วันนี้เราจะมาติดตามเรื่องราวของ ดู๋ สัญญา หลังมาเปิดใจเกี่ยวกับรายการที่นี่หมอชิตที่ออกไปเเบบไม่ได้ลาว่า
บางทีผมไม่สัมภาษณ์บ่อยนัก เพราะชีวิตผมไม่ค่อยมีอะไรพิสดาร บางทีฟังจนจบไม่มีน้ำตาไหลเลย
ไม่มีตอนตื่นเต้นเลย พี่มาทำไมเนี่ย เรื่องเล่าผมเยอะก็จริง เเต่ไม่ดุเดือดไปสร้างเป็นหนังไม่ได้
มันเรียบง่ายเกินไป มันไม่ดราม่าบางช่วงก็มีคนบอก ผมก็ฟังทุกอันนะ เคยมีดุ เเต่ดุของผมคือเรื่องงานเท่านั้u ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว
ผมไม่เชื่อวิธีการที่ดุด้วยเรื่องส่วนตัว ถ้าทำซ้ำเเล้วยังไม่เปลี่ยนเเปลง
ก็ต้องมีคุยกันหน่อย ตามปกติก็ไม่ดุอยู่เเล้วมีคนเคยบอกผมว่า “เวลาพี่มากองถ่ายพี่ช่วยทำตัวให้ดูเหมือนคนในวงการบันเทิงหน่อย” (หัวเราะ)
ผมเคยไปกองถ่าย ทีมงานเขาล้อ เห็นชุดผมขี่มอเตอร์ไซค์ ใส่หมวกกันน็อก ทีมงานเเซวกลับมา เอาของมาส่งไปเข้าทางโน้น (ยิ้ม)
ผมว่าคนอยู่หน้ากล้องหลังกล้องก็คนธรรมดาเหมือนกันทั้งสิ้น ก็มีชีวิตคล้ายๆ กัน ไปเดินท้องถนนก็เหมือนคนอื่น
นักเเสดง พิธีกร สามารถขึ้นไปเป็นซุปเปอร์สตาร์ได้ เเต่ถ้าคุณเป็นซุปเปอร์สตาร์ คือ คุณทำสิ่งนี้จนกลายเป็นอีกเเบบนึง
เเต่ผมเป็นนักเเสดง พิธีกร ไม่ใช่ซุปเปอร์สตาร์นะเอาจริงไหม คือช่องถอน เขาจะเอาช่วงเวลาไปให้คนอื่น
มันเป็นไปตามธุรกิจ เขาอยากได้เวลา เขาอยากได้เวลา เขาอยากให้เราออก เราก็ต้องออกทุกรายการเป็นผมหมด
ผมใส่ตัวตนจริงเข้าไปในทุกรายการเลิกเองครับ กิจการไม่เอื้อผมคิดว่ารายการเราเป็นเเค่รายการนึงที่อยู่ในพันกว่ารายการ
เราไม่ได้เลิกไปอยู่ดาวดวงอื่น ยังอยู่ในธุรกิจนี้ ไม่ต้องงอเเง ฟูมฟาย เพราะโลกมันเปลี่ยน
เราก็ต้องหาหนทางอื่นต่อไปที่คุณทำได้กับการเปลี่ยนเเปลงนั้น ผมไม่เศร้า ไม่ทุกข์ ไม่ต้องการผู้ชมดราม่า
ผมก็เเค่หายไป สิ่งที่ผมเสียใจคือ ลุกน้องผม
แหล่งที่มา homeinsuranceworld
เรียบเรียงโดย baansuann.com