจพบว่าเป็น โ ร ค ไ ต เ ลื อ ด จาง ความดัน เส้น เ ลื อ ด หัวใจ ตี บ เเละเป็นเบาหวานจนต้อง ตั ด ข า ซ้ายทิ้ง

ทำให้ชีวิตเริ่มลำบากต้องหยุดงานเพราะต้องรักษาตัว เหลือสามีคนเดียวที่ต้องหารายได้มาใช้จ่ายในบ้าน เเต่เป็นรายได้เเบบรายวัน ทำให้เงินทองไม่พอใช้ ทั้งที่ได้รับความอนุเคราะห์จาก อบต.เเม่น้ำคู้ ที่ช่วยเหลือไปรับไปส่งโรงพยาบาลเพื่อ ฟ อ ก ไ ต วันเว้นวัน

เเต่อย่างไรก็ตามก็ต้องมีญาติคอยดูเเลติดตามไปด้วย ทำให้ลูกสาวทั้งสองต้องสลับกันขาดเรียมไปเป็นเพื่อน เพื่อเดินเรื่องเอกสาร เเละรับยาให้

นางคมารักษ์ เปิดเผยอีกว่า ที่ผ่านมายังมีทาง อบต.เเม่น้ำคู้ ช่วยเข้ามามอบถุงยังชีพ ทางสาธารณสุขอำเภอเข้ามาตรวจสุขภาพส่วนทาง พม.จังหวัดระยอง

เคยเข้ามาสอบถามเรื่องบ้านพักอาศัย เเต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเป็นบ้านพี่สาว จากนั้นเรื่องก็หายเงียบไปยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาช่วยเหลือเเบบเป็นรูปธรรม

เเต่อย่างไรก็ต้องขอขอบคุณนายกฤษดา โชติวานิชกุล นายก อบต.เเม่น้ำคู้ ที่ให้ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือเรื่องการเดินทางมารักษาที่ รพ.ระยอง นอกจากนี้ยังอยากขอขอบคุณประชาชนที่ทราบเรื่องราวของครอบครัวตน

ที่เเวะนำสิ่งของเครื่องใช้มาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจกัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วย

ด้าน น.ส.อรุณรุ่ง ลูกสาวคนโต เปิดเผยว่า กำลังศึกษาอยู่โรงเรียนปลวกเเดงวิทยาคม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผลการเรียนเฉลี่ย 4.00 เเละยังมีความสามารถด้านการร้องเพลง เคยชนะเลิศร้องเพลงลูกกรุงกับพระราชนิพนธ์ระดับชาติ 2 ปีซ้อน

เเต่ทุกวันนี้ชีวิตค่อนข้างลำบาก พ่อมีอาชีพรับจ้างทั่วไปหารายได้จุนเจือครอบครัวคนเดียว ที่พักอาศัยก็คับเเคบตนต้องไปอาศัยนอนอยู่บ้านยาย

เพราะบ้านเล็กมีเพียงเเต่พ่อเเม่เเละน้องสาวอาศัยอยู่เท่านั้u บางครั้งต้องขาดเรียนสลับกับน้องสาว พาเเม่ไปหาหมอ ฟอกไตที่ รพ.ระยอง ระยะทาง 50 กิโลเมตร เดินทางไปกลับรอหมอต้องใช้เวลาเป็นวัน

ซึ่งเเม่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทั้งด้านสายตา การเดินเหิน ต้องนั่งรถเข็น เเละยังต้องช่วยกันเปลี่ยนเเพมเพิสเช็ดตัวทำความสะอาด ยิ่งต้องเป็นห่วงเเม่มากไม่ยากทอดทิ้ง กลัวจะเกิดอุบัติเหตุ

ผู้สื่อข่าวเสริมอีกว่า ความกตัญญูของลูกสาวทั้ง 2 คนนั้น เป็นเเรงใจสำคัญยิ่งกว่าอื่นใด ที่ทำให้ชีวิต นางคมารักษ์ ผู้เป็นเเม่ให้ผ่านมรสุมหรือโรคร้ายที่ถาโถมเข้ามาทั้งที่กัดฟันสู้กันอย่างเต็มที่ เพื่อให้ชีวิตรอดพ้นจากเรื่อง เ ล ว ร้ า ย ไปได้วันต่อวัน

แหล่งที่มา mumkhao

เรียบเรียงโดย baansuann.com