“บุญคุณต้องทดแทน” ตอนเราลำบาก เพื่อนให้ยืมเงินหลักพัน ผ่านไป 32 ปี ขอตอบแทนด้วยเงิน 46 ล้านบาท

วันนี้เรามีเรื่องราวดี ๆ มาฝากทุกคน ซึ่งเราเชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “บุญคุณต้องทดแทน” เป็นหลักการพื้นฐานของความเป็นมนุษย์

เชื่อว่าทุก ๆ คนเคยได้ยิน และไม่นานมานี้ก็เกิดเหตุการณ์ตอบแทนบุญคุณน่าประทับใจขึ้นจริง ๆ

เมื่อ 32 ปีที่แล้วนาย ซุน เซิงหลง (Sun Shengrong) เด็กหนุ่มจากประเทศจีน ในช่วงวัย 14 ปี เขาทำงานในร้านตัดผมที่พี่ชายเปิด

ในเวลานั้น จาง อ้ายหมิน (Zhang Aimin) วัย 24 ปีเป็นลูกค้าประจำขอที่ร้าน นานวันเข้าก็คุ้นเคยกลายเป็นเพื่อนกับนายซุน ต่อมาร้านตัดผมปิดตัวลง นายซุน จึงต้องไปรับจ้างทำงานไปทั่ว

วันหนึ่งขณะเดินอยู่ข้างถนนก็ได้พบกับ นายจางโดยบังเอิญ พอนายจางรู้ว่า นายซุนกำลังลำบาก ก็ควักเงิน 1,000 หยวนที่เก็บมา 1 ปี (ราว 4,600 บาท)

ให้ไปทันที เป็นเงินทุนเพื่อช่วยให้นายซุนเปิดร้านตัดผมอีกครั้ง พวกเขามักจะไปมาหาสู่ช่วยเหลือกัน บางครั้งก็ช่วยทำอาหารให้ สองคนสนิทสนมกันเหมือนพี่น้อง

แต่เมื่อนายซุนไปเกณฑ์ทหารก็ขาดการติดต่อกับนายจางไป หลังเกณฑ์ทหาร นายซุนก็เดินทางไปสเปน ทำงานสารพัดอย่าง ไม่ว่าจะเป็นพ่อครัว พนักงานเสิร์ฟ

ขๅยของข้างถนนและอื่น ๆ สุดท้ายหลังผ่านการพยายามทำงานหนักมานาน ฟ้าก็เมตตาให้นายซุนกลายเป็นผู้นำชาวจีนโพ้นทะเลที่มีชื่อเสียงในสเปน

จนประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน แต่ใจของเขาก็ไม่เคยลืมผู้มีพระคุณอย่าง “นายจาง”

เพื่อตามหา นายจางผู้มีพระคุณ นายซุนสอบถาม และขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานของรัฐ ตามข้อมูล ภาพถ่าย และที่อยู่พบว่ามีคนที่ชื่อและนามสกุลเดียวกัน

กับ นายจางอ้ายหมิน 140 คน แต่ในที่สุดก็พบคนที่ดูคล้ายที่สุด แต่พอไปตามที่อยู่กลับไม่พบใคร ระหว่างที่เขากำลังสิ้นหวัง

ในที่สุดก็ได้ข่าวดี คุณตำรวจได้พบ นายจางตัวจริง เพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันนานได้กลับมาพบกันอีกครั้ง สองคนคุยกันทั้งคืน

นายซุนถึงได้รู้ว่า หลังแยกกัน นายจางไปทำงานที่โรงงานเครื่องจักร แต่เนื่องจากบริษัทดำเนินไปได้ไม่ดี ปี 2011 จึงถูกเลิกจ้าง จากนั้นเขาก็ไปเปิดร้านค้าในเมือง

นายจางเล่าว่า ตัวเองแม้ว่าจะไม่ใช่คนรวย แต่ฐานะทางเศรษฐกิจตอนนี้ก็พอมีพอกิน ตอนนั้นที่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือนายซุนก็เพราะคิดว่าเขาเป็นน้องชายคนนึง

เพื่อตอบแทนบุญคุณของนายจาง ในตอนนั้น นายซุนตั้งใจจะมอบตึกแถวให้เขาสองหลัง นึกไม่ถึงว่าจะถูกนายจางปฏิเสธ

เขาก็เลยเปลี่ยนวิธี เขาเปิดโรงกลั่นไวน์ในซูโจวโดยลงทุนมากกว่า 10 ล้านหยวน (ราว 46 ล้านบาท)

โดยให้ร้านนั้นเป็นชื่อของ นายจางและให้เขาดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบ นายจางที่ช่วยคนโดยไม่หวังผลตอบแทนหรือชื่อเสียงเล่าว่า

“แม้ว่าโรงกลั่นไวน์จะเป็นชื่อผม แต่ในอนาคตสักวันหนึ่ง ผมก็จะคืนมันให้กับนายซุน”

มิตรภาพที่จริงใจน่าตื้นตัน ประสบความสำเร็จแล้วก็ไม่ลืมผู้มีพระคุณ ช่างเป็นคนมีน้ำใจ เรื่องราวแบบนี้ทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้นมากมาย

 

แหล่งที่มา: LIEKR

เรียบเรียงโดย baansuann.com