บอร์ด สปสช. เห็นชอบให้บัตรทอง รักษาโรงพยาบาลไหนก็ได้

วันนี้เรามีข่าวดีมาฝากผู้ถือบัตรทอง โดยเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 63 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) กล่าวภายหลังประชุมบอร์ดสปสช. ว่า

ที่ประชุมบอร์ด สปสช. ได้เห็นชอบข้อเสนอการพัฒนาระบบบริการ ช่วยลดขั้นตอน แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการเข้ารับบริการให้กับประชาชนผู้มีสิทธิ ตามที่ได้มอบนโยบายไปก่อนหน้านี้ใน 4 เรื่อง ได้แก่

1. นโยบาย 30 บาทรักษาในหน่วยบริการปฐมภูมิทุกที่กับหมอประจำครอบครัว เบื้องต้นนำร่องในพื้นที่ กทม. และ ปริมณฑล ซึ่งโครงสร้างของระบบบริการมีความพร้อมที่จะเดินหน้าได้ โดยจะขยายเครือข่ายบริการปฐมภูมิเพื่อรองรับและเชื่อมต่อข้อมูลคลินิกหมอครอบครัวและผู้ป่วຍ จัดทำระบบตรวจสอบสิทธิผ่านแอปพลิเคชัน มีระบบยืนยันตัวตนการรับบริการผ่านบัตรประชาชน เริ่มวันที่ 1 พ.ย. 63 นี้

2. ผู้ป่วຍในที่ต้องอยู่นอนในรพ.ต่อเนื่อง เดิมเมื่อใบส่งตัวครบกำหนดต้องกลับไปขอใหม่ที่หน่วยบริการประจำทำให้ยุ่งยาก จึงปรับระบบให้ผู้ป่วຍในรักษาต่อเนื่องได้ทันทีตามการวินิจฉัยของแพทย์โดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว ใช้เพียงบัตรประชาชนตรวจสอบตัวตนผู้ป่วຍ

จะนำร่องในพื้นที่เขต 9 นครราชสีมา วันที่ 1 พ.ย. 63 นี้ ส่วน กทม.และปริมณฑล จะเริ่มวันที่ 1 ม.ค. 64 ก่อนขยายไปยังจังหวัดอื่น

3. โรคมะเร็งไปรับบริการที่ไหนก็ได้ที่พร้อม โดยผู้ป่วຍที่ถูกวินิจฉัยแล้วว่าเป็นมะเร็งจะได้ใบรับรองและประวัติ หรือ Code เพื่อเลือกไปรับบริการที่อื่นผ่าน 3 ช่องทาง คือ สายด่วน สปสช. 1330, แอปพลิเคชัน สปสช. และติดต่อที่หน่วยบริการโดยตรง เฉพาะที่รพ.รักษามะเร็ง ที่มีความพร้อมเข้าร่วม

โดย รพ.จะส่งข้อมูลเบิกจ่ายมายังสปสช. เพื่อให้รักษาโดยเร็ว ไม่ให้อาการลุกลามและเพิ่มโอกาสรักษาให้หายขาดในมะเร็งบางชนิด เริ่มใน รพ. ที่มีความพร้อมทั่วประเทศในวันที่ 1 ม.ค. 2564

4.ย้ายหน่วยบริการได้สิทธิทันที ไม่ต้องรอ 15 วัน จะเริ่มพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 1 ม.ค. 64

ด้าน นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการ สปสช. เปิดเผยว่า การพัฒนาระบบบริการบัตรทองในครั้งนี้สปสช. สามารถเดินหน้าได้จากรับความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะจากกระทรวงสาธารณสุข และ กทม. ในการจัดเตรียมเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิในเขต กทม. และปริมณฑลรองรับเพื่อให้ผู้ป่วຍนอกเข้ารับบริการที่หน่วยบริการปฐมภูมิได้ทุกที่

” รวมถึงความร่วมมือจากหน่วยบริการทั้งภาครัฐและเอกชนที่ร่วมระบบบัตรทองในการปรับระบบบริการ ทั้งผู้ป่วຍในไม่ต้องกลับไปรับใบส่งตัว โรคมะเร็งไปรับบริการที่ไหนก็ได้ที่พร้อม และย้ายหน่วยบริการได้สิทธิทันทีไม่ต้องรอ 15 วัน

ทั้งนี้จากที่บอร์ด สปสช. ได้ให้ความเห็นชอบแล้ว ได้มอบคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องและ สปสช. ปรับปรุงระเบียบ ประกาศที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับการดำเนินตามนโยบาย และเสนอให้ประธานบอร์ดสปสช. ลงนามต่อไป ”

แหล่งที่มา: nhso

เรียบเรียงโดย baansuann.com