“ปู แบล็คเฮด” เตรียมขอ “นุ๊กซี่” แต่งงาน แต่ก็ไม่มีวันนั้นแล้ว

ปู-อานนท์ สายเเสงจันทร์ หรือ ปู เเบล็คเฮด ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนเป็นครั้งเเรก หลังต้องสูญเสียเเฟนสาว นุ๊กซี่-อัญพัชญ์ วัฒนาตันติรัตน์ หลังจากที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวจากอาการป่วຍด้วยโรคมะเร็ง

โดย ปู เเบล็คเฮด ได้เผยด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอน พูดถึงเรื่องราวทุกอย่างให้ฟังว่า “จากการวินิฉัยของคุณหมออาการล่าสุดที่เข้ารพ. จริงๆ ไม่ได้ดีขึ้น เเต่นุ๊กเขาจะไม่อยากบอกใครว่ามันไปถึงไหน อาการเป็นยังไงเเล้ว เเล้วอีกอย่างผมเองก็ไม่ได้บอกกับนุ๊กทั้งหมดว่ามันไปถึงไหนเเล้ว”

“หลังจากที่ผ่าเต้านมออก ก็เข้าต่อมน้ำเหลือง ก็เลาะต่อมน้ำเหลืองออกข้างหนึ่ง เเล้วก็ไปที่สมอง เเละลงมาที่ปอด คือตอนนี้ทั้งหมดทั้งสิ้นมันอยู่ในระยะเเพร่กระจายครับ มันก็ไปทุกที่เเล้ว เข้าไปในทาง เ ลื อ ด ทางต่อมน้ำเหลือง จนมันมีภาวะของการเป็นลิ่ม เ ลื อ ด อุดตันที่ปอด เลยหายใจเหนื่อຍ เเละหายใจไม่ออก เเล้วก็หลับ”

“นุ๊กเข้ารพ. ตั้งเเต่วันที่ 7 มี.ค. ครับ ก็เกือบเดือน เดิมทีคุณหมอบอกว่าถ้ารักษาไวรัสที่ปอดเเล้วพอดีภูมิเขาตกมากๆ มันก็เกิดภาวะอะไรเเทรกซ้อนได้เยอะ ล่าสุดที่เข้าไปก็เป็นไวรัสที่ปอดด้วย เอ็กซเรย์ออกมาก็เห็นเป็นฝ่า เขาก็ไปวินิจฉัยเเล้วน่าจะเป็นตัวไวรัส ก็ให้ยากำจัดเชื้อ”

“พอให้ยากำจัดเชื้อ มันก็ต้องชะลอการให้คีโมอีกครั้งหนึ่งไป มันใช่เวลาเกือบเดือนครับ พอให้คีโมล่าช้ามันก็โตขึ้น พอโตขึ้นก็ทำให้ภาวะต่างๆ นานามันเเทรกซ้อนเยอะมาก เเละอย่างที่บอกคือมันก็ทำให้เกิดลิ่ม เ ลื อ ด อุดตันที่ปอด เลยหายใจไม่ออกครับ”

“วิธีการรักษาเริ่มต้นตอนเเรกเลยคือได้ผ่าเต้าออก เสร็จเเล้วพอเช็กเจอพวกต่อมน้ำเหลืองก็ยังมีอยู่ในส่วนของเต้านมเเละปอดครับ ก็เลยต้องไปให้คีโม ให้คีโมเสร็จก็เจอที่สมอง ก็ต้องฉายเเสงอีก ก่อนนั้นให้คีโมไป 18 ครั้ง ฉายเเสงอีก 10 ครั้ง

เเละจริงๆ ต้องให้คีโมเเบบทานเป็นยาเม็ดอีกรอบหนึ่ง ซึ่งยังไม่ทันได้ให้ครับ เพราะเราต้องรักษาไวรัสที่ปอดอย่างที่บอกไป”

เห็นว่าจะได้กลับบ้านเเล้ว ?

“คือคุณหมอบอกว่า 29-30 นี้ น่าจะมีเปอร์เซ็นต์ได้กลับบ้าน เพราะค่าของไวรัสที่ปอดที่มันมีประมาณ 30,000 ล่าสุดหมอบอกว่ามันเหลือเเค่ 200 ถ้าเหลือ 50 หมอให้กลับบ้านเลย เเละยาคีโมก็ให้กินเอา ให้กลับไปกินได้”

“เเต่เขาบอกว่ามันเป็นภาวะเฉียบพลันมาก ตรวจไม่รู้มาก่อนว่ามันจะมีภาวะของลิ่ม เ ลื อ ด ที่มันเเข็งตัวเเละไปอุดตัน”

นุ๊กซี่นอนหลับไปเลยใช่ไหม ?

