ยายสู้ชีวิต ดูแลตานอนติดเตียง วอนสังคมช่วย อยากได้ทุนซื้อรถเข็นขๅยส้มตำ

วันนี้เราขอนำเสนอเรื่องราวของคู่ตา-ยายชาวบ้านทรัพย์ไพรวัลย์ อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก อาศัยอยู่ในเพิงพักในที่ดินผู้ใจบุญ อยากได้รถเข็นอุปกรณ์ค้าขๅยข้าวเหนียวส้มตำไก่ย่าง

เผยชีวิตลำเค็ญสามีวัย 65 นอนป่วຍติดเตียงมานาน 4 ปีแล้วขณะที่ภรรยาวัย 60 ต้องคอยดูแลตลอด มีเพียงเบี้ยเลี้ยงคนแก่และคนพิпารยังชีพ หลายมื้อต้องป้อนข้าวต้มกับน้ำปลาให้ตากิน

เรื่องราวชีวิตคู่ที่กำลังอยู่ในช่วงตกระกำลำบาก และอยากวิงวอนสังคมช่วยเหลือ ยายวัย 60 ปี ต้องคอยดูแลตาคู่ชีวิตวัย 65 ปีที่นอนป่วຍติดเตียงมาตลอด 4 ปี

จากอดีตที่ทั้งคู่เคยค้าขๅยเปิดร้านอาหารตามสั่งในตลาดทรัพย์ไพรวัลย์ได้ แต่ต้องขๅยทุกสิ่งทุกอย่างและมาปลูกบ้านพักที่ผู้ใจบุญให้อาศัย ณ บ้านทรัพย์ไพรวัลย์ ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก มีเพียงเงินจากรัฐเบี้ยผู้สูงอายุและเบี้ยคนพิпารเดือนละ 1,400 บาทบางมื้อต้องให้ตากินข้าวต้มกับน้ำปลา และซีอิ้ว

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านพักไม่มีเลขที่บริเวณหลังสวนยางพารา ใกล้เคียงโรงเรียนทรัพย์ไพรวัลย์วิทยาคม พบคู่ตา-ยาย นายสมศักดิ์ พรมมินทร์ อายุ 65 ปี และนางพัชรินทร์ พรมมินทร์ อายุ 60 ปี ทั้งคู่มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 15/26 ม.3 ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก

ส่วนบ้านที่พักในปัจจุบัน เป็นบ้านพักชั้นเดียวขนาดเล็ก ปลูกอาศัยแบบง่าย ๆ ในที่ดินของแม่พี ชาวบ้านทรัพย์ไพรวัลย์เจ้าของที่ดิน สภาพบ้านค่อนข้างเล็ก และทรุดโทรม ไม่มีหน้าต่าง ภายในกางมุ้งอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากบริเวณป่าเป็นป่าและมียุงเยอะมาก มีนายสมศักดิ์ พรมสิงห์ ที่ป่วຍจากอัมพฤกต์ ร่างกายซีกซ้ายอ่อนแรง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

ต้องนอนอยู่ในมุ้งตลอดเวลา โดยมีแพมเพริส สวมไว้ให้ ส่วนภรรยาคือนางพัชรินทร์ จะเป็นผู้ดูแลคู่ทุกข์คู่ยากทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งอาหารการกิน อาบน้ำเช็ดตัว เปลี่ยนแพมเพริส รวมถึงต้องออกไปตระเวนรับจ้างทั่วไป เพื่อหาข้าวสารมายังชีพ

นางพัชรินทร์ เปิดเผยว่า ตนและสามีเป็นคนภูมิลำเนาอยู่ในบ้านทรัพย์ไพรวัลย์ ต.แก่งโสภามาตั้งแต่เกิด ได้อยู่กินจดทะเบียนสมรสกันมาแล้ว 18 ปี ในอดีตเคยประกอบอาชีพเปิดร้านอาหารตามสั่งเล็ก ๆ ในตลาดทรัพย์ไพรวัลย์ ขๅยอาหารตามสั่ง ข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง

แต่แล้ว 4 ปีก่อน นายสมศักดิ์เริ่มมีอาการป่วຍ ร่างการซีกซ้ายไม่มีแรง จึงพาไปรักษาที่โรงพยาบาล 1 เดือนเต็ม แต่สภาพร่างกายก็ไม่สามารถกลับมาแข็งแรงดังเดิมได้ กลายเป็นผู้ป่วຍติดเตียง

จากนั้นชีวิตก็เริ่มตกต่ำอย่างต่อเนื่อง การประกอบอาชีพค้าขๅยเริ่มทำไม่ได้ เพราะต้องคอยดูแลนายสมศักดิ์ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ตลอดเวลา เริ่มขๅยอุปกรณ์การทำอาหารออกไปหมด และมาขอเพื่อนบ้านคุณแม่พี เจ้าของที่ดิน ที่รู้จักกันในช่วงค้าขๅย มาขออาศัยปลูกบ้านอยู่ แม่พีก็ใจดีให้มาอยู่อาศัยได้ โดยต่อไฟฟ้าและน้ำประปาจากเพื่อนบ้าน เสียค่าไฟเดือนละ 200 บาท

นางพัชรินทร์ เผยต่อว่า สภาพความเป็นอยู่ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาค่อนข้างลำบาก เพราะตนไม่สามารถออกไปรับจ้างตามปกติได้มาก ต้องกลับมาคอยดูแลนายสมศักดิ์ที่ต้องปล่อยให้นอนอยู่ในมุ้งตลอดเวลา และไม่มีญาติใด ๆ หรืออยู่เลย

เนื่องจากตนและนายสมศักดิ์ต่างเป็นลูกคนเดียว เมื่อพ่อแม่ทั้งคู่เสีย และตนก็ไม่มีลูกด้วยกัน จึงอยู่ในสภาพไร้ญาติ ที่ผ่านมา ได้รับความช่วยเหลือจากกำนันตำบลแก่งโสภา อบต.แก่งโสภา และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอวังทอง

แต่ทางราชการก็ไม่สามารถช่วยเหลือเป็นตัวเงินได้ตลอดเวลา ทุกวันนี้อาศัยเพียงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 600 บาทและเบี้ยคนพิпารเดือนละ 800 บาท รวม 1,400 บาท ในการยังชีพ ซึ่งไม่เพียงพอ

เพราะต้องใช้จ่ายในการซื้อแพมเพริสเพื่อเปลี่ยนให้นายสมศักดิ์วันละ 3 ชุด บางวันไม่มีเงินเหลือ ต้องต้มข้าวต้ม และเหยาะน้ำปลา เหยาะซีอิ้วให้สามีกิน แต่ยังโชคดีที่เพื่อนบ้าน เจ้าของที่ดินคือแม่พี จะคอยช่วยเหลือ แบ่งปันข้าวสาร กับข้าวให้ได้กินบ้าง

“อยากวิงวอนให้สื่อช่วยเป็นสื่อกลาง สื่อสารถึงสังคมขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญช่วยบริจาคให้เพื่อที่ตนจะนำเงินมาเป็นเงินลงทุนในการซื้อรถเข็นและอุปกรณ์สำหรับค้าขๅยข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง ที่เคยตนทำกินอยู่ เพราะจะสามารถออกไปค้าขๅยและเช้าเย็น สามารถกลับมาดูแลสามีได้” นางพัชรินทร์ กล่าว

สำหรับผู้ใจบุญประสงค์ช่วยเหลือคู่สามีภรรยาคู่นี้ สามารถติดต่อโดนตรงได้ที่นางพัชรินทร์ พรมมินทร์ หมายเลขโทรศัพท์ 097-9465531 หรือบัญชีธนาคารออมสินสาขาทรัพย์ไพรวัลย์ ชื่อบัญชีนางพัชรินทร์ พรหมมินทร์ บัญชีเลขที่ 020107412437

แหล่งที่มา: naewna

เรียบเรียงโดย baansuann.com