ชีวิตป้าหลั่งน้ำตากลางร้าน ไม่มีบ้านอยู่ ลูกสาวติดต่อไม่ได้ ลูกชายป่วછทางจิต

จากกรณีที่มีคุณป้าวัย 65 ปี หลั่งน้ำตา กลางร้านหลังได้เงิน 500 บาท เพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ชีวิตจริงสุดเศร้าเมื่อรู้ว่าคุณป้าไม่มีแม้บ้านอยู่ ซ้ำลูกชายป่วછจิตเวช

เนื่องจากรัฐบาลอนุมัติเงินช่วยเหลือเยียวยา และลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่กลุ่มผู้มีบัตรฯ ประมาณ 14 ล้านคน ในช่วงที่มีสถานการณ์ COVID-19 อีกเดือนละ 500 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน

กระทั่งมาทราบต่อมาว่านางชวร ซ่อนกลิ่น ร้องไห้เพราะความดีใจ ที่ได้อาหารมาต่อชีวิตให้กับ 3 ชีวิตในครอบครัว เพราะทั้งบ้านไม่มีอาหาร ไม่มีเงินติดตัว จนเป็นที่สงสารกับผู้พบเห็นและพนักงานของห้างเป็นอย่างมาก

จากการตรวจสอบที่บ้านของนางชวร พบเป็นบ้านไม้ยกสูงเลขที่ 26/1 หมู่ 14 ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน ซึ่งเป็นบ้านของน้องสาว ทั้งหมดอยู่ด้วยกัน 3 คน มีสามีอายุ 67 ปี และลูกชายอายุ 35 ปี

สอบถามนางชวร เล่าว่า ตนมีลูก 2 คน ลูกสาวแต่งงานแล้วหายไปติดต่อไม่ได้ ลูกชายทำงานเป็น รปภ.ที่กรุงเทพฯ แล้วกลับมาช่วงโควิด-19 ก่อนจะมาป่วછเป็นจิตเวช ตอนนี้อยู่ด้วยกัน 3 ชีวิต

สาเหตุที่ร้องไห้ที่ร้านซุปเปอร์มาเก็ต เพราะดีใจสุดชีวิต เมื่อรุ้ว่าสามารถใช้บัตรซื้อของได้อีก 500 บาท เพราะทั้งบ้านไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว มีเพียงข้าวสารที่ใช้เงินเบี้ยคนชราไปซื้อไว้ ส่วนกับข้าวกินน้ำพริกทั้ง 3 เวลา เงินจำนวน 500 บาท ที่ได้จากรัฐบาลครั้งนี้ถือว่าต่อชีวิตได้จริงๆ

นางสุวรรณี รีเตอร์ อายุ 40 ปีเพื่อนบ้านนางชวร กล่าวว่า เป็นครอบครัวที่น่าสงสาร เพราะเสาหลักของบ้านคือลูกชายที่ไปทำงานส่งมาให้พ่อแม่ กลับป่วછเป็นโรคจิตเวช เท่ากับทั้ง 3 ชีวิต จะมีรายได้จากเบี้ยงคนชรารวมกันเดือนละ 1,200 บาท ส่วนบ้านน้องสาวให้เฝ้าให้ นางชวร มีเพียงที่ดินเปล่าซึ่งเป็นมรดกของแม่ แต่ยังไม่มีเงินสร้างเป็นที่อยู่อาศัย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากมีการนำเสนอความทุกข์ของนางชวร โลกออนไลน์ต่างออกมาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก ล่าสุดนายรังสิกร ทิมาตฤกะ สส.ในพื้นที่ได้ให้ทีมงานนำข้าวสารไปมอบให้เบื้องต้นแล้ว

 

แหล่งที่มา : onbnews.today

เรียบเรียงโดย : baansuann.com