“คือตอนนั้นพอดีผมได้ออกไปทำงานในคืนนั้น ผมก็จ้างพยาบาลเฝ้า พยาบาลก็โทรมาหาบอกว่า พี่ปู พี่นุ๊กไม่ไหวเเล้ว พี่นุ๊กเหนื่อຍมาก ผมก็เลยบอกโอเค เดี๋ยวผมจะรีบเข้าไป เเละพอสักพักผมโทรกลับไปหาอีกทีว่าผมจะเข้าไปได้ไหม เพราะจะต้องมีการตรวจ RT-PCR

ก่อนเข้า ก็ยังไม่ทันได้ตรวจครับ ผมเลยบอกถ้าอย่างนั้น ATK อย่างเดียวได้ไหม ตรวจเเบบฉุกเฉินของรพ. เขาก็บอกได้ เพราะตอนนี้น่าจะต้องรีบมาเเล้ว ก็เลยรีบขึ้นไป พอขึ้นไปเขาก็ปั๊มหัวใจ”

“เขาปั๊มหัวใจอยู่ประมาณ 10 ครั้งครับ ชีพจรเขาอ่อนเเรงลงไปเรื่อยๆ ถ้าเขาหยุดเมื่อไหร่ หมอก็ต้องปล่อย”

ตอนนั้นเราได้บอกอะไรกับน้องไว้ไหม ?

“เขาเคยพูดกับผมไว้ว่า (น้ำตาคลอ) ถ้าอยู่ในภาวะนี้ อย่าปล่อยให้เขารู้เรื่องเเต่ทำอะไรไม่ได้ ให้ถอดท่อออก เเล้วก็ปล่อยเขาไป เขาพูดไว้ประมาณเดือนหนึ่งครับ”

ที่ผ่านมาน้องสู้เยอะมาก ?

“สู้มาเยอะมาก เเละจิตใจดี เเข็งเเรง เขาไม่อยากให้ใครเป็นห่วง ไม่อยากให้คนใกล้ตัว เเม้เเต่คุณเเม่ผม พี่น้องผมที่อยู่บ้านใกล้ๆ กัน หรือคุณพ่อคุณเเม่เขาเอง เขาก็บอกว่าอย่าไปบอกนะว่าตอนนี้เราไปถึงไหนเเล้ว เป็นอะไรบ้างเเล้ว เพราะไม่อยากให้เขาเป็นห่วง เเม้เเต่พวกพี่ๆ สื่อมวลชนก็ตาม เขายังไม่อยากให้สัมภาษณ์

เพราะกลัวว่าถ้าให้สัมภาษณ์ไปปั๊บจะมีปากต่อปากไปถึงคุณพ่อคุณเเม่ เเล้วท่านจะเสียใจมาก เเล้วถ้าทุกคนเสียใจ ทุกคนก็จะโทรมาหาเขา เขาจะรู้สึกไม่โอเคมากๆ เพราะที่ผ่านมาเขากำลังใจดีมาตลอด”

“ปกติเขาเป็นคนเเบบนี้อยู่เเล้ว จะคิดถึงเเต่คนอื่นก่อนตัวเอง”

ถึงเเม้ในใจเราจะเเอบรู้สึกไม่ดีเหมือนกัน เเต่เราก็ต้องสร้างพลังบวกให้กับน้องอยู่เสมอ ?

“ใช่ครับ ก็อยู่ด้วยกันเเบบสนุกสนาน ก็ต้องมาดูเเลกัน ต้องไม่บอกว่าสภาพเขาเป็นยังไง ต้องไม่บอกว่าเขาเเตกต่างจากเมื่อก่อนไหม เพราะพอมันเป็นโรคนี้สภาพร่างกายมันก็เปลี่ยนไปเยอะ เขาเองยังไม่อยากรู้เลยว่าตัวเองไปถึงไหน”

“ก็ต้องให้กำลังใจกันครับ ผมก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวมันก็หาย อย่างสมมติตัวบวม เดี๋ยวมันก็หาย ถ้าไม่มีเเรงเดี๋ยววันนึงกินโปรตีนเยอะๆ นะ เดี๋ยวก็มีเเรงขึ้นมา ก็พยายามทีละสเต็ปไป เพราะเอาเข้าจริงๆ เเล้วโรคเเบบนี้คุณหมอได้บอกไว้ว่าประมาณสักปีหนึ่ง เเต่นี่ยังไม่ถึงเดือน”

เขามีร้องไห้บ้างไหม ?

“มีบ่อยครับ ร้องไห้เเบบเขาอยากกลับบ้าน อยากกลับไปหาคนนู้นคนนี้ เเม้กระทั่งหมาที่บ้าน ดูรูปหมาก็ร้องไห้”

เห็นว่าจะขอเเต่งงานด้วย ?

“ใช่ครับ ผมคิดไว้ตั้งเเต่เเรกเเล้ว ผมคิดว่าถ้าเขาเเค่อาการดีขึ้นกว่านี้นิดนึง (น้ำตาคลอ) เพราะเขาพูดตลอดเวลาว่าเขาอยากมีงานเเต่งงานเล็กๆ เเบบไหนก็ได้ เอาเเบบเท่าที่ทำได้ ณ ตอนนี้ ผมอะคิดไว้ เเต่ก็รอดูว่าเขาจะไหวไหม คือความฝันของเขาเลย”

เสียดายไหม เพราะเรายังไม่ทันได้จัดงานให้เขา ?

“เสียดายสิ เพราะผมคิดว่าถ้าออกจาก รพ. มาครั้งนี้ ก็จัดงานเเต่งงานเล็กๆ กันเนอะ มีครอบครัวซึ่งกันเเละกัน เเละก็มีพี่น้องเท่านั้u”

ก่อนที่เขาจะจากไป เราได้บอกกับเขายังไงบ้าง ?

“ไม่ทันได้พูดอะไรเลยครับ เพราะทุกอย่างมันเร็วมาก ผมเข้าไปก็เห็นเเต่ภาพการปั๊มหัวใจอย่างเดียวครับ”

ที่ผ่านมา น้องก็ดูเป็นห่วงเรามาโดยตลอด ?

“ใช่ครับ เขาบอกที่เขาทำอะไรไม่ได้ เขาห่วงเรา เพราะเขาอยากดูเเลเรา วันที่เราเดินทางมาเจอกัน เขาบอกว่า หนูจะได้ดูเเลพี่ เพราะพี่อายุเยอะเเล้ว (ยิ้ม) เดี๋ยวพี่เเก่ไป หนูจะดูเเลเองนะ เดี๋ยวหนูจะหางานมาให้พี่เยอะๆ นะ

เเม้เเต่ค่ารักษาการเจ็บไข้ได้ป่วຍ เขาบอกว่าตอนนี้พี่ออกไปก่อนนะ ถ้าหนูออกมา หนูเเข็งเเรง หนูจะหาเงินมาให้พี่เยอะๆ เขาคิดเยอะมากเรื่องพวกนี้”

“ซึ่งเขามีความตั้งใจที่จะดูเเลเรา เขาไม่อยากให้เราเหนื่อຍ พอเห็นเราเหนื่อຍต้องไปทำนู่นทำนี่ เเทนที่เขาจะได้ดูเเลเรา เเต่เรากลับต้องไปดูเเลเขา”

หลายคนเป็นห่วงเราตอนนี้ สภาพจิตใจเป็นยังไงบ้าง ?

“ตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยเเข็งเเรงหรอกครับ เเต่คิดว่ามันก็น่าจะดีขึ้น เเต่ช่วงนี้ยังคิดอะไรไม่ออกครับ”

นุ๊ก ถือเป็นรักเเท้สำหรับเราเลย ?

“ใช่ครับ ก็ถือว่าที่สุดเเล้วของชีวิตตอนนี้ ไม่รู้ว่าด้วยอะไร ไม่รู้ว่าใช่เรื่องที่มันถึงวัยหรือเปล่า หรือด้วยความดีของเขา หรืออะไรหลายๆ อย่าง มันทำให้รู้สึกว่าคือที่สุดเเล้วครับ”

อยากอยู่กับผู้หญิงคนนี้ไปตลอด ?

“ก็คงได้อยู่ตลอดเเหละ ตอนนี้ไม่ว่าจะยังไงก็เเล้วเเต่ เขาก็รู้เเหละว่ายังไงผมก็มีเขาไปตลอด ตอนนี้เขาก็สบายเเล้ว ต้องขอบคุณพี่ๆ ทุกคนด้วยที่เอ็นดูน้องนุ๊ก เเละสนใจในเรื่องราวของน้องนุ๊กมาโดยตลอด ขอบคุณมากๆ ครับ”

“ขอบคุณคุณหมอ พยาบาลที่รักษาน้องนุ๊กมาตลอดนะครับ เเละเเฟนคลับทุกคนที่ไม่ว่าน้องนุ๊กจะลงโซเชียลอะไรใดๆ ไป ก็จะมีเเต่คนมาให้กำลังใจ เเละสมาคมที่เกี่ยวกับโรคมะเร็ง ที่ยึดนุ๊กเป็นหนึ่งกำลังใจให้กับคนที่เป็นโรคมะเร็งทั่วประเทศนะครับ ก็ถ้าเป็นเเล้วก็ต้องสู้เเบบนุ๊ก ถึงเเม้วันหนึ่งจะยังไงก็เเล้วเเต่ บางคนก็หายนะ

เเต่บางคนก็ไม่ได้โชคดีเสมอไป อย่างนุ๊กเองก็สู้เต็มที่ ถึงเเม้จะรู้ว่าตัวเองก็ไม่เป็นคนโชคดี ซึ่งก็ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ป่วຍโรคมะเร็งทุกๆ คนด้วยเเล้วกันครับ เเล้วก็ขอบคุณเเฟนคลับทุกคนเเทนน้องนุ๊กด้วย”

แหล่งที่มา sanook

เรียบเรียงโดย baansuann.com