“ศิริพร” แจงไม่รับงานในวงการ เดินสายบุญ ตั้งจิตไว้ว่าจะมีชีวิตอยู่บนโลกถึงแค่อายุ 59 ปี

วันนี้เราขอนำเสนอเรื่องราวของนักร้องฉายาแหบมหาเสน่ห์ นาง ศิริพร อำไพพงษ์ ที่ช่วงหลัง ๆ หายหน้าหายหน้าจากหน้าจอไป ล่าสุด ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ให้แฟน ๆ ได้หายคิดถึง ซึ่งเจ้าตัวได้เผยว่าโชคลาภที่ทุกคนเห็นว่าได้มาบ่อย ๆ นั้นเพราะเป็นความโชคดี

ส่วนงานในวงการเพลง ต่อจากงานนี้ของดรับงานแบบไม่มีกำหนด พร้อมเผยว่า เคยตั้งจิตไว้ขอมีอายุอยู่บนโลกนี้ถึงอายุเพียง 59 ปี เท่านั้u

ไม่รับเพราะเราตั้งใจไม่รับเลยเหรอ ?

“ตั้งใจไม่รับค่ะ”

สมมติติดต่อไปอยากให้พี่นางมาร้องเพลงที่งานนี้ช่วงนี้ก็ไม่รับ ?

“ไม่รับเลยค่ะ”

ทำไมพี่นางถึงไม่รับงาน ในเมื่อเราเป็นนักร้องหรือคิดว่าเราพอแล้ว ?

“เหมือนเรากินข้าวมันอิ่ม เห็นลูก ๆ หลาน ๆ น้อง ๆ เกิดขึ้นมาเยอะ ก็บอกทางบริษัทไปว่า “ถ้าหนูไม่รับงานได้ไหม” ทางบริษัทก็บอก “เอาเป็นบางงานได้ไหม”

ก็มีการพูดคุยบอกผู้หลักผู้ใหญ่ ตุ้ยเขาจะลำบากใจเพราะเขาดูแลเราอยู่ “ถ้างานไหนที่ขัดไม่ได้งานนี้พี่นางต้องไปนะ” ก็ไปค่ะ ไม่ใช่ว่าไม่รับเลยต้องดู ไม่ใช่ว่าหยิ่งหรือถือตัวเป็นงานที่มันไม่ได้สำคัญที่ว่าเราต้องไปแบบนี้ก็ขอทางบริษัท”

ถ้าถามว่า ณ วันนี้พี่นางถือว่าลาวงการแล้วอย่างนี้ได้ไหมหรือว่าสักวันนึงจะกลับมาร้องไหม ?

“ไม่ได้ลา คือจะไม่ลาวงการเลย แต่เราตกลงกับบริษัทว่าร้องน้อยลง เคยพูดคำว่าลาหลายครั้งมันไม่สำเร็จสักครั้งเลยไม่ต้องพูดเลยค่ะ”

อย่างล่าสุดได้ยินว่า พี่นางส่วนนึงที่ไม่รับงานอะไรเลยในวงการ เพราะตอนนี้ “ติดวัด” คือไปอยู่วัดเลยกิน นอน อยู่ที่วัด ไม่กลับบ้านเลยขนาดนั้นเลยเหรอ ?

“คือในตอนนั้น ก่อนที่จะโควิด พี่นางไปต่างประเทศกลับมา มันอาจจะเป็นดวงพี่นาง พอกลับจากเวียดนามเสร็จประมาณ10วันโควิดก็มา เราก็เชื่อในเรื่องบุญไง ก็ดูในที่เขาไลฟ์สดกันข่าวโน้นข่าวนี้ว่า คนที่จะอยู่ได้ต้องใส่สีขๅว เป็นพวกชีพราหมณ์ พวกชีผ้าขๅวอะไรอย่างนี้ ให้อยู่วัดให้นอนวัด

ความที่เราทำบุญอยู่แล้วเชื่อในเรื่องบุญอยู่แล้ว ก็บวชชีพราหมณ์เลย บวชชีพราหมณ์ได้ 9 วันก็สึกออกจากชีพราหมณ์ เราก็ต่อเลยถือศีล 5 ต่อเลย ไม่ได้บวชชีพราหมณ์มันก็เลยรันมา 4 เดือน 5 เดือน 6 เดือน ก็อยู่แบบนี้ ใครถามก็อยู่วัด”

ซึ่งอยู่แบบนี้มา 4 เดือนแล้ว ?

“4 เดือนเต็ม ๆ ที่ถือศีลอยู่นั่น”

รู้ไหมชีวิตพี่นาง อยู่ง่ายกินง่ายเรียบง่าย ไม่เคยทำตัวเป็นซุปเปอร์สตาร์ ไม่เคยทำตัวเป็นเศรษฐีใหญ่อะไรเลย แต่ในขณะเดียวกันบั้นปลายชีวิต ไม่หวังมีใครมาดูแล จนกระทั่งไปบริจาคร่างกายไว้แล้ว?

“หลายปีมาแล้วนะ เราก็ไม่ได้คิด ในการทำงานเหมือนกันเราก็ไม่ซีเรียส ถ้าเราทำงานอะไรขอให้มีความสุข อย่าไปซีเรียสอย่าไปฟังอย่างงั้นอย่าง คือเราทำงานตามหน้าที่ไป แต่บั้นปลายชีวิตเนี่ย เราไม่มีลูกจะบอกให้ใครมาดูแลเหรอ ลูกมาดูแลเหรอ แล้วลูกบางคนดูแลพ่อแม่หรือเปล่าเราต้องคิดอย่างนี้

ถ้าเราได้เจอแล้วว่ามันเป็นแบบนี้ ๆ วันนี้ก็เลยขอบริจาคร่างกายที่ขอนแก่น ศรีนครินทร์ บริจาคให้พระอาจารย์นี่แหละดูแล กับน้องชายอีกคนนึงดูแลมอบให้ว่าไม่ต้องให้พี่น้องมายุ่งยาก ไม่มาต้องเอาชื่อเสียงไปทำมาหากิน ระบุไว้เลยไม่ต้อง จัดงานให้ศิริพรอย่างนี้ ไม่ต้อง อย่าให้คนอื่นมาเดือดร้อน”

แล้วจริงไหมที่ถูกล็อตเตอรี่ 300 งวดติด ?

“มันเหมือนเป็นดวงเป็นบุญมากกว่า มันไล่มาเรื่อย ๆ”

ถูกแทบทุกงวดเลยใช่ไหม ?

“แทบทุกงวด ถ้างวดไหนไม่ถูกคือไม่ถูกเลยแม้แต่ใบเดียว”

เวลาเราซื้อมันมีอะไรผ่านเข้ามาในสายตา หรือเดินไปแล้วตั้งจิตอธิฐานแล้วคว้าเลย หรือแบบคืนนี้ขอให้ฝันนะ หรือต้องไปขอพระอะไรไหม?

“คิดว่าน่าจะเป็นดวงมากกว่านะ แต่ความเชื่อของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่สำหรับแม่นางนี้คิดว่าน่าจะเป็นบุญเป็นดวงที่เราทำบุญมาแบบไหนก็ไม่รู้ แต่ตัวแม่นางคือสมมติไปเสี่ยงเซียมซีมันตกลงมาทำไมเราไปลองซื้อดู ทำไมมันถูก น่าจะเป็นบุญ

บางครั้งเราก็ขอบ้าง ถ้าเมตตาเราก็จะได้สร้างต่อไป ตอนนี้กำลังสร้างพระอุปคุต พระแห่งความอุดมสมบูรณ์หรือพระปราบมารสูง 12 เมตรกว้าง 5 เมตร”

คือถูกหวยต่อเนื่องกันมาเกือบ 300 งวด บางคนก็เลยมองว่าไม่รับงานรวยแล้วได้เงินจากหวยไม่รับงานร้องเพลงแล้ว?

“รวยจริงค่ะ รวยบุญ ไม่ใช่ว่ารวยที่ว่าถูกล็อตเตอรี่อะไรนะคะ การที่เราซื้อพวกนี้ ถ้าเราพูดแบบนี้เหมือนชวนให้คนงมงาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราต้องมีสตินะคะ การพนันเป็นสิ่งที่ไม่ดีอยู่แล้ว

เรื่องถูกล็อตเตอรี่ไม่ใช่ถูกแต่ศิริพรมีมากมายหลายคนที่ถูก ถูกเยอะเป็นราวัลที่ 1 เป็น 90 ล้าน 100 ล้านก็มีแต่ศิริพรไม่เคยถูกรางวัลที่ 1 แต่รางวัลที่ 1 ที่พี่นางได้คือรางวัลบุญ แค่นั้นก็ถือว่าเป็นบุญแล้ว ไม่อยากให้แฟน ๆ หรือพี่น้องไปยึดติดในการซื้อล็อตเตอรี่หรือซื้อหวย”

แล้วมีคนมาขอเลข ซื้อตาม ถ้ามาเจอแบบนี้ปกติพี่นางจะพูดว่าอะไร ?

“คนมาขอนี่เยอะมาก ๆ แต่ว่าพี่นางก็จะพูดว่ามันเป็นเรื่องบุญ อยากได้ก็ขอใครขอมัน ไปขอปู่ได้เลย หรือขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเคารพ ขอคุณพ่อคุณแม่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นได้ทุกคนนะ คำอธิฐานก็ได้ทุกคน แต่มันเป็นบางเรื่องสมหวังก็เป็นบางเรื่องเป็นบางโอกาส สิ่งนี้พี่นางจะพูดอยู่ตลอด”

เพราะฉะนั้นจริง ๆ แล้วพี่นางถูกล็อตเตอรี่ที่บอกว่าได้มาเยอะแยะบอกว่ารวยบุญก็เพราะว่า เอาเงินไปทำบุญ เราพูดไว้ว่าสร้างวัดสร้างพระมากมาย ?

“ในความเชื่อของแต่ละคนมันก็ไม่เหมือนกัน ต่างคนต่างจิตต่างใจ แต่ในการที่เราอธิษฐานในเรื่องทำบุญ พูดอยู่เสมอว่า มันอยู่ที่ใจ ถ้าเราคิดดีทำดี ถ้าเราเจอกับตัวเราเองเราจะไม่ได้คิดว่าทำตามคนโน้นคนนี้ มันต้องที่ตัวเราคิดเองทำเอง ถ้าเราตั้งใจทำเนี่ย เราอธิฐานว่า

“ถ้าข้าพเจ้าศิริพร อำไพพงษ์เนี่ยมีบุญวาสนา ขอให้ข้าพเจ้าสร้างให้สำเร็จภายในเร็ววัน ให้ญาติโยมสายบุญสายธรรมหลั่งไหลมาทำบุญกับข้าพเจ้าด้วยนะเจ้าคะ”

นี่คือคำอธิฐานของพี่นาง แต่ที่นี้ทำไมเราอธิฐานแล้วมันเป็นจริง ในการสร้างทำไมมันเรียบง่าย มันมีความสุขด้วย ทำไมมันเสร็จไวปีเดียว พญานาคองค์ยาวเกือบ 1,500 เมตรแล้วให้เสร็จภายในปีเดียวคงเป็นไปไม่ได้”

พี่นางสร้างวัดนี้มาเป็นระยะเวลาทั้งหมดกี่ปี ?

“น่าจะ 7 ปีค่ะ”

แต่องค์พญานาคปีเดียวเสร็จเลย ?

“องค์พญานาคองค์ที่ยาวปีเดียวก็ไม่เสร็จ คู่ที่ลงมาจากถนนอันนี้ปีเศษ ๆ แต่ทางเข้าไปมัน เกือบ 1,500 เมตรคิดว่าปีที่3 น่าจะเสร็จ”

มันก็เลยไม่ได้เรียกชื่อวัดอะไรเรียก “วัดศิริพร” ถ้าไปถามว่าวัดศิริพรอยู่ไหนคนจะรู้จักจริง ๆ เขาชื่อวัดอะไร ?

“วัดป่าสว่างธรรมค่ะ ตรงที่เราสร้างมันเป็นป่าช้าเก่า เป็นวัดเล็ก ๆ แต่มันล้างไปแล้ว มีแค่ศาลาที่พี่นางทำกับชาวบ้านเล็ก ๆ แล้วก็กุฎิของหลวงพ่อเล็ก ๆ เท่านั้uเอง มี 2 อย่าง แต่ทีนี้ในรอบเกาะก็มีทางเท่าคนเดิน แต่ก็ไม่รู้ด้วยเหตุอะไรปีนั้น แดดก็แดดเป็นเดือนเมษาด้วย ร้อนสุดพี่นางก็ไปดูพี่น้องเขาอยากได้ว่าพระนาคปรก เอาที่แบบไม่ต้องแพงมาก

ชาวบ้านก็รวบรวมเงินกันบ้านเล็ก ๆ อ่ะเขาได้กัน 40,000 แต่เขาขอพี่นาง 50,000 ให้เป็น 90,000 ให้ไปสร้างพระนาคปรก แต่เขาทำไม่ได้ไง เหล็กก็วางไว้อย่างงั้น เอาเสาลงไปก็หัก เอาลงไปใหญ่ก็หัก ไม่รู้ด้วยเหตุอะไร พี่นางก็เลยไปนิมนต์พระอาจารย์นำชัย โชติรโต ที่วัดแม่ย่าซอม บ้านปากตะแบก อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้วมาดู

ท่านก็มาเพ่งจิตดูว่าปู่อยากอยู่ตรงนี้กลางแม่น้ำ ไม่ได้อยากอยู่ตรงนั้น ท่านก็เลยพาเอารถแม๊คโครมาตัก ทำเป็นถนนลงมา ที่มันก็เป็นน้ำนะมันเป็นเกาะ มันเหมือนถูกวางไว้แล้ว คล้าย ๆ คำชะโนดน่ะค่ะ มันมีอยู่แค่เกาะ ๆ นั้นเกาะเดียว หินเต็มไปหมด พระอารย์ว่าต้องเปิดภูมิ บอกเจ้าที่เจ้าทางเทวดาอารักษ์ที่ปกปักษ์รักษาอยู่ตรงนั้นมันถึงจะทำได้

พระอาจารย์เก่งนะจิตท่านเพ่งไป แต่ทำไมมันราบรื่นเราไม่ได้หาแบบว่าแจกซองมาวางศิลาฤกษ์วันนั้น ๆๆ เราไม่ได้หาเลย แต่คนทำไมถึงหลั่งไหลมา พระอาจารย์ท่านก็เลยบอกว่าอาจจะเป็น

1.บุญบารมีของปู่

2. บวกกับชื่อเสียงโยมพี่

3. เจ้าที่เจ้าทางท่านเห็นด้วย”

แต่ว่าตั้งจิตไว้ว่า ขอมีอายุแค่ 59 ปีนี่สิ ?

“คืออธิษฐานนานแล้ว จำได้น่าจะประมาณสัก 27 อายุ 27 อธิฐานว่าบอกแม่ หนูไม่อยากอยู่นาน เห็นคนแก่ ๆ ที่เขาเดินไม่ได้ ดูแล้วมันห่อเหี่ยวใจ ถ้าเป็นไปได้ข้าพเจ้าขออายุไขแค่ 59 ปี”

จากวันที่อายุ 27 ที่อธิษฐานระหว่างทางเคยมีอยากจะขอเปลี่ยนตัวเลขไหม ?

“ไม่ ไม่เคยอยากเปลี่ยน คือไม่อยากแก่ไปกว่านั้น แก่กว่านั้นมันจะเดินได้ลำบาก”

ปีนี้ 56 แล้ว แล้วอีก 3 ปี กลัวไหม ?

“ไม่กลัวหรอกค่ะ ยิ่งใกล้ยิ่งดี มันไม่ใช่ว่าหนีเรื่องร้ายอะไรนะ ยังไงเราก็ไปอยู่ดี คือคนเราต้องรู้ว่าเกิดมามี 2 อย่าง ทำดีกับไม่ดี ทำบุญกับบาปถูกมั้ย เราก็เลือกเอา ในเมื่อเรารู้แล้วเราก็จะทำบาปทำไม เราก็ทำบุญไม่ดีกว่าทำบาปเหรอ มันสบายใจกว่า ให้มีความสุข ไม่ขอมาเกิดด้วยค่ะ ไม่ขอมาเกิดด้วยจริง ๆ”

ชีวิตที่ผ่านมาของพี่นางผ่านมรสุมมาค่อนข้างหนักบ้าง อะไรคือสิ่งที่ทำให้เราสามารถที่จะผ่านพ้นมาได้อย่างรวดเร็ว มีวิธีคิด แนะนำใครหลาย ๆ คนที่เขาเจอปัญหาเหมือนอย่างที่เราเคยเจอไหม ?

“อันนี้ไม่ต้องไปแนะนำมากมาย ถ้าสมมติเราล้มเราไม่ลุกล่ะ สมมุติว่าคุณอั๋นเอาแม่ลุกแล้วแม่ไม่ลุกล่ะ มันก็ล้มไปเหมือนเดิมถูกมั้ย ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่ตัวเรา ถ้าไปนั่งร้องไห้ฟูมฟายเศร้าจะผูกคอทำร้ายตัวเอง คุณได้เงินเดือนหรือเปล่า คุณได้อะไรไหม ไม่มีเลย พี่นางนั่งร้องไห้วันเดียวคือจบเลย ครั้งเดียวคือจบเลยไม่มีอีกเลย

ก็อยู่ที่วางใจเรา ตัดสินใจให้ดี ขันติเราไม่ขันแตกอยากให้จำไว้ว่าอยู่ที่ตัวเรา ขาเรา แขนเรา มือเรา ปากเรา ตาเรา ปากพูดให้น้อย ๆ หูฟังให้เยอะ ๆ เพราะว่าปากเรามีอันเดียวพูดน้อย ๆ พูดมากมันผิดมากหูเรามี 2 อันฟังเยอะหน่อย เรื่องไหนดีเราเก็บเอาไว้เรื่องไหนไม่ดีก็เอาออกหูนี้มันอย่างนี้ ต้องยืนหยัดด้วยตัวเราเอง ไม่มีใครช่วยเราได้ จะเรื่องอะไรก็ตามอยู่ที่ตัวเราทั้งนั้น”

จะมีโอกาสได้เห็นพี่นางกลับมาร้องเพลงใหม่ ๆ ให้แฟน ๆ หายคิดถึงบ้างไหม ?

“ที่จริงพี่นางก็ร้องไว้หลายเพลงนะ สุดท้ายก่อนที่จะโควิดก็ “เสียงแคนที่หนองคาย” ก็มีอีกหลายเพลง “กรรมเก่า” แล้วก็มีอะไรอีก “ผู้หญิงหลายมือ” ที่ร้องผ่านมาแล้ว ก่อนที่เปรี้ยงปร้างก็มาโควิด แล้วก็มา “เสียงแคนที่หนองคาย” นี่แหละที่บริษัทให้ไปร้อง ก็กำลังเชียร์ ๆ อยู่ก็มาเนี่ย

นี่คือดวง แต่มันไม่มีเพียงเราคนเดียวมันมีหลายคน ก็ติดกันไปหมดระเนระนาวกันไปหมด แต่พี่นางเนี่ยดี ตกงานเหมือนกันแต่ไปตกในฐานบุญไง พี่นางก็เลยรอดกินข้าวก้นบาตร ไม่ใช่ว่ายากจนหรือลำบากนะ แต่มันเป็นบุญไงที่เราไปตกในฐานธรรม เลยไม่ต้องคิดอะไรมาก ตื่นมาทำกับข้าวได้ทำบุญทุกวัน”

แหล่งที่มา: khaosod

เรียบเรียงโดย baansuann.com