ลุงพลพูดอยากได้พัดลมให้วัด ตกบ่ายมีคนขนมาให้ 100 ตัว พระชี้เพราะผลของคำสาบาน

วันนี้เราจะมาติดตามกรณี เมื่อวันที่ 31 ส.ค.63 ที่ผ่านมา ได้มีรายงานว่าช่วงเช้า นายไชย์พล วิภา ลุงของน้องชมพู่ เดินทางนำน้ำอัดลม 1 แพ็ก, ไข่ไก่ 1 แผง, ธูป 1 ถุงใหญ่ และอาหารแห้งมาทำบุญที่สำนักสงฆ์เวฬุวัน ภูหลวง

เนื่องจากวานนี้ลุงพลได้นิมนต์ท่านไปงานประชุมเพลิงที่ต่างพื้นที่ และยังไม่ได้ทำบุญ ถวายปัจจัย ลุงพลจึงนำสิ่งของ และปัจจัยมาทำบุญวันนี้ จากนั้นลุงพลได้ประเคนภัตตาหาร ถวายสิ่งของ และถวายปัจจัย ก่อนกรวดน้ำรับศิลรับพร

 

พระอาจารย์สมบัติได้ให้พร ระบุว่า สิ่งไหนเป็นความดี เป็นบุญกุศล ให้พยายามสร้างไว้ สิ่งไหนที่ไม่ดี พยายามละเลิกให้สร้างคุณงามความดีให้กับตัวเอง โอกาสสำหรับที่จะทำความดีมีตลอด แต่บางทีเราละทิ้งโอกาส ก็เลยทำให้บางคนทั้งชีวิตปล่อยให้เสียโอกาส ไม่ได้สร้างคุณงามความดี ไม่สร้างกุศลให้ตัวเอง ก็อย่างที่เขๅว่า เกิดมาเสียชาติเกิด

ดังนั้นเราทุกคน เกิดมายังไม่เสีຍชีวิต ยังไม่เจ็บไข้ได้ป่วຍ ร่างกายแข็งแรงก็ให้สร้างคุณงามความดี เพราะชีวิตคนเราไม่แน่นอน ความเจ็บไข้ ความเสีຍชีวิตไม่ได้มีอะไรแจ้งเตือนเราก่อน เพราะไม่มีอะไรแน่นอน

ดังเช่นพระพุทธเจ้าบอกไว้ ให้ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท จากนั้นทิ้งท้ายขออนุโมทนาบุญ ที่เข้ามาทำบุญที่นี่ เพราะเส้นทางก็ค่อนข้างลำบาก ซึ่งจริง ๆ แล้วทำบุญที่ไหนก็ได้บุญเหมือนกัน

ลุงพล ระบุว่า ตนตั้งใจเดินทางมาทำบุญ เพราะวานนี้ตนพาพระอาจารย์สมบัติไปงานประชุมเพลิงพระ และบอกท่านไว้ว่าตนจะขึ้นมาทำบุญ ตนก็นำน้ำดื่ม อาหารแห้ง ขนม มาถวาย

รวมทั้งนำพระเครื่องที่ได้รับมอบจาก สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา อีกทั้งตนได้บูชาพระสีวลีมาด้วย เนื่องจากตนเองเคยบอกพระอาจารย์สมบัติเอาไว้ รวมแล้วตนใส่ปัจจัยไปประมาณ 2,300 บาท

ทั้งนี้ตนอุทิศบุญให้น้องชมพู่ทั้งหมด อีกทั้งตนก็มีความคิดจะถวายของเพิ่มเติมอีก อีกอย่างตนมีแนวความคิดว่า หากตนมีโอกาสที่จะนำกองกฐิน ผ้าป่า เข้ามาที่วัดภูหลวงบ้าง เนื่องจากเส้นทางเข้ามาค่อนข้างลำบาก และเป็นวัดที่ตนนับถือ ศาลาของวัดก็ยังไม่เสร็จ ซึ่งคนที่มาปฏิบัติธรรม เชื่อว่าจะได้มีพื้นที่ ๆ สะดวก

หลังจากลุงพลลงมาจากทำบุญ ปรากฏว่าที่บ้าน ก็มีรถจาก บริษัท สมบูรณ์อิเล็กทริค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผลิตพัดลมยี่ห่อวีฮัค ลุงพลใช้อยู่แล้วที่บ้าน ได้นำพัดลมขนาด 12 นิ้ว 100 ตัว และหลอดไฟแอลอีดีเกลียว 100 หลอด มอบให้กับลุงพล

นายธวัชชัย พุทธรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายขๅย บริษัท สมบูรณ์อิเล็กทริค จำกัด เปิดเผยว่า ตนนำพัดลม 100 เครื่อง ซึ่งหมายถึงความร่มเย็น ส่วนหลอดไฟ 100 ดวง

หมายถึง ความสว่างในการนำแสงสว่างให้กับบ้านกกกอก ส่วนตัวติดตามข่าว และเห็นลุงพลซื้อพัดลมยี่ห้อเดียวกันกับของตน จึงอยากนำของมามอบให้วันนี้ ซึ่งมูบค่ารวม 50,000 บาท ตนขอให้กำลังใจและขอให้ลุงพลได้มอบความร่มเย็น ความสุขต่อให้กับชาวบ้าน บ้านกกกอก

ด้านลุงพล ได้ยกมือพนมไหว้ขอบคุณ ก่อนจะน้ำตาคลอ และโอบป้าแต๋น ซึ่งป้าแต๋นได้บอกว่า เมื่อเช้าลุงพลพูดก่อนออกจากบ้านว่า ไปวัดแล้วัดไม่มีพัดลม อยากจะนำพัดลมไปถวาย ปรากฏว่าพัดลมก็มาที่บ้าน ลุงพล ถึงขั้นพูดไม่ออกได้แต่พยักหน้าและซับน้ำตา ซึ่งป้าแต๋นต้องช่วยตอบว่า ลุงพลมีความประทับใจที่เหมือนเราพูดไปแล้วมันเกิดผล

ลุงพล ก็บอกว่า เหมือนเรามีความรู้สึกอยากทำบุญในส่วนที่วัดไม่มี แล้วก็เกิดขึ้นออกจริง ๆ ส่วนของทั้งหมดคงจะนำไปบริจาคทั้งหมด และแบ่งเป็นสัดส่วน ให้เกิดทานบารมีสูงสุด

และได้มีรายงานว่าอีกว่า ในช่วงสาย ๆ ยังมีคนมาให้กำลังใจไม่ขาด มีทั้งคนเฒ่าคนแก่ บางรายอายุมากถึง 85 หรือบางราย 86 ปี อีกทั้งยังมี หลวงปู่ทอง ธีปธัมโม วัดบ้านหนองแหน ต.หนองแหน อ.กุดชุม จ.ยโสธร เดินทางมาเยี่ยมลุงพล และบอกว่า อาตมานั่งดูลุงพลแล้ว รู้เลยว่าลุงพลมีบุญเก่า ความดีทำให้เจริญขึ้น และตอนนี้ตัวลุงพลเองมีน้องชมพู่มาอยู่ด้วย

หลวงปู่ทอง ยังบอกอีกว่า แต่ก่อนน้องชมพู่ไปอยู่กับหลวงปู่เดือนชัย ก็ทำให้น้องชมพู่ดังไปในชั่วข้ามคืน หลังจากนั้นน้องชมพู่ก็ไม่ได้อยู่ด้วยแล้ว เพราะหลวงปู่เดือนชัยไปที่ จ.นครนายก ตอนนี้น้องชมพู่เห็นในความดีลุงพล จึงมาอยู่ด้วย ทำให้ลุงพลเจริญ ๆ ขึ้น

อาตมาดูลุงพล ดูจากทุกอย่าง แต่บางอย่างพูดไม่ได้ การพูดต้องพูดอย่างมีเหตุผล ส่วนตัวอาตมาต้องการมาให้กำลังใจ และเห็นความดีลุงพล ก็เลยเดินทางมา อาตมองลุงพลเป็นแม่แบบของความดี

เพราะลุงพลมีความอดกลั้นมาก หากไม่มีสิ่งเหล่านี้ก็อาจจะเกิดเหตุร้ายแรงขึ้น อาจจะทำคนเสีຍชีวิต หรือผูกคอจนสิ้นใจ แต่ลุงพลยังกลั้นไม่ทำได้ ลุงพลมีเรื่องที่รู้อยู่บ้าง แต่ไม่สามารถพูดได้ เพราะไม่มีหลักฐาน เนื่องจากการพูดต้องมีเหตุผลและหลักฐาน

เมื่อย้อนคำสาบานดูพบว่า นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ได้กล่าวคำสาบาน ต่อหน้าพระอธิการบุญมา, รูปปั้นเหมือนพระอาจารย์ลิ้น และสถูปธาตุพระอาจารย์ลิ้น โดยกล่าวนะโม 3 จบ พร้อมกับกล่าวคำสาบานคนเดียวดังนี้

ข้าแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย คุณพระศรีรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก พระแก้วมรกต พระสยามเทวาธิราชเจ้า ผู้ปกปักษ์รักษาประเทศบ้านเมืองแห่งนี้ ทรงโปรดเป็นประธาน

ข้าพเจ้านายไชย์พล วิภา ขอสาบานว่าถ้าข้าพเจ้ามีส่วนรู้เห็นเป็นใจในการเสีຍชีวิตของเด็กหญิงอรวรรณ วงศ์ศรีชา ขอให้ครอบครัวข้าพเจ้า มีอันวิบัติ มีอันฉิบหาย ให้เสีຍชีวิตไปกับน้องอรวรรณ วงศ์ศรีชา คือน้องชมพู่ ภายในเร็ววันด้วยเถิด

หลังกล่าวเสร็จลุงพลก็ก้มลงกราบ 3 ครั้ง และกล่าวต่อว่า แต่ถ้าข้าพเจ้าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการเสีຍชีวิตของเด็กหญิงอรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือน้องชมพู่ ขอให้ครอบครัวของข้าพเจ้ามีความสุขความเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ พ่อแม่ผู้มีอุปการะคุณจงมีความสุขยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยกันทุกท่านเทอญ

นายไชย์พล วิภา สาบานครั้งที่ 1 ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ในวันที่ 2 ก.ค.63 ความว่า “หากข้าพเจ้ากระทำผิดต่อชมพู่จริง ขอให้ทำลายชีวิตข้าพเจ้า และขอให้มีอันเป็นไปในเร็ววันด้วยเถิด”

การสาบานครั้งที่ 2 ในวันที่ 9 ก.ค.63 ที่วัดถ้ำภูผาแอก ความว่า “ถ้าข้าพเจ้ามีส่วนรู้เห็นในการเสีຍชีวิตของน้องชมพู่ ขอให้ครอบครัวข้าพเจ้าจงวิบัติ ขอให้ข้าเจ้าเสีຍชีวิตไปพร้อมน้องชมพู่ด้วย”

ในวันที่ 28 ก.ค.63 เป็นครั้งที่ 3 สาบานว่า “…ถ้าข้าพเจ้าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการเสีຍชีวิตของเด็กหญิงอรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือน้องชมพู่ ขอให้ครอบครัวของข้าพเจ้ามีความสุขความเจริญ…”

แหล่งที่มา: amarintv

เรียบเรียงโดย baansuann.com