เตรียมตัวเลย! ลงทะเบียน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ประจำปี 2564

สำหรับการ ลงทะเบียน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ทางผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ได้ให้ข่าวว่า ภายในไตรมาสที่ 4 หรือระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2563 อย่างแน่นอน โดยทางภาครัฐในเวลานี้ได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์ต่างๆ ดังต่อไปนี้

เงื่อนไขการสมัครบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่

– ผู้สมัครต้องเป็น คนสัญชาติไทยที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป

– ผู้สมัครที่ว่างงาน หรือมีรายได้ส่วนบุคคลต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี

– ผู้สมัครต้องไม่มีทรัพย์สินทางการเงิน เช่น เงินฝากธนาคาร, สลากออมสิน, สลาก ธ.ก.ส., พันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้

– ผู้สมัครถ้ามีทรัพย์สินทางการเงินดังข้างต้น จะต้องมีจำนวนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 100,000 บาทเท่ๅนั้น
ผู้สมัครต้องนำรายได้ต่อครัวเรือน นำมาประกอบการพิจารณาด้วย

– ผู้สมัครใดมีรถยนต์ จะถูกนำมาพิจารณาประกอบ หากมีรถยนต์มากถึง 2-3 คัน ถือว่าไม่สมควรได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

– ผู้สมัครที่มีหรือถือบัตรเครดิตอยู่ในมือ จะถูกนำมาพิจารณาประกอบ เพราะตามปกติคนที่มีบัตรเครดิตตามเงื่อนไขของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน เท่ากับว่า มีรายได้ต่อปีเกินกว่า 100,000 บาทต่อปี

เอกสารสำหรับลงทะเบียนสมัครบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่

– บัตรประชาชนตัวจริงของผู้ลงทะเบียนแบบ Smart Card

– สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาหน้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ลงทะเบียน

– สำเนาบัตรประชาชนผู้รับอุปการะ(ถ้ามี) ใบมอบอำนาจกรณีที่ตัวเองมาไม่ได้ บัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ

– สำเนาบัตรประจำตัวผู้พิกๅร (ถ้ามี)

– สำเนาเอกสารการลงทะเบียนว่าเป็นเกษตรกร (ถ้ามี) ใบรับรองแพทย์

– สำเนาหน้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ดูแล (กรณีผู้สูงอายุ ผู้พิกๅร ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้)

สิทธิประโยชน์ผู้ถือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้รับเงิน สนับสนุนจากรัฐบาล ในส่วนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอุปโภคบริโภค เช่น ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า และส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม ต่อคน โดยมีรายละเอียดดังนี้

1.ได้รับเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา จากร้านธงฟ้าประชารัฐ 200-300 บาทต่อเดือน อันนี้ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ (เงินเข้า 1 ส.ค.ที่ผ่านมา)

2.ได้รับเงินค่าค่าเดินทาง โดยรถโดยสารสาธารณะอันนี้ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ แบ่งเป็น ค่าโดยสารรถเมล์ รถไฟฟ้า 500 บาทต่อเดือน (รถไฟฟ้านี่ก็คือของ รฟม.และ BTS ได้หมด) ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน (เงินเข้า 1 ส.ค.ที่ผ่านมา)

3.ได้รับเงินค่าค่าน้ำ 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน โดยเราต้องออกไปก่อน แล้วเงินจะโอนคืนมาในช่วงกลางเดือนของเดือนนั้นๆ

4.ได้รับเงินค่าค่าไฟ 230 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน โดยเราต้องออกไปก่อน แล้วเงินจะโอนคืนมาในช่วงกลางเดือนของเดือนนั้นๆ

5.ผู้สูงอายุที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้รับเงิน 50-100 บาท ตามเกณฑ์รายได้ เงินเข้า 15 ส.ค.63 ส่วนเกณฑ์ก็คือ ผู้สูงอายุที่มีรายได้ 0-30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินช่วยเหลือ เดือนละ 100 บาท ผู้สูงอายุ รายได้ 30,001-100,000 บาท ได้เงินช่วยเหลือ เดือนละ 50 บาท

6.เงินพิเศษเพิ่ม 500 บาท สำหรับซื้อของสินค้าอุปโภค บริโภค (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้)

โดยรัฐบาลจะจ่ายให้แก่ท่านที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยจะโอนให้แก่ผู้มีสิทธิ์ ประมาณ 14 ล้านคน โดยจะโอนให้เดือนละ 500 บาทเป็นระยะเวลา 3 เดือน รับรวม 1,500 บาท โดน 1 ใบมี 1 สิทธิ์ รับเงินหากไม่ใช้หรือใช้ไม่หมดในเดือนนั้นจะสมทบไม่ได้และผู้ที่รับเงิน พิเศษเพิ่ม 500 บาท นี้จะไม่สามารถใช้ร่วมกับ

มาตรการคนละครึ่ง ที่จะตามมาในอนาคตได้ โดยเงินนี้ใช้สำหรับค่าใช้จ่ายในการซื้อของใช้ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต โดยใช้รูดซื้อสินค้าจากร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ หรือร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการโดยไม่สามารถกดออกมาเป็นเงินสดได้ต้องใช้บัตรเท่ๅนั้น วิธีคิด คำนวน รายได้สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ตัวอย่างที่ 1 ครอบครัว A มีสมาชิกในครอบครัว จำนวน 4 คน ผู้เป็นพ่อสามารถหารายได้ 400,000 บาทต่อปี ส่วนคนอื่นๆ ในครอบครัวไม่มีรายได้ วิธีคิด คือ รายได้พ่อ 400,000 บาท หารด้วยจำนวนสมาชิกในครอบครัว 4 คน เท่ากับ 100,000 บาท ย่อมเท่ากับว่า ครอบครัว A มีสิทธิ์ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ระบุด้วยว่า เกณฑ์การพิจารณาในรูปแบบใหม่นั้น ทำเพื่อแก้ไขปัญหาผู้ที่ไม่มีรายได้หรือรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด แต่กลับมีฐานะดี เนื่องจากได้รับการเลี้ยงดูจากลูกหลาน หรือบุคคลอื่นในครอบครัวบุคคล MoneyGuru แจกบัตรเติมน้ำมัน 1,500 บาท ฟรี

เพียงแค่ท่านซื้อประกันรถยนต์กับทางเว็บไซต์ MoneyGuru.co.th เนื่องจากในทุกวันนี้ การใช้รถใช้ถนนมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ตลอดเวลา ดังนั้นนอกจากผู้ใช้รถทุกคนต้องไม่ประมาทและควรระมัดระวังในการขับขี่แล้ว การทำประกันภัยรถนั้นก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยให้ท่านเพิ่มความอุ่นใจในการใช้รถใช้ถนนมากขึ้น

แหล่งที่มา : mumkhao.com

เรียบเรียงโดย : baansuann.com