หนุ่มเกิดอุบัติเหตุ สมองไม่ทำงาน ขอทำดีครั้งสุดท้าย บริจาค 1 ชีวิต เพื่อช่วยต่อให้ 4 ชีวิต

วันนี้เราจะมาติดตามเรื่องราวบนโลกออนไลน์ หลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊ค “ชไมพร สีทอง” ได้มีการโพสต์เล่าเรื่องราวของผู้ป่วຍชายจากอุบัติเหตุล้ม เลืoดคั่งในสมองเข้ารับการผ่าตัด แต่มีเลืoดออกมากทำให้สมองไม่สามารถใช้งานต่อได้ ซึ่งมีเรื่องราวที่น่ายกย่องเกิดขึ้นท่ามกลางเรื่องเศร้านี้โดยระบุว่า

“มีเรื่องเล่าให้ฟังอีก ท่ามกลางสถานการณ์โควิด 19 ผู้ชายคนนี้เป็นลูกชายเดียวของครอบครัว อายุ 38 ปี ผู้ป่วຍเกิดภาวะเส้นเลืoดในสมองแตก เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์

แพทย์ต้องทำการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน.เพื่อช่วยชีวิตแต่อาการไม่ดีขึ้นเลยเนื่องจากเลืoดที่ออกมีขนาดใหญ่มาก..หลังจากผ่าตัดคนไข้ไม่รู้สึกตัว เกิดภาวะสมองไม่ทำงาน ซึ่งทางการแพทย์ถือว่าได้เสีຍชีวิตแล้วแพทย์ได้แจ้งข่าวร้ายกับคุณพ่อและได้แจ้งเรื่องการบริจาคอวัยวะ

คุณพ่อนิ่งฟังด้วยสีหน้าเรียบเฉย และตอบตกลงทันที ก่อนที่ลูกจะจากไปอยากจะทำบุญครั้งใหญ่ให้ลูกเป็นครั้งสุดท้าย ทางทีมประสานงานกับทางสภากาชาดไทยทันทีเนื่องจากต้องทำงานแข่งกับเวลา..ท่ามกลางทุกสิ่งอย่างที่จำกัดเหมือนอย่างที่เคยปฏิบัติมา ทุกอย่างดำเนินการไปด้วยความเรียบร้อยถึงแม้จะมีอุปสรรคบ้าง

ขอขอบคุณพ่อที่ร่วมเป็นสะพานบุญกับเราเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วຍที่รอคอยอวัยวะ ขอให้น้องได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี #บริจาคอวัยวะสร้างกุศลผู้ให้สร้างชีวิตใหม่ผู้รับ #บริจาคอวัยวะความดีที่ไม่สิ้นสุดคือการบริจาคอวัยวะเมื่อยามสิ้นสูญ”

และล่าสุดในวันนี้ได้มีการโพสต์อีกครั้งระบุว่า “หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาทีมแพทย์จากสภากาชาดไทยได้เดินทางมาผ่าตัดร่างน้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว เช้าวันนี้ได้มีพิธีมอบพวงหรีดและเกียรติบัตรจากสภากาชาดไทย ให้กับคุณสุรชัย พรหมประเสริฐ ผู้เป็นบิดา

โดยคณะผู้บริหารโรงพยาบาลและตัวแทนเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นผู้มอบ และทางโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ได้นำส่งร่างของน้องตั้งบำเพ็ญกุศล ณ วัดช้างเผือก ตำบลสะเดียง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ อวัยวะที่น้องสามารถบริจาคได้คือ ไต 2 ข้าง กระจกตา 2 ดวงได้นำไปช่วยเหลือผู้ป่วຍที่รอคอยอวัยวะสมตามเจตนารมย์แล้ว

ขอบุญกุศลที่ได้ทำนี้ส่งผลให้ได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี และครอบครัวพบแต่ความสุขความเจริญ หนึ่งชีวิตจากไปหลายคนมีชีวิตใหม่..เปลี่ยนความเศร้าเป็นความดี เพราะความดีที่ไม่สิ้นสุดคือการบริจาคอวัยวะเมื่อยามสิ้นสูญ ”

ทั้งนี้มีการรายงานว่าทางด้าน นายสุรชัย พรหมประเสริฐ เล่าว่าเมื่อช่วงสายของวันที่ 31 พ.ค.63 ได้นำตัวลูกชายซึ่งคาดว่าหน้ามืดและล้มหัวฟาดพื้นภายในห้องนอน และทราบต่อมาว่าเกิดจากอาการเส้นเลืoดในสมองแตกและมีเลืoดคั่งในสมองบริเวณก้านสอง แพทย์ผ่าตัดอย่างเร่งด่วน แต่อาการไม่ดีขึ้นเลย

เนื่องจากเลืoดที่ออกมีขนาดใหญ่มาก เกิดภาวะสมองไม่ทำงาน ต่อมาพยาบาลเข้ามาแจ้งอาการว่าในทางการแพทย์ถือว่าเสีຍชีวิตแล้ว พร้อมทั้งพูดคุยถึงโครงการบริจาคอวัยวะ เพื่อช่วยเหลือชีวิตคนอื่น จึงตัดสินใจในทันที โดยไม่ลังเลว่า ยินยอมบริจาคอวัยวะทั้งหมด

รวมทั้งร่างกายของลูกชายทั้งหมด เผื่อว่าจะสามารถไปช่วยชีวิตหรือเป็นประโยชน์แก่บุคคลอื่น เพื่อเป็นบุญกุศลของเขาเอง รวมทั้งทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่แม่ของเขา ซึ่งเสีຍชีวิตไปเมื่อปีที่ผ่านมา

และทางด้านแพทย์หญิงดวงดาว ศรียากูล รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ กล่าวว่า โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ประสานไปยังสภากาชาดไทยซึ่งมีการส่งทีมแพทย์มาผ่าตัด โดยอวัยวะที่สามารถนำไปช่วยผู้อื่น ประกอบด้วยไต 2 ข้าง ดวงตา 2 ข้าง ส่วนอวัยวะอื่นรวมทั้งร่างกายนั้นมีข้อจำกัดในการบริจาคจึงไม่สามารถบริจาคได้

แต่ทั้งนี้ไต 2 ข้าง ดวงตา 2 ข้าง นั้นไม่ใช่ว่าจะช่วยชีวิตบุคคลอื่นได้ 4 ชีวิตเท่านั้u แต่ยังสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตอื่น ๆ  ไปในทางที่ดีได้อีกนับ 10 ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นญาติ พ่อแม่ พี่น้อง ของผู้ที่ได้รับบริจาคอวัยวะเหล่าก็เชื่อว่าจะต้องมีชีวิตไปในทางที่ดีขึ้นเช่นกัน

แหล่งที่มา: ชไมพร สีทอง / tvpoolonline

เรียบเรียงโดย baansuann.com