สาวเอาเงินไปฝากธนาคาร 1 ล้าน พนักงานทำทีแปลก ๆ ก่อนนับเหลือแค่ 9 แสนกว่าบาท

วันนี้เราจะมาติดตามกรณีของสาวหล่อที่โพสต์ขอความเป็นธรรม โดยเรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อวานเราได้นำเงินจำนวน 1,000,000 บาท ไปฝากที่ธนาคารแห่งหนึ่งในห้างแห่งหนึ่งใน อ.ศรีราชา โดยมีการนำเงินสดจากบ้านไปเป็นจำนวน 7 แสนบาท (เรามั่นใจมาก ๆ ว่าได้นับครบทุกบาทแล้ว ไม่มีขาดแน่นอน เพราะนับมา 2 รอบแล้ว ก่อนออกจากบ้าน)

และมีการไปถอนเงินหน้าตู้ของ SCB อีกเป็นจำนวน 3 แสนบาท รวมทั้งหมดเป็นเงิน 1 ล้านบาทถ้วน…โดยการถอนหน้าตู้ของ SCB ได้มีเจ้าหน้าที่ของแบงค์ได้ยืนอยู่ด้วย เนื่องจากเราได้ขอให้เขามาช่วยเปลี่ยนแปลงวงเงินการถอนในวันนั้น

จากนั้นพอถอนเงินเสร็จก็เดินไปแบงค์ที่เราจะเอาเงินไปฝากเลย โดยไม่ได้แวะที่ไหนเลย (แบงค์ที่ถอนกับแบงค์ที่จะเอาเงินไปฝาก อยู่ในห้างเดียวกัน แต่แค่อยู่คนละชั้นกัน) พอไปถึงแบงค์ที่จะเอาเงินไปฝาก เราก็หยิบเงินที่พึ่งถอนมาให้ก่อนในครั้งแรก แล้วก็ทะยอยหยิบเงินอีก 7 แสนบาทที่นับมาจากบ้าน (เงินที่นำมาจากบ้านไปมัดไว้เป็นปึก ๆ 1 แสนบาท) ออกมา

แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้นับเงินทีละกอง แต่ได้แกะเงินที่มัดมาออกแล้วนำไปรวม ๆ กันแล้วให้เครื่องโปรยเงินออกมา ในช่วงนั้นเจ้าหน้าที่มีการหยิบเงินเข้าออกหลายครั้ง และได้นำเงินเราวางไว้ 3 จุด

1. จุดที่เครื่องโปรยเงิน

2. เอาเงินบางส่วนไว้ข้างคีย์บอร์ดที่โต๊ะทำงานเขา

3. ได้นำเงินบางส่วนใส่เครื่องนับเงินด้านหลัง (บอกเลยในตอนนั้นเราดูตามไม่ทัน เพราะมันหลายจุด)

แล้วเขาไม่ได้แจ้งให้นับเงินพร้อมกันเหมือนของแบงค์อื่น คือเขาทำทุกอย่างพร้อม ๆ กัน

พอเขานับเงินเสร็จ สุดท้ายแจ้งว่ามีเงินอยู่ 971,000 บาท หายไป 29,000 บาท พอเขาแจ้งมาแบบนั้น เราทักท้วงทันทีว่าขอดูกล้องวงจรปิด ซึ่งเขารับเรื่องจนเวลาล่วงไปนานมากแล้ว เราจึงทวงถามอีกทีว่า กล้องวงจรปิด เป็นอย่างไรบ้าง

เขาจึงแจ้งกลับมาว่า ต้องนำหนังสือแจ้งความมาถึงจะสามารถให้ดูได้ แต่เบื้องต้นเขาบอกว่าได้ดูแล้ว ไม่มีอะไร เราจึงไปแจ้งความเพื่อขอเอกสารทางจาก สน. เพื่อกลับมาดูกล้องวงจรปิด

หลังจากนั้นก็รีบไปแจ้งความ เพื่อเอาใบแจ้งความมาขอดูกล้องวงจรปิด ปรากฏว่า พนักงานให้ไปที่ ธนาคาร SCB เพื่อให้ขอดูว่าเงินที่กดมาครบไหม ตกหล่นตรงนั้นรึเปล่า ทางเราได้ติดต่อไปยัง ธนาคาร SCB เพื่อขอดูกล้อง พนักงาน SCB เชิญเราให้เข้าไปนั่งดูกล้องวงจรปิดย้อนหลัง ในห้อง Server โดยตรวจสอบแล้วได้เงินมาครบ จำนวน 300,000 ไม่ได้ติดค้างตรงนั้นและไม่ได้ตกหล่นตรงนั้น

