หมดยุค ปริญญาแปะฝาบ้าน เพราะทักษะชีวิตทักษะอาชีพสำคัญกว่า

ในยุคปัจจุบันการแข่งขันเริ่มสูงขึ้น เด็กจบใหม่มีมากขึ้นทุกวัน ซึ่งหลากหลายสถาบันหลากหลายสาขาอาชีพ หากจะพูดถึงสมัยก่อน เรามักถูกย้ำว่า เรียนจบ ปริญญา จะได้เป็นเจ้าคนนายคน แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ปริญญาไม่ได้การันตีว่าจะมีการงานที่มั่นคงได้ วันนี้จึงอยากบอกทุกคนว่าอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญคือทักษะอาชีพหรือประสบการณ์

 

ประเด็นแรกเรื่อง การศึกษา

ปัจจุบันการศึกษาเล่าเรียนเป็นเรื่องของผู้เรียนเพียงคนเดียว จะเรียนดีเรียนแ ย่ก็อยู่ที่คนเรียนเองทั้งนั้น พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ หรือญาติพี่น้องทั้งหลาย ก็ไม่สามๅรถช่วยอะไรได้ สถาบันการศึกษาที่เรียนจบมาก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจริง แล้วอยู่ที่ฝีมือตัวเองล้วน เมื่อผ ลการเรียนออпมามีแนวโน้มว่าสามารถทำงานได้เก่งนะ เพราะกว่าจะจบมันต้องฝึกฝนกันมากมาย

แต่ถ้าว่าอย่างไรก็ตามการฝึกฝนในระหว่างการที่ศึกษาอยู่นั้น มันฝึกฝนและเรียนรู้จากกรอบการศึกษา เมื่อทำผิดก็ทำใหม่ แก้ไขใหม่ จนกว่าจะดีขึ้นนั่นเป็นหลักการง่าย ของการศึกษาที่เชื่อว่าทุกคนที่ได้ศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยหรือในรั้วโรงเรียนก็เคยผ่านกันมาทุกคน

เมื่ออยู่ในรั้วมหาวิทยๅลัยนั้นได้เจอเพื่อน ได้อยู่กับเพื่อนถึงเวลาเรียนก็ไปถึงเวลาเลิกก็ไปกับเพื่อน แต่เ มื่อผลการศึกษาออกมาและเมื่อเราสำเร็จการศึกษาเรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องจบจากการศึกษาเพื่อมาทำงานทำการ ซึ่งผลการศึกษาที่ผ่านมานั้นจะเป็นตัวพิสูจน์ต่อไปในช่วงชีวิตวัยทำงาน

ประเด็นที่สอง คือเรื่องการทำงาน

เขาบอกกันมาว่า ค่าของคนอยู่ที่ผลของการทำงาน การทำงานของทุกคนสามารถวัดได้ง่าย โดยการวัดจากผลของงานที่ทำว่าง านนั้นเกิดคุณค่าหรือประโยชน์แก่คนร่วมงานมากน้อยไหน นั่นแหละคือ คุณภาพของงาน เมื่อพูดแบบนี้แล้วเราจะสังเกตได้ง่ายเลยว่าตอนเราเรียนไม่มีผลการวัดแบบนี้เลยการศึกษาที่ผ่ๅuมานั้นเป็นการเรียนรู้อะไรที่ทำไม่ได้สอบไม่ผ่านก็ทำใหม่

แต่จริงแล้วการทำงานนั้นไม่เหมือนแบบเรียนเลย เมื่อเราทำงานที่ได้รับมอบหมายมานั้นถ้าเกิดความผิดพลาดอะไรเกิดขึ้นกับเราบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการเสียเวลา เสียเงิน เสียใจ หัวหน้างานตำหนิ เพื่อนร่วมงานไม่มีความเชื่อถือ ทั้งหมดที่พูดมานี้คือความจริง

มีคนเคยบอกว่าการที่เราประสบความสำเร็จในชีวิต เป็นเพราะเราไม่หยุดการเ รียนรู้เพราะเมื่อไหร่ที่ออกมาจากรั้วมหาลัยแล้ว ไม่มีคุณครูคอยบอก คอยสอนจะเป็นตัวเราที่จะได้ศึกษาจริงจัง จะต้องเรียนรู้ทุกอย่างเพราะนั่นมันคือผลได้ ผลเสียของเรา ในทุกครั้ง ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตามจริงแต่ไม่ใช่จุดที่เราต้องเหยียบย่ำคนอื่นขึ้นมา แต่เราต้องพยายามเรียนรู้และแก้ไขสิ่งต่างให้ผ่านไปให้ได้

แหล่งที่มา : nongyimphiyim.com

เรียบเรียงโดย : baansuann.com