จากกรณีที่โลกออนไลน์ให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก เมื่อพี่สาวของ น้องเมย ได้ออกมาโพสต์ภาพเอกสาน จากสัสดี อ.เมืองชลบุรี จากกรณีที่น้องเมย ไม่มาแสดงตัวเพื่อรับราชการทหารประจำปี 2563 จนทำให้หลายคนออกมาแสดงความคิดเห็นต่างๆ นาน
ทั้งนี้ หนังสือดังกล่าวระบุว่า “เรียน นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือผู้ปกครอง หรือเจ้าบ้าน ด้วยในคราวตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ประจำปี 2563 ของ อ.เมืองชลบุรี ปรากฏว่าท่านเป็นบุคคลหนึ่งที่ไม่ไปแสดงตนเพื่อรับหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร
โดยไม่ฏิบัติตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ. 2497 จึงให้ท่านไปแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่สัสดี อ.เมืองชลบุรี ณ ที่ทำการสัสดี อ.เมืองชลบุรี ภายในที่ว่าการอำเภอเมืองชลบุรี ด่วนที่สุด ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2563
เพื่อชี้แจงให้ทราบเหตุผลที่ท่านไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนดไว้ และเมื่อพ้นระยะวลาที่กำหนดดังกล่าวแล้ว ท่านจะถูกดำเนินคดีอาญาตามความผิดฐานหลีกเลี่ยงขัดขืนไม่มาแสดงตนพื่อรับหมายเรีกเข้ารับราชการทหาร
ตามมาตรา 44 มีโทษจำคุnไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 300 หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมนี้ให้ท่านนำหนังสือฉบับนี้ พร้อมทั้งใบสำคัญ(แบบ สด.9) และบัตรประจำตัวประชาชนของท่านไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่สัสดี อ.เมืองชลบุรีด้วย
ล่าสุด พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมากล่าวถึงกรณีการส่งจดหมายเรียกตัว นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารที่ເสียชีวิตไปแล้วให้ไปเกณฑ์ทหารว่า
กองทัพบกต้องขออภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่ ไปกระทบความรู้สึกซึ่งในข้อเท็จจริงระบบทะเบียนทหารยังไม่เชื่อมโยงกับทะเบียนราษฎร
เมื่อถามว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้สั่งให้ดำเนินการแก้ไขระบบหรือไม่ พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ใน ระหว่างนำไปเข้าสู่กระบวนการพิจารณา
เพราะปกติเมื่ออายุครบ 17 ปีบริบูรณ์ก็จะมาขึ้นทะเบียนทหารโดยตรง ไม่ได้ไปขึ้นกับทะเบียนราษฎร เมื่อมีการເสียชีวิตหลังจากนี้ หน่วยทหารก็ต้องตรวจสอบร่วมกับฝ่ายปกครองต่อไป
แหล่งที่มา : tnews.co.th , thebangkokinsight.com
เรียบเรียงโดย : baansuann.com