จึงได้ไปแจ้งเขาว่า เราไปตรวจเช็ดมาแล้วไม่มีเงินติดค้างใด ๆ ดังนั้นจึงได้ยื่นใบบันทึกประจำวันเพื่อขอดูกล้อง หลังจากนั้นไม่เกิน 1 นาที เจ้าหน้าที่ให้ดูคลิป ย้อนหลังจากมือถือ (โดยคลิปดังกล่าวได้มีการเตรียมไว้ให้แล้ว โดยรู้สึกว่าคลิปดังกล่าวถูกตัดให้ดูในมือถือ และอีกอย่างคลิปนั้นไม่มีความชัดเจนเลย จึงจะขอดูกล้องอีกตัวเพิ่ม เจ้าหน้าที่พูดว่า กล้องตัวนี้ชัดที่สุดแล้ว)

ประเด็นที่ติดใจ

1. ถ้าทางธนาคารบริสุทธิ์ใจจริง ๆ ทำไมไม่ให้เราเข้าไปดูในคอมพิวเตอร์ เหมือนทาง SCB ที่เชิญเราเข้าไปแล้วดูไปพร้อม ๆ กัน

2. ทำไมให้ดูแต่กล้องตัวเดียว ทั้ง ๆ ที่ธนาคารมีกล้องตั้งหลายตัว

3. ทำไมให้นั่งรอนานเป็นชั่วโมง ถึงจะมาแจ้ง ว่าต้องไปแจ้งความถึงจะสามารถดูกล้องได้ (ระหว่างนั้นทำอะไร)

4. เวลาให้ดูคลิปก็มีการตัดคลิปจากกล้องเอามาให้ดูในมือถือ (แบบนี้เราจะมันใจได้ไงว่าไม่มีการตัดคลิปบางส่วนออก)

5. อีกประเด็นที่เราสงสัยที่สุดคือ ปกติ ถ้าเรานำเงินไปฝาก พนักงานจะใช้เครื่องนับเงินทีละ 100,000 (ทีละปึก) แต่พนักงานคนนี้ นำเงินทั้งหมดมารวมกัน และใช้เครื่องนับเงิน ไม่มีความชัดเจนระหว่างการนับเงิน มีการนำเงินเราวางไว้หลายจุด ทำให้เรามองตามไม่ทัน เราจึงรู้สึกเคลือบแคลงใจในจุดนี้

**ผจก.เขาบอกกับเราว่า เด็กเขามาจากต่างจังหวัด มาทำงาน เขาไม่ทำลายอาชีพเขาแบบนั้นหรอก

ปล. 1. อยากบอกว่า เราก็เป็นคนนึงที่เป็นเจ้าของบริษัท เราก็คงไม่คิดที่จะเอาความเสียหายของบริษัทไปแลกกับเงิน 2 หมื่นกว่าบาท เหมือนกัน มันไม่คุ้ม (ไม่มีใครอยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหรอก)

2. เมื่อวานที่เราไปฝากเงิน เพราะจะต้องโอนเงินไปจ่ายค่าสินค้าที่จะสั่งเข้ามาจากต่างประเทศ พอเกิดเรื่องนี้ขึ้น ทำให้เราโอนเงินไปจ่ายไม่ทัน ต้องเลื่อนเรือออกไปอีก ทำให้สินค้ามาถึงไทยไม่ทันตามแพลนที่วางไว้แต่แรก (ถามจุดนี้ ทางเราเสียหาย ใครจะรับผิดชอบในกรณีนี้)

แค่อยากได้ความชัดเจน เพราะเราก็มั่นใจว่าเรานำเงินไปครบ

…ถ้าวันนึงมีคนไปฝากเงิน 10 ล้าน แล้วบอกว่าได้รับแค่ 9 ล้าน อีก 1 ล้านหายไป ถามหน่อย ว่าคนที่นำเงินไปฝากเขาต้องเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนเงินที่หายไปเหรอ มันแฟร์กับเขาแล้วเหรอ

#ตอนนี้ทางแบงค์อยู่ระหว่างการตรวจสอบอยู่ เราก็หวังว่าจะได้ความชัดเจนในเรื่องนี้

#ฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ ต่อไปคงต้องระวังให้มากกว่านี้

#กฎแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ

แหล่งที่มา: mgronline

เรียบเรียงโดย baansuann